Stock          S          R       Comment

ANAN          5.00       5.15     คาด 3Q61 กำไร้ติบโตโดดเด่น GP แกร่ง

CPALL        66.25      68.75     ยังมีเวลาสะสมสแตมป์ถึง 23 พ.ย. นี้

MINT         37.50      39.00     NH Hotel หนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมขยายฐานโรงแรมรอบโลก

 

          Election rally? : จากการศึกษาของเรานับตั้งแต่การเลือกตั้งปี 1992 พบว่าตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้าการเลือกตั้งจริง แต่หากเจาะลึกลงไปจะพบว่าในช่วงเวลาดังกล่าว SET Index กลับปรับตัว Underperform ตลาดหุ้นเอเชียอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนว่าการปรับตัวขึ้นมานั้น เป็นเพียงเพราะปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นการเลือกตั้งสักเท่าไหร่ จะมีก็แต่ช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้าการเลือกตั้งไปจนถึง 1 สัปดาห์หลังการเลือกตั้ง ที่มักเป็นช่วงเวลาที่ SET Index ปรับตัวแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นเอเชียอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเหตุนี้เราจึงสรุปว่า Election rally ของ SET Index นั้นไม่ได้เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งเป็นระยะเวลานาน แต่จะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดก็คือในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้าไปจนถึงช่วง 1 สัปดาห์หลังการเลือกตั้ง (ดูรูป) ดังนั้นจึงประเมินว่าการจะมีมุมมอง Bullish ต่อตลาดหุ้นไทยนับตั้งแต่วันนี้เพียงเพราะปัจจัยดังกล่าว อาจเป็นกลยุทธ์ที่ยังไม่เหมาะสมนัก

          IE : แต่อย่างไรก็ดีหากจะประเมินหา Winner จากปัจจัยดังกล่าวตั้งแต่วันนี้ มองเช่นเดิมว่าจะคือกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม (IE) คล้ายๆกับช่วงก่อนการเลือกตั้งปี 2007 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นภายหลังจากรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหารเหมือนกัน (ดูรูป) โดยช่วงนั้น Performance ของหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัว Outperform ตลาดเกือบ 20% ในระยะเวลา 1  ปีก่อนหน้าการเลือกตั้ง ส่วนในเชิงพื้นฐานนั้น ต้องยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมาการลงทุนโดยตรง (FDI) ในไทยที่ชะลอไปนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่นักลงทุนต่างชาติบางส่วนไม่มั่นใจต่อภาวะการเมืองของไทย ซึ่งหากมีความชัดเจนในเรื่องของการเลือกตั้งมากขึ้น คาดว่าปริมาณ FDI จะเพิ่มขึ้นตามความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นตามลำดับ ประจวบเหมาะกับการที่ไทยกำลังจะพัฒนาโครงการ EEC ให้เป็น Flagship สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไปพอดี จึงอาจทำให้โครงการดังกล่าวมี Potential ที่จะประสบความสำเร็จได้ในระดับสูง

          กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำนักลงทุนที่เข้าสะสมหุ้นไปที่บริเวณแนวรับของเราทั้ง 2 แนวที่ดัชนี 1700 จุดและ 1670 จุดถือครองหุ้นเพื่อ Let profit run ต่อไปได้ แต่หากดัชนีปรับตัวขึ้นไปที่บริเวณแนวต้านแรกของเราเดือนนี้ที่ 1740 จุด มองเป็นจุด แบ่งขายทำกำไรที่น่าสนใจ เนื่องจากยังไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นในเชิงของ Valuation (ประมาณการ EPS ยังคงไม่มีสัญญาณถูก Upgrade) และมองปรากฏการณ์ Election rally จะยังไม่ได้เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงนี้ ทั้งนี้ มองกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจตามแต่ลักษณะพอร์ตการลงทุนดังต่อไปนี้

          1) สำหรับพอร์ตระยะสั้นประเภทเก็งกำไร แนะนำกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงการ EEC ได้แก่ AMATA, WHA ซึ่งคาดว่าจะได้ประโยชน์เชิง Sentiment จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้น

          2) สำหรับพอร์ตระยะกลางที่ต้องการผลตอบแทนด้าน Capital gain แนะนำหุ้นที่ถูกลดน้ำหนักจาก MSCI ในรอบล่าสุด ได้แก่ CPALL, PTT รวมถึงหุ้นพื้นฐานดีในดัชนี SETHD ที่ยังคง Laggard ตลาดอยู่ เช่น TISCO, MAJOR, LH, LPN, SCC, BBL

          3) สำหรับพอร์ตระยะยาวที่ต้องการเงินปันผล แนะนำหุ้น Income Stock ที่มีลักษณะคล้าย Bond เช่น กองทุน Infrastructure fund / Property fund / REIT รวมถึงหุ้นสามัญอย่างเช่น ASP, INTUCH, RATCH

          แนวรับ  1,698  แนวต้าน 1,743

 

 

MONTRI  XD 0.145 บาท

BJC ลูกหุ้นเข้า 544,000 หุ้น

MACO-W2 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (1,375.5mn sh 1:1 @ Bt2.10)