- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 September 2018 18:40
- Hits: 1689
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET มีแรงซื้อต่อเนื่อง นำโดยหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทนอย่าง GULF, EA, BCPG, BGRIM กลุ่มอสังหาอย่าง GOLD, LPN, ANAN, SPALI กลุ่มธนาคารอย่าง KBANK, BBL, KTB ในขณะที่ช่วงบ่ายมีแรงซื้อเด่นใน DTAC ภายหลังศาลปกครองกลางสั่งทุเลาการบังคับตามมติกสทช. ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,722.2 จุด (+4.2 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.8 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 7.8หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่สองที่ 298 ล้านบาท (สถาบันซื้อสุทธิสูงกว่า 3,469 ล้านบาท) พร้อมคงสถานะ Long SET50 index future กว่า 1,319 สัญญา
Investment theme
สัปดาห์นี้จับตาการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน ในขณะที่เริ่มมี Sentiment การเลือกตั้งดีขึ้นเรื่อยๆ : ภายหลัง พ.ร.ป.ส.ส.และส.ว.ได้ถูกประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ล่าสุดคสช. มีคำสั่งปลดล็อคให้พรรคการเมืองสามารถเริ่มทำกิจกรรมพรรคได้บางส่วน (แต่ยังคงห้ามหาเสียงและห้ามสื่อสารผ่าน Social media) พร้อมยกเลิกการทำไพรมารีโหวต และกกต.สามารถเริ่มจัดแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยจะใช้เวลาประมาณ 55-60 วัน ก่อน พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 ธ.ค. ประเด็นดังกล่าวอาจทำให้ Timeline การเลือกตั้งมีทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ พร้อมเพิ่มโอกาสวันเลือกตั้งให้อยู่ในช่วงเดือนก.พ. อย่างไรก็ตามปัจจัยต่างประเทศอย่างเรื่องสงครามการค้ายังมีความไม่แน่นอนในหลายประเด็น โดยใน 1-2 สัปดาห์นี้เราคาดสหรัฐ-จีนจะเปิดการเจรจาครั้งที่ 3 ภายหลัง นาย Liu He ตอบรับคำเชิญจาก Mnuchin และล่าสุด ปธน. Trump ได้ออกมาระบุยังคงมีความคิดที่จะขึ้นภาษี 2.0 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อจีน และคงเตรียมการทำประชาพิจารณ์ 2.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เร็วๆ นี้ โดยสรุปเรามองว่าการปรับขึ้นของ SET กว่า 40 จุดในปลายสัปดาห์ได้สะท้อนปัจจัยบวกต่อการเลือกตั้งไปพอสมควร และเราให้น้ำหนักประเด็นผลลัพธ์ของการเจรจาสงครามการค้า ที่คาดส่งผลโดยตรงต่อ Fund Flow มากกว่า ฉะนั้นแนะนักลงทุนรอดูผล
Investment Theme: สัปดาห์นี้ประเมินกรอบ SET 1,705-1,730 จุด คงคำแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% และลงทุนหุ้นกลุ่ม Domestic นำโดย CPALL, STEC, BEM, SCB และหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดีแต่ราคายังไม่ขึ้น (มี Upside) นำโดย GOLD, PRM
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – พายุไต้ฝุ่นมังคุดถล่มฟิลิปปินส์-ฮ่องกง / Dollar กลับมาแข็งค่าอีกครั้งที่ 95.0 / ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติกสทช. ถึง 15 ธ.ค.นี้
Stock pick : -
Trading idea – ทยอยสะสม GOLD คาดผลประกอบการช่วงที่เหลือของปี และ Presale เด่น / เก็งกำไร CPALL กรอบ 65.0 – 69.0 / เก็งกำไร BEM ราคาเป้าหมาย 9.0 บาท จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทำสถิติสูงสุดในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา / เก็งกำไร CKP กรอบ 4.30-4.60 / เลี่ยงการลงทุน DTAC และกลุ่มท่องเที่ยว
Tecnical View
ยืน 1730 ถือว่าคอนเฟิร์ม Double Bottom และสิ้นสุดแนวโน้มขาลง: ดัชนีแกว่งพักตัว Sideway ในกรอบแคบบริเวณแนวต้าน 1730 หลังปรับตัวขึ้นแรงในวันก่อนหน้า ระยะกลางถึงยาวยังคงมองว่า หากดัชนีสามารถปิดยืนเหนือแนวต้าน 1730 จะถือเป็นการสิ้นสุดแนวโน้มขาลงเนื่องจาก Break เส้น Downtrend และถือเป็นการ Break Neckline Double Bottom ซึ่งจะทำให้ Upside เปิดมากขึ้น ยังมองว่าหากดัชนีอ่อนตัวระหว่างวัน ยังเป็นโอกาสสะสมบริเวณแนวรับ 1715 และ 1706 แต่หากหลุด 1706 แนะนำ Lock Profit
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : พิจารณาแรงขายที่แนวต้าน 1730 หากยังมีแรงขายมากอาจทยอยทำกำไรบางส่วนเพื่อเล่นรอบ และหากดัชนีอ่อนตัวไม่หลุด 1706 มองว่ายังน่าสะสมตามแนวรับในจังหวะอ่อนตัว 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันมองว่ายังน่าสะสมตามแนวรับ 1715, 1706 เพื่อคาดหวังการทดสอบ
แนวรับ : 1706, 1715 แนวต้าน : 1730, 1750
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: ยุโรปรายงานเงินเฟ้อวันนี้
ปัจจัยในประเทศ: 19 ก.ย. ประชุม กนง.
หุ้นเทคนิค:
AMATA (B 21.30-21.50, Tp 22.50//23.00, Cut 21.00)
BGRIM (B 27.00, Tp 29.00, Cut 26.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO13870