- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 19 September 2018 17:06
- Hits: 2573
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
กระทิงขวิด
เมื่อวานหุ้นไทยบวกคึกคัก จากแรงซื้อหุ้นส่นใหญ่ใน hot theme เลือกตั้ง (ที่เราเขียนไว้ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ในรายงาน Weekly) 1) ปลดล็อคการลงทุน AMATA WHA 2) อุปโภคบริโภค CPN ROBINS BJC 3) บันเทิง รื่นเริง โฆษณา กลุ่มทีวีดิจิตอลเหมาะแค่การเก็งกำไรระยะสั้น เพราะ ค่าโฆษณาลดลงตลอดทางเราจึงไม่ได้แนะนำ 4) งานภาครัฐฯ STEC BEM UNIQ TKS
วันนี้ คาดข่าวสหรัฐฯเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 2 แสนล้านเหรียญที่ อัตราภาษีแค่ 10% (น้อยกว่าที่ขู่ 25%) และจีนประกาศตอบโต้ เราคงมุมมองตาม MS เรื่องผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะไม่มากอย่างที่ตลาดกังวล
กลยุทธ์แนะนำ เลือกหุ้นเล่น
(1) hot theme เลือกตั้ง ตามรายงาน Weekly เหลือกลุ่มที่ยังไม่เล่น แนะนำ ท่องเที่ยว-โรงแรม CENTEL MINT (มีร้านอาหาร) AOT / งานภาครัฐฯ (BTS BEM CK STEC เล่นไปแล้ว รอย่อเล่นได้อีก) เหลือที่ยังขึ้นมาได้ระดับหนึ่ง แนะ UNIQ TKS และกลุ่มงานระบบ IT อย่าง SAMTEL SAMART ITEL
(2) กลุ่ม Seasonal play ย้ำให้เก็บโรงกลั่น-ปิโตรฯ แนะนำ PTTGC IRPC TOP SPRC (SPRC ดูเด่นสุด อิงค่าการกลั่นน้ำมันเบนซิน ขึ้นนำไปก่อน ชนิดอื่นแล้ว)
ระยะสัปดาห์ ยังคงแนะนำ ทยอยๆ รับหุ้นไปตลอดเดือน กย.-ต้น ตค. นี้ เหมือนเดิม โดยคาดหุ้นไทยมีโอกาสเข้าสู่ภาวะกระทิงอีกครั้ง หลังจากฝรั่งปรับพอร์ตจบในช่วงนี้ โดยปัจจัยหนุนหุ้นไทยช่วงปลายเดือนนี้ คาดมีโอกาสเกิด Window dressing ส่วนปัจจัยต่างประเทศ เรามองว่าจะมีผลต่อหุ้นไทยจำกัด เพราะ...(ดูรายละเอียดด้านใน Weekly report)
What to watch:
(*/+) หุ้นรับอานิสงส์เลือกตั้ง 1) นิคมฯ ปลดล็อกการลงทุน WHA AMATA TICON NNCL ROJNA 2) กลุ่มอุปโภค-บริโภค (ความเชื่อมั่นเลือกตั้งทำให้คนกล้าตัดสินใจใช้เงิน) BJC CPALL ROBINS MINT CENTEL LPN SPALI GOLD MTC SAWAD ECL ECF 3) การจัดกิจกรรมหาเสียง+บันเทิงรื่นเริง PLANB VGI 4) หุ้นเชื่อมโยงงานภาครัฐฯ (ต้องเร่งผลักโปรเจคออกก่อน) STEC CK BEM / ITEL (เน็ตห่างไกล เน็ตชายขอบ มูลค่า 20,000 ลบ.) SCCC / GULF BGRIM แผน PDP ใหม่เดือนนี้ / พิมพ์บัตรเลือกตั้ง TKS
(+) ตลาดคงมุมมองต่อการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเฟด 26 กย. อีก 0.25% เป็น 2.25% (lower bound 2- upper bound 2.25%) และเดือน ธค.อีก 0.25% เป็น 2.5% ส่วนปี 2019 มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย อีกแค่ 2 ครั้ง ช่วง มีค. และ กย. 19 โดยดอกเบี้ยเฟดปี 2019 จะหยุดอยู่ที่ 3.5% ต่ำกว่าค่า Median ที่เคยคาดการณ์กันที่ 3.75% (ขึ้น 3 ครั้ง ในปี 2019)
(+) นายกให้สัมภาษณ์สื่อ 16 ธค.เมื่อ กม.เลือกตั้งมีผลบังคับใช้ จะปลดล็อคให้ดำเนินการหาเสียงได้
หุ้นแนะนำ
MACO ราคาหุ้นยังขึ้นได้น้อยกว่ากลุ่มสื่อที่แรลลี่ขึ้นมาก่อนหน้า
RS เก็งกำไรตามธีมการเลือกตั้ง + ยอดขายกลุ่มสุขภาพความงามผ่านจุดต่ำสุด
D ประกาศเพิ่มทุน แต่หุ้นไม่ลง จากการประเมิน เราคาดแค่ดอกเบี้ยที่ประหยัดได้ก็มากกว่า dilution แล้ว และบริษัทมีโอกาสนำเงินไปขยายธุรกิจเพิ่มเติม ซึ่งตลาดยังไม่รวมในประมาณการ
รายงานวันนี้
BGC (IPO): Thailand largest glass packaging manufacturer
เราประเมิน Equity value ไว้ที่ 9,646 ล้านบาท อิง EPS ปี 2019 ที่ 1.04 บาท และ PER ของกลุ่มที่ 13.37 เท่า สำหรับประเด็นการลงทุนประกอบด้วย 1) การเติบโตไปตามอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะเบียร์ ซึ่งในอดีตเติบโต CAGR 4.4% ปี 2001-17, 2) เป็นผู้ผลิตแก้วที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด (ในแง่ของกำลังการผลิต) มากที่สุดในประเทศไทย, 3) กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นจากโรงงานใหม่ที่ราชบุรี ซึ่งคาดจะเริ่มดำเนินการใน 4Q18 จะหนุนกำลังการผลิต +13% จากในปัจจุบัน, 4) ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นลูกค้ารายใหญ่ (กลุ่มบุญรอด บริวเวอรี่) หนุนความมั่นคงของรายได้ และยังมีสัญญา minimum off-take agreement (ยอดสั่งซื้อขั้นต่ำต่อปี) อีกทั้งลูกค้าของบริษัทบางรายยังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทย่อยของบริษัท และบริษัทแม่ของบริษัท และ 4) เราคาดการเติบโตของกำไรเฉลี่ยปี 2018-2020 ที่ 48% ต่อปี หนุนโดยราคาต้นทุนที่ลดลง ค่าใช้จ่ายที่ลดลง และการขยายกำลังการผลิต และเรายังมองว่าบริษัทมีกระแสเงินสดและ EBITDA ที่แข็งแกร่ง เราประเมินอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 50% (นโยบายบริษัทอยู่ที่ 40%) อิงตาม Equity value ที่เราประเมิน เราคาดผลตอบแทนเงินปันผลไว้ที่ 3.7% ในปี 2019
Retail Finance: New record profit expected for 3Q18!
เราประเมินกำไรใน 3Q18 ของกลุ่มทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยหลักๆมาจากการเติบโตของ KTC (+42% YoY -8% QoQ), MTC (+39% YoY -1.3% QoQ), และ JMT (+34% YoY +11% QoQ) หนุนจากการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่ง เรามองว่าตลาดยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะ MTC และ SAWAD ที่เน้นกลุ่ม non-bank ในประเด็นการเพิ่มทุนเรามองว่ายังไม่น่าเป็นห่วงเนื่องจาก D/E ยังอยู่ในระดับที่ดำเนินธุรกิจได้ สำหรับประเด็นความเสี่ยงเรื่อง พรบ. ห้ามชาร์จดอกเบี้ยเกินกำหนด เรามองว่า KTC จะไม่มีผลกระทบ MTC เองก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากสามารถปรับสัญญาได้จากการที่มีใบอนุญาต Nano-finance เราจึงเลือก KTC และ MTC เป็น Top picks ของกลุ่ม
Energy: Trading idea for 4Q18
ราคาน้ำมันดิบน่าจะแกว่งตัวในกรอบ เพราะมีทั้งข่าวบวก และข่าวลบคละกัน ซึ่งจะส่งผลให้ค่าการกลั่นจะปรับตัวขึ้น นอกจากนี้พายุเฮอร์ริเคนยังมีโอกาสทำให้เกิดการปิดโรงกลั่นในต่างประเทศ ซึ่งจะหนุนให้ค่าการกลั่นสูงขึ้นไปอีก ดังนั้นเรามองว่ากลุ่มโรงกลั่นจะโดดเด่นกว่ากลุ่มพลังงานต้นน้ำ เราชอบ TOP มากที่สุด ปัจจุบันเทรด PE 9.8 เท่า และปันผล 4.4%
หุ้นมีข่าว
(*) D ลุยเพิ่มทุน 20 ล้านหุ้นขาย PP รองรับแผนขยาย รพ.ทันตกรรม-ลุยลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต พร้อมมั่นใจรายได้ปี 2562 โต 1,000 ล้านบาทตามแผน หลังปีนี้ปิดดีลซื้อกิจการแล้ว 2 ธุรกิจ (ที่มา ข่าวหุ้น/set) // ความเห็น BLS Research การเพิ่มทุนนี้ส่งผลให้เกิด EPS dullution ราว 9% อย่างไรก็ดีด้วยจำนวนเงินที่จะได้จากการเพิ่มทุนราว 200 ล้านบาท อย่างน้อยที่สุด ดอกเบี้ยจ่ายที่จะประหยัดได้ปีละ 10 ล้านบาท ก็เท่ากับ dullution ที่จะเกิดขึ้นแล้ว และยังช่วยให้บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งอีกด้วย เราคงแนะนำ ซื้อ ราคาเปาหมาย 12.50 บาท
(*) จีนประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตราภาษี 5-10% คิดเป็นวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้ต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมปประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ การประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 ก.ย. โดยจะพุ่งเปาไปยังสินค้าสหรัฐจำนวน 5,207 รายการ (ที่มา อินโฟเควสท์)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO14006