- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 18 September 2018 21:05
- Hits: 2452
บล.เอเชียเวลท์ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนขยายวงกว้างแต่บางภาคส่วนเป็นประโยชน์กับไทย
ตลาดหุ้นไทยวันนี้: ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐฯประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้แม้ภาพรวมจะกระทบต่อทิศทางการค้าการลงทุนทั่วโลกโดยเฉพาะเศรษฐกิจของสหรัฐฯซึ่งต้องซื้อสินค้าราคาแพงขึ้นจากเดิมเงินเฟ้อคาดว่าจะเร่งตัวเพิ่มขึ้นและจีนซึ่งต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้นเรามองว่าบางภาคส่วนธุรกิจเป็นบวกต่อสินค้าไทยได้แก่อาหารทะเลส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หุ้นรับประโยชน์ได้แก่TU, CFRESH, KCE, HANA , SVI ฯลฯแต่เราแนะนำซื้อTU, KCE ซึ่งเป็นหุ้นที่เรามีCoverage อย่างไรก็ตามข้อพึงระวังคือ 1)สุดท้ายสหรัฐฯอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มอีก 10% จากทุกประเทศที่สหรัฐฯขาดดุลการค้าซึ่งรวมไทยอยู่ด้วย 2)ต้องระวังค่าเงินหยวนอ่อนค่าต่อเป็นอุปสรรคต่อธุรกิจอื่นแทนเช่นการท่องเที่ยวทำให้คนจีนตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวลดลงโดยเฉพาะประเทศไทยเพราะค่าเงินจีนอ่อนAgainst เงินบาทไทยมาโดยตลอดและอาจจะยังอ่อนค่าต่อประชาชนคนจีนเองก็อยู่ในอารมณ์หดหู่จากภาวะสงครามการค้าครั้งนี้ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยและการเดินทางท่องเที่ยวได้รับผลกระทบทางลบเราคาดว่าวันนี้ดัชนีปรับตัวลงต่อแนะนำซื้อหุ้นที่มีลักษณะเป็นSafe Haven ไม่กระทบจากเรื่องสงครามการค้าเช่นกลุ่มพลังงานไฟฟ้าสาธารณูปโภคเช่นWHA, WHAUP รวมถึงจับจังหวะการเข้าซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์การที่สหรัฐฯเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าจีนเช่นTU, KCE กรอบดัชนีวันนี้ 1,700-1,725 จุดหุ้นแนะนำWHA, TU, KCE
Stock Comment
WHA Pick of the day
TU (ปิด 17.30 บาท; ซื้อ; AWS TP 20.00 บาท) การเรียกเก็บภาษีสินค้าจำพวกอาหารทะเลส่งออกจากจีนในระดับ 10% คาดว่าทำให้สหรัฐฯหันมานำเข้าจากไทยและประเทศอื่นทดแทนเป็นบวกกับTU
KCE (ปิด 45.75 บาท; ซื้อ; AWS TP 49.00 บาท) การเรียกเก็บภาษีสินค้าส่งออกจากจีนในระดับ 10% ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีความได้เปรียบด้านราคาสินค้าเมื่อเทียบกับการที่สหรัฐฯสั่งซื้อจากจีนเป็นบวกกับKCE
หุ้นเด่นวันนี้ : WHA (ปิด 4.06 บาท; ซื้อ; AWS TP 4.70 บาท)
คาดกำไรสุทธิครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นกว่าครึ่งปีแรกหนุนโดย (1) แนวโน้มการขายที่ดินได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจุบันบริษัทได้มีการเซ็นต์สัญญาMOU ไปแล้วกว่า 700 ไร่และยังอยู่ในระหว่างการเจรจาอยู่อีก 4-5 รายเราคาดว่าภายในสิ้นปีบริษัทจะสามารถขายที่ดินได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1,400 ไร่แบ่งเป็น 1,250 ไร่ในประเทศไทยและ 150 ไร่ในประเทศเวียดนามโดย 1H61 บริษัทได้ขายที่ดินไปแล้วทั้งสิ้น 173 ไร่คิดเป็น 12% ของเป้าหมายรวมของบริษัท (2) รายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากที่ปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างการเซ็นต์สัญญากับลูกค้า 2 รายในการเช่าคลังสินค้าพื้นที่รวมประมาณ 2 แสนตารางเมตรและ (3) ในช่วงไตรมาส 4/61 บริษัทมีแผนที่จะขายสินทรัพย์เข้ากองทุนREIT จำนวน 173,000 ตร.เมตรซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้อย่างมีนัยสำคัญต่อบริษัทดังนั้นเราจึงเริ่มต้นคำแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 4.70 บาทอิงค่าPER ปี 2562 ที่ 18 เท่าเราเพิ่งมีInitial Coverage ไปวันที่ 17 ก.ย.61
Price Pattern ของWHA มีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิดทั้งWeekly & Monthly Sell Signal แต่เริ่มกลับมาเกิดความแข็งแกร่งในระยะสั้นจากการเกิดDaily Buy Signal หากสามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือ 4.08 บาทจะทำให้กลับมาเกิดความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นในระยะกลางจากการกลับมาเกิดWeekly Buy Signal ครั้งใหม่เป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 4.26 บาทหากปิดตลาดเหนือ 4.26 บาทได้สำเร็จจะบ่งบอกถึงการทำNew High ครั้งใหม่โดยมีเป้าหมายเพื่อทดสอบHigh เดิมที่ 4.48 บาทและมีเป้าหมายแรกของการทำNew High อยู่ที่ 4.76 บาททั้งนี้WHA มีจุดStop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 3.92 บาท (Resistance: 4.08, 4.10, 4.12; Support: 4.04, 4.02, 4.00)
ปัจจัยในประเทศ:
โพลรอยเตอร์คาดกนง. ยังคงดอกเบี้ยในการประชุมวันพุธนี้โดยที่นักเศรษฐศาสตร์ 21 คนจากทั้งหมด 24 คนซึ่งสำรวจโดยรอยเตอร์คาดการณ์กนง. จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ในการประชุมวันพรุ่งนี้เนื่องจากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำอย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์มองเห็นความเป็นไปได้ของการปรับดอกเบี้ยขึ้นก่อนสิ้นปีนี้ (บางกอกโพสต์) ความเห็น: เราคาดกนง. อาจมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นในช่วงปลายปีนี้เช่นกันโดยที่นอกเหนือจากการประชุมในวันพรุ่งนี้แล้วกนง. จะมีการจัดประชุมอีก 2 ครั้งในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2561 ได้แก่วันที่ 14 พ.ย. และ 19 ธ.ค.
รฟม.ลุยสีคิ้ว-กุดจิกระยะทาง 11 กม. วงเงิน 4 พันล้านบาทซึ่งอยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือไทยจีนเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมาระยะทางรวม 252.5 กิโลเมตรวงเงิน 1.79 แสนล้านบาทคาดว่าจะประกาศร่างTOR ได้ต้นเดือนตุลาคม 2561 นี้และสามารถเปิดประกวดราคาได้ในเดือนพ.ย. และลงนามในปลายเดือนม.ค. 62 (มติชน)
ครม.อนุมัติรถไฟฟ้ารางเบาในจ.เชียงใหม่-พังงา-ภูเก็ตจำนวน 2 โครงการได้แก่โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนจ.เชียงใหม่โดยเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail Transit) มี 3 เส้นทางรวมระยะทาง 34.93 กิโลเมตรเงินลงทุน 8 หมื่นล้านบาทส่วนโครงการขนส่งมวลชนภูเก็ตจะเป็นเส้นทางเชื่อมจ.สุราษฎร์ธานี-พังงา-ภูเก็ตโดยเป็นลักษณะระบบรางเบาเช่นกัน (Light Rail Transit) รวมระยะทาง 58.5 กิโลเมตรเงินลงทุน 3.9 หมื่นล้านบาทซึ่งทั้งสองโครงการจะบรรจุในมาตรการPPP Fast Track (โพสต์ทูเดย์)
กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนปรับตัวขึ้นโดดเด่นจากปัจจัยบวกเฉพาะตัวเช่นEA (ปิด 46.75 บาท; ถือ; AWS TP 46.50 บาท) ได้รับปัจจัยบวกจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมหาดกังหันเดือนก.ค.61 เพิ่มขึ้นเป็น 49 ล้านหน่วยเทียบเท่าปริมาณการผลิตในไตรมาส 2/61 ทั้งไตรมาสที่ 48 ล้านหน่วยคาดโรงไฟฟ้าพลังงานจะช่วยให้ผลประกอบการในไตรมาส 3/61 นี้มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นทั้งYoY และQoQ ประมาณ 1.2 พันล้านบาทด้านBCPG (ปิด 20.60 บาท; ถือ; AWS TP 21.00 บาท) มีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจากการขายSolar Farm ขนาด 28 MW ให้กองทุนโครงสร้างพื้นฐานในญี่ปุ่นในไตรมาส 4/61 นี้ในขณะที่CKP (ปิด 4.64 บาท; ซื้อ; AWS TP 5.00 บาท) พบว่าฝนที่ตกต่อเนื่องช่วยให้ปริมาณน้ำเข้าเขื่อนน้ำงึม 2 เต็มคาดว่าปี 2562 เขื่อนน้ำงึม 2 สามารถขายไฟฟ้าได้เต็มกำลังการผลิตนอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำไซยะบุรีเตรียมทดสอบเดินเครื่องชุดที่ 1 ในเดือนธ.ค. 61 คาดสามารถเริ่มขายไฟฟ้าเข้าระบบได้ทันกำหนดการในเดือนต.ค. 62
BRR (6.65 บาท; NR; IAA consensus 8.30 บาท) BRR คาดรายได้รวมในปี 2561 จะลดลงเนื่องจากการหดตัวลงของราคาน้ำตาลในตลาดโลกซึ่งคาดว่าจะลดลงเป็นปีที่สองติดต่อกันโดยบริษัทรายงานรายได้ใน 1H61 ที่ 3,460 ล้านบาทลดลง 16% YoY ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 288 ล้านบาทลดลง 56.6% YoY (Bangkok Post)ความเห็น: ราคาน้ำตาลทรายดิบในตลาดนิวยอร์คปรับตัวลดลงสู่ระดับ 9.9 เซนต์ต่อปอนด์ในเดือนสิงหาคมจากนั้นเพิ่มขึ้น 11 เซนต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วแต่แนวโน้มราคายังไม่เสถียรคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลลบต่อผู้ส่งออกน้ำตาลเนื่องจากไทยเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอย่างไรก็ตามมีผู้ได้รับประโยชน์จากการใช้น้ำตาลเป็นต้นทุนการผลิตเช่นXO, และบริษัทเครื่องดื่มเช่นCBG, MALEE, TIPCO, ICHI, OISHI, SAPPE เป็นต้น
ตลาดต่างประเทศ:
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: ดาวโจนส์ลดลง 92.55 จุดหรือ -0.35% ขณะที่ดัชนีS&P500 ลดลง 16.18 จุดหรือ -0.56% และดัชนีNasdaq ลดลง 114.25 จุดหรือ -1.43% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯและจีนขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้นักลงทุนจับตาดูท่าทีของจีนอย่างใกล้ชิดหลังจากที่สื่อรายงานก่อนหน้านี้ว่าจีนอาจยกเลิกการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯถ้าหากสหรัฐฯเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ดังนั้นคาดว่าความหวังทั้งหมดที่จะมีการเจรจากันอาจสิ้นสุดลงแล้วและตามมาด้วยการตอบโต้กลับของจีนหุ้นแอปเปิลร่วงลงแม้สื่อรายงานว่าสมาร์ทวอทช์จะไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อสินค้าที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนก็ตามหลังจากที่ก่อนหน้านี้แอปเปิลได้ออกมายอมรับว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์จะกระทบธุรกิจของบริษัทซึ่งรวมถึงยอดขายApple Watch และAirPods รวมทั้งอแดปเตอร์และเครื่องชาร์จไฟฟ้าเนื่องจากจีนเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของแอปเปิล
สินค้าโภคภัณฑ์:
ราคาน้ำมันดิบ: WTI ลดลง 8 เซนต์หรือ 0.1% ปิดที่ 68.91 ดอลลาร์/บาร์เรล; เบรนท์ลดลง 4 เซนต์หรือ 0.05% ปิดที่ 78.05 ดอลลาร์/บาร์เรลเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงานขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์การคว่ำบาตรอิหร่านและปริมาณน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิดหลังจากมีรายงานว่าสหรัฐO , ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยการส่งออกน้ำมันที่ลดลงจากอิหร่าน
ราคาทองคำ: เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์หรือ 0.4% ปิดที่ 1,205.80 ดอลลาร์/ออนซ์เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งU.S. Dollar Index (DXYO) อยู่ที่ 94.597 จุดและกำลังอ่อนค่าต่อเนื่องจากระดับ 95 จุดช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเวลามีเรื่องร้ายเกิดขึ้น
Thailand Research Department
Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 0-2680-5094
OO13940