กลยุทธ์ : หลังดัชนี SET ลงไปต่ำสุดในวันที่ 12 ก.ย. ที่ 1666 จุด แล้วดีดตัวขึ้นไปถึงสูงสุดที่ 1762 จุดในวันที่ 19 ก.ย. ปรากฏว่าหุ้นใน SET 50 ที่ขึ้นได้แรงจะเป็นหุ้นที่ลงไปลึกก่อนหน้านี้ อย่าง EA DTAC BJC ROBINS CPN โดยกลุ่มที่โดดเด่นขึ้นมาคือ กลุ่มผลิตไฟฟฟ้า อย่าง EA BGRIM ส่วนกลุ่มที่ไม่ขึ้นหรือขึ้นน้อยมากคือ กลุ่ม สื่อสาร อาหาร และโรงพยาบาล ส่วนที่ปรับตัวลง คือ DELTA BDMS CPF โดยเฉลี่ยอัตราการขึ้นของ SET 50 ประมาณ 50% ขึ้นไปเฉลี่ยมากกว่า 5% ในรอบ 1 สัปดาห์ ดัชนี SET ที่ขึ้นมาชนระดับค่า +2 SD ที่ประมาณ1760+/- จุด โอกาสที่จะไปต่อยังมี แต่มีเงื่อนไขที่มูลค่าการซื้อขายจะต้องสูงมากๆ หรือมีปัจจัยหนุนที่ดีมากๆ หรือราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นแรงๆ แต่หากไม่เกิด ดัชนีน่าจะย่อตัวลงมาสร้างฐานใหม่ เพื่อรอการประกาศงบ Q3/18 ตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. ดังนั้นยังมีโอกาสในช่วงสั้นที่จะย่อตัวลงมาเล่นที่กรอบ 1730-1740 จุดในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ส่วนกรอบบนมองที่ 1760-1765 จุด สภาพตลาดในวันนี้ คาดดัชนียังมีแรงหนุนจากการปิดบวกของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมัน แต่ยังมีโอกาสที่จะเผชิญกับแรงขายต่อ หลังดัชนี SET ในรอบ 1 สัปดาห์ปรับตัวขี้นมาเกือบ 100 จุดหรือขึ้นมาประมาณ 5.4% ใกล้เคียงกับการขึ้นของดัชนีเฉลี่ยในช่วงก่อนเลือกตั้ง 6 เดือนที่ประมาณ 5.1% นอกจากนั้นหุ้นในหลายๆ กลุ่มเริ่มส่งสัญญาณการพักตัวแนวโน้มวันนี้คาดดัชนีจะเปิดในแดนบวกตามดัชนีในภูมิภาค จากแรงหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานแล้วค่อยๆ ย่อตัวลง โดยมีแนวต้านที่ 1758-1762 จุดและแนวรับที่ 1744-1740 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CPF DTAC IVL SPRC

 

  DTAC : เราแนะนำ ซื้อ หุ้น DTAC โดยมีราคาเป้าหมาย 54.40 บาท หลังที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.มีมติผ่านร่างประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม ย่าน 900 เมกกะเฮิรตซ์ ขนาด 5 MHz เพื่อเปิดประมูลครั้งใหม่ โดยกรอบระยะเวลาในการดำเนินการจัดประมูล กำหนดจะจัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเพียง 3 วัน และจัดประมูลได้ในวันที่ 20 ต.ค.61 แต่หากเป็นกรณีที่มีผู้ยื่นขอประมูลเพียงรายเดียว กสทช.จะขยายระยะเวลาออกไป โดยคาดว่าจะสามารถจัดประมูลได้ในวันที่ 3 พ.ย.61 นอกจากนั้นจะไม่อุทธรณ์คำสั่งทุเลาของศาลปกครองที่ให้ลูกค้าDTAC ได้รับสิทธิเข้าสู่มาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.61 จากผลดังกล่าวถือเป็นบวกกับ DTAC ในการที่ความเสี่ยงของความครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ (3G coverage) จากปัจจุบันที่ 94% (เทียบกับคู่แข่งที่ 98%) จะไม่ลดลงเหลือ 89% ทำให้ยังสามารถอยู่ในสภาะที่แข่งขันได้และหากประมูลคลื่น 900 MHz ได้ก็จะมีคลื่นความถี่เพียงพอและครอบคลุมการให้บริการลูกค้าทั่วประเทศได้อย่างสมดุลเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

 

  20 ก.ย. : THG FTE JKN RICHY NDR

  21 ก.ย. : PM TLUXE PJW ANAN

 

  20 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Existing Home Sales เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 5.36 ล้านยูนิตจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.34 ล้านยูนิต

  21 ก.ย. : ไทยประกาศตัวเลข Custom Exports YoY เดือนส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 8.27%

  21 ก.ย. : ยุโรปประกาศตัวเลข Markit Eurozone Manufacturing PMI เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 54.6

  21 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Markit US Manufacturing เดือนก.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ 54.7

  26 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข New Home Sales MoM เดือนส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 627,000 ยูนิต; การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) โดยตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.00% เป็น 2.25%

 

  DTAC : Company Note คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย 54.40 บาท

  AUTO & PARTS : Sector Note คำแนะนำ : Overweight Top Pick - SAT

 

  กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1740 จุดขึ้นไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรบัตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1760 และ 1785 จุดตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับที่ 1740 และ 1730 จุดเป็นแนวรับสำคัญของการปรับฐาน

  Thoresen Thai Agencies (TTA TB; THB 7.30) -ซื้อ

  After You (AU TB; THB 8.15) - ซื้อ