เน้นหุ้น Laggard // หุ้น Big Cap ถือ

  เรามองว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะช่วยหนุนตลาด หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวผ่าน US$70.00/barrel ปิดที่ US$71.12/barrel เพิ่มขึ้น +1.8% dod หลัง EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลงสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน 

  นอกจากนั้น PTT ยังมีปัจจัยบวกรออยู่คือ เงินปันผลงวด 1H61 คาดว่าจะประกาศสัปดาห์หน้าหุ้นละ 0.90 บาท Yield 1.7%

 

  เรามีมุมมองบวกมากขึ้นต่อกลุ่มธนาคาร หลังการประชุมกนง.วานนี้มีมติคงดอกเบี้ย คะแนนเสียง 5:2 พร้อมส่งสัญญาณลดการผ่อนคลายนโยบายการเงิน จึงมีโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือน ธ.ค. และเป็นบวกต่อ NIM ของกลุ่มธนาคารในปี 2562

  หุ้นกลุ่มธนาคารได้ประโยชน์โดยตรงจากประเด็นการเลือกตั้ง มั่นใจทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เป็นบวกต่อการขยายตัวของสินเชื่อและคุณภาพสินทรัพย์ให้ดีขึ้น

 

  เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2561-2562 ขึ้น 46% และ 9% จากการปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นเป็น 7.3% ในปี 2561 และ 8.1% ในปี 2562 (เดิม 6.2% และ 7.9%) หลังอัตรากำไรขั้นต้นใน 1H61 แตะ 7% ดังนั้น ประมาณการใหม่คาดกำไรปี 2561 เติบโตถึง +164% YoY เป็น 1,061 ล้านบาท และต่อเนื่อง +56% YoY ในปี 2562 เป็น 1,589 ล้านบาท และมีปัจจัยหนุนคือมีโอกาสได้งาน PPP โครงการรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน

 

  ราคาปิดวานนี้ที่ 86.75 บาท เตรียมทดสอบแนวต้านสำคัญเส้น 200 วันที่ 87.00 บาท หากผ่านได้ทางเทคนิคมีโอกาสขึ้นทดสอบ 91.00-91.50 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 85.75 บาท 

  แนวโน้มกำไรปกติ 3Q61 คาดเติบโต QoQ ทั้งจากค่าการกลั่น และ PX Spread ที่ขยายตัว QoQ ขณะที่การลดสารกัมมะถันในน้ำมันเตาของอุตสาหกรรมเดินเรือจาก 3.5% เหลือ 0.5% (IMO) เริ่มปี 2563 จะเป็นบวกต่อค่าการกลั่นในระยะกลาง-ยาว

SET INDEX บวกถึง 70 จุดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เรามองว่า SET INDEX อาจลดความร้อนแรงในช่วงสั้น เราประเมินกรอบแกว่ง SET INDEX ระหว่าง 1740/45-1760/65 จุด โดยกลุ่ม Global Play โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี จะสลับเข้ามาช่วยหนุนตลาดวันนี้ ตามราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดบวกเด่น 1.8% DoD ทะลุด่าน US$70/bbl. จากสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯที่ปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 5 เรามองเป็นจังหวะของการเก็งกำไรหุ้น PTT (ยังไม่ประกาศปันผลงวด 1H61) / TOP (กำไร 3Q61 คาดโตเด่น QoQ) 

สำหรับผลการประชุม กนง.วานนี้ มีมติ 5-2 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ตามคาด และคงประมาณการ GDP ไทยทั้งปีนี้และปีหน้า แต่ส่งสัญญาณต่อความจำเป็นในการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลดลง ทำให้เรามองว่ากนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งภายในปีนี้เป็น 1.75% ในการประชุมเดือนธ.ค. เป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ เราแนะนำเก็งกำไร BBL/ KBANK/ SCB 

อย่างไรก็ตาม เรามองว่า upside ของ SET INDEX เริ่มจำกัด จาก Valuation ที่ตึงตัว PER61 ของ SET INDEX ณ ปัจจุบันเข้าใกล้ +1SD ของค่าเฉลี่ย 1Yr Forward PER ย้อนหลัง 1 ปีแล้ว ดังนั้นกลยุทธ์ภาพรวมเราคงแนะนำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไรบางส่วน บริเวณเหนือแนว 1750 จุด และถือเงินสด หรืออาจหมุนเข้าหาหุ้นใน SET100 ที่ยังขึ้นมาน้อยกว่ากลุ่ม/หรือตลาดรวม (Laggard Play) โดยเราให้น้ำหนักกลุ่มธนาคาร/ อสังหาฯ/ วัสดุก่อสร้าง/ท่องเที่ยวเป็นสำคัญในช่วงนี้ ขณะที่กลุ่ม Mobile Operators น่าจะ Underperform ในช่วงนี้ หลังกสทช.เตรียมประมูลคลื่น 900MHz อีกครั้งในวันที่ 20 ต.ค.นี้ แต่หากมีผู้ยื่นขอประมูลเพียงรายเดียว จะประมูลได้ในวันที่ 3 พ.ย.2561

 

1. การประมูลคลื่น 900MHZ กลับมาอีกครั้ง ประมูลวันที่ 20 ต.ค.หากมีผู้เข้าประมูลมากกว่า 1 ราย และวันที่ 3 พ.ย. หากมีผู้สนใจประมูลเพียงรายเดียว

2. น้ำมันดิบ NYMEX ทะลุผ่าน US$70.00/barrel อีกครั้ง อะไรเป็นปัจจัยหนุน และหุ้นใดน่าสนใจ 

3. SET INDEX ขึ้นมาแล้วเกือบ 70 จุด ตั้งแต่ประกาศใช้กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งฯ นักลงทุนควรปรับกลยุทธ์อย่างไร 

4. การประชุมกนง.วานนี้ ส่งสัญญาณอย่างไร หุ้นกลุ่มใดควรเพิ่มน้ำหนักการลงทุน

 

วานนี้ SET INDEX ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 1760 จุด ก่อนมีแรงขายทำกำไรกดดันให้ SET INDEX ย่อตัวลงมาปิดที่ 1749.80 จุด เพิ่มขึ้น 5.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.2 หมื่นล้านบาท สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. 2561 

กระแสเงินทุน: นักลงทุนต่างชาติที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 อีกราว 1.6 พันล้านบาท รวม 5 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 5.7 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศซื้อสุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 2 อีกราว 6.2 พันล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 1.1 หมื่นล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 3.2 พันสัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิสะสมราว 1.4 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 5.7 หมื่นสัญญา โดย S50U18 มี Discount จาก SET50 Indexราว 0.4 จุด จากวันก่อนหน้ามี Premium ราว 2.6 จุด ด้านกลุ่มสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 493 สัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 2.2 หมื่นสัญญา 

ตลาดตราสารหนี้: นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิวันแรกในรอบ 9 วันทำการ โดยขายสุทธิเล็กน้อยราว 72 ล้านบาท

 

 

ประธานาธิบดีจีนเผยจะใช้โอกาสจากสงครามทางการค้าครั้งนี้ในการส่งเสริมและพัฒนาการค้าท้องถิ่น เพื่อทดแทนสินค้านำเข้า และจะเป็นผู้ชนะในสงครามการค้าครั้งนี้

นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวพร้อมให้ความร่วมมือกับ World Economic Forum (WEF)  และทุกฝ่าย เพื่อให้มีการหารือเกี่ยวกับปัญหาของเศรษฐกิจโลก

อาลีบาบายกเลิกแผนการสร้างงาน 1 ล้านตำแหน่งในสหรัฐฯ

ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ -0.1% และคงอัตราดอกเบี้ยระยะยาวไว้ที่ระดับใกล้ศูนย์ พร้อมส่งสัญญาณอาจยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในอนาคตหากเงินเฟ้อถึงเป้าที่ระดับ 2%

EIA รายงานสต๊อกนั้นดิบของสหรัฐฯ ลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 5 และทำจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2558

กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5% ด้วยคะแนนเสียง 5:2 เสียง และคงประมาณการ GDP 2561 ไว้ที่ 4.4%

ที่ประชุมคณะกรรมการ AOT มีมติให้เดินหน้าโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิหลังที่ 2 หลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่คุ้มครองผู้ร้องคัดค้านผลประกวดงานออกแบบ

ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. มีมติผ่านร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม ย่าน 900MHz ขนาด 5MHz และจัดประมูลวันที่ 20 ต.ค. 2561 แต่หากมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลเพียงรายเดียว กสทช. จะเลื่อนการประมูลไปเป็นวันที่ 3 พ.ย. 2561

ติดตามการรายงานนำเข้า/ส่งออกไทยเดือน ส.ค.2561 ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 4.75% YoY และการรายงานเงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือน ส.ค. วันที่ 21 ก.ย.

การปรับน้ำหนักดัชนี FTSE ณ ราคาปิดวันที่ 21 ก.ย.