SET ปิดที่ระดับ 1,718.39 จุดลดลง 3.82 จุด (-0.22%) มูลค่าการซื้อขาย 49,524.05 ล้านบาทตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดปรับตัวลงเล็กน้อยเช่นเดียวกับตลาดในภูมิภาคจากความกังวลเรื่องรายชื่อสินค้าที่สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีจำนวน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากจีนและมีข่าวว่าจีนอาจปฎิเสธการเจรจารอบใหม่กับสหรัฐฯกอรปกับราคาหุ้นที่ขึ้นไปมากทำให้มีการtake profit ในหุ้นขนาดใหญ่

 

 

  คาดดัชนีฯลบต่อจากวันก่อนผลจากเช้านี้สหรัฐฯประกาศใช้ภาษี $2 แสนล้านเหรียญกับจีน .... ต่อเนื่องจากวันก่อนที่นักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนที่สหรัฐฯจะมีการประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนและเช้านี้เองประธานาธิบดีTrump ได้ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีในวงเงินดังกล่าวมีผล 24 ก.ย. ในอัตรา 10% ไปจนถึงสิ้นปี 2018 จากนั้นปรับเป็น 25% แม้ตลาดจะรับรู้มาแล้วแต่การตอบโต้จากทางจีนนั้นเป็นเรื่องที่ต้องคอยดูเช่นกัน ... ......... ผลจากความกังวลสงครามการค้านี้ส่งไปถึงสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ให้ปรับตัวลงเพราะเกรงผลกระทบต่อเศรษฐกิจแม้ดอลล่าร์จะอ่อนค่าเพราะการนี้ก็ตามDollar Index เช้านี้ 94.56 จุดลดลง 0.4% จากวันศุกร์ค่าเงินและตลาดหุ้นEmerging market ปรับตัวลดลงในวันที่ผ่านมา .... เราคาดตลาดหุ้นไทยน่าจะถูกกดันต่อแต่เรามองว่าดัชนีฯจะปรับตัวลดลงในลักษณะของการชะลอการลงทุนมากกว่าที่จะขายหุ้นเพราะความตกใจ .... ตัวแปรที่ต้องติดตามในวันนี้คือการประชุมครม. ดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและความคืบหน้าเรื่องการเลือกตั้งการแถลงของGPSC ต่อกรณีซื้อหุ้นGLOW

 

 

  ด้วยความกังวลต่อปัจจัยภายนอกแม้ปัจจัยของไทยเอง (เศรษฐกิจ+การเมือง) ที่กำลังไปได้ด้วยดีนักลงทุนอาจเลือกที่จะรอดูการตอบโต้จากจีนในวันนี้ว่าจะลบต่อตลาดหรือไม่ .... เรายังคงมองทิศทางตลาดหุ้นไทยในทางบวกจากปัจจัยภายในและตลาดรับรู้ข่าวลบมามากซึ่งจะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำลง ..... หุ้นtop picks วันนี้เราเลือกหุ้นจากweekly strategy สัปดาห์นี้อาทิGULF , EA* , MEGA, DTAC, BEM*, ANAN, CENTEL และเพิ่มหุ้นCBG* เข้ามาในวันนี้

 

 

  * เป็นหุ้นที่แนะนำโดยKTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์