- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 18 September 2014 17:46
- Hits: 1819
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เหนือ 1576 จุดเลือกเก็งกำไรสั้น – ต่ำกว่าขาย
หลังการปรับตัวลดลง -13.71 จุดเมื่อวันอังคาร SET รีบาวด์ +5.23 จุดเมื่อวาน เป็นทิศทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก โดยปิดที่ 1570.64 จุด (+5.23 จุด, +0.33%) มีแรงซื้อกลับในกลุ่ม SET50, SET100, และ SETHD ในรายกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดเช่น โรงพยาบาล (+1.15%), วัสดุก่อสร้าง (+1.23%) และ ธนาคาร (+0.9%) ลดลงสวนตลาดจะเป็นกลุ่ม อสังหาฯ ปิโตรเคมี ขนส่ง และกลุ่มเล็กเช่น ท่องเที่ยว ยานยน อาชีพ เหมืองแร่และการเงิน มูลค่าการซื้อขายถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติที่ 46,556 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิอย่างมีนัยสำคัญ 2,237 ล้านบาท กองทุนในประเทศซื้อสุทธิเล็กน้อย 42 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
เฟดมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25% นอกจากนี้ ยังได้ประกาศปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก US$1 หมื่นล้าน ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงเหลือ US$1.5 หมื่นล้านต่อเดือนบ่งชี้ว่าเฟดจะยังเดินหน้าปรับลด QE ไปจนจบโครงการในปีนี้
ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบวงเงิน US$8.1 หมื่นล้าน (5 แสนล้านหยวน) เพื่ออัดฉีดเข้าไปยังธนาคารรายใหญ่ของรัฐบาลจำนวน 5 รายของจีนเพื่อรับมือกับภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและจะอยู่ในรูปแบบของการปล่อยเงินกู้ระยะเวลา 3 เดือน ดอกเบี้ยต่ำ
กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.0% ตามคาด ประเด็นสำคัญคือเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้าและเศรษฐกิจกลุ่มยูโรและญี่ปุ่นยังคงอ่อนแอ แต่จะได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากนโยบายเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องในระยะต่อไป เศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวได้และเศรษฐกิจเอเชียโดยรวมยังขยายตัวได้ ความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายในประเทศของครัวเรือน ธุรกิจ และภาครัฐเริ่มฟื้นตัวส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศดีขึ้นแต่มีข้อจำกัดด้านการผลิตและปัญหาราคาสินค้าเกษตรมีผลต่อภาคส่งออก ภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆก่อนปรับเข้าสู่ระดับปกติ ส่วนระบบการ เงินและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเกณฑ์ที่มีเสถียรภาพ
ในวันนี้เราประเมินทิศทางตลาดยังมีความเสี่ยงทางลงสูงมีข้อสังเกตุว่าค่าเงินบาทยังอ่อนค่า (32.29 บาท/US$) แม้ว่าต่างชาติเข้าซื้อสุทธิสูงเราประเมินวิ เคราะห์เทคนิค SET วันนี้จะมีความสำคัญที่ 1,576 จุดหาก SET สามารถปรับขึ้นเหนือแนวต้าน 1,576 จุด คาดว่ายังมีแนวโน้มที่ปรับตัวขึ้นต่อทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,590 จุด แนะนำเลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรสั้น แต่หากตลาดปรับลดลงหรือต่ำกว่า 1,576 จุดนั้น คาดว่าจะมีแรงขายที่กดดัน SET ให้ลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ แนะนำขายหุ้น หรือรอดู หุ้นเทคนิคแนะนำขายทำกำไรเช่น TTA, TMB, TPIPL, IVL
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตลงทุนเหลือ 30% จาก 50%
เราปรับลดการถือครองหุ้นเหลือ 30% และถือครองเงินสดเพิ่มเป็น 70% โดยขายหุ้นเพื่อรับรู้กำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักทั้งหมด 4 หลักทรัพย์ซึ่งให้ผลตอบแทนเฉลี่ยน้ำหนักรวม +5.85% คือ DTAC (+0.3%), TUF (+0.6%) และ PS (+4.6%) และลดน้ำหนักลงทุน CPALL จาก 10% เหลือ 5% (+0.35%) สถานะหุ้นถือครองลดลงจาก 9 เหลือ 6 หลักทรัพย์คือ PTTEP, PTTGC, HMPRO, CPALL, ADVANC, KBANK
Accumulate : -- รอสะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1576 จุด ต่ำกว่า รอ
เปรียบเทียบการเคลื่อไหวดัชนี
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 30% ถือเงินสด 70%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +2.6%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.4%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +4.0%
ผลตอบแทนตลาด SET = +16.1%
ผลรวมพอร์ตจำลองสุทธิ < SET
พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 3 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% และวันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (มีส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักรวมคิดเป็น 3.3% จากการลดพอร์ต), และวันที่ 16 ก.ย. เราขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักอีก 5.9%) รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 3 ครั้งคิดเป็น 9.2%
Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130