กลยุทธ์ : การดีดตัวกลับของตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้เป็นผลโดยตรงจาก ตลาดคลายความกังวลเรื่องความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังทางสหรัฐส่งหนังสือเชิญให้ทางการจีน กลับมาตั้งโต๊ะเจรจาทางการค้ารอบใหม่ แต่อย่างไรก็ตามการดีดตัวขึ้นเป็นแค่ในช่วงสั้นๆ เพราะต่างมองว่ายังไม่มีความชัดเจนอะไร นอกจากนั้นการตอบรับในเชิงบวกของตลาดหุ้นในเอเชียกับข่าวดังกล่าว โดยทั่วๆ ไป มีไม่มาก จะมากก็เฉพาะตลาดที่ลงไปลึกอย่าง ฮ่องกง แนวโน้มดัชนี SET ที่สามารถขึ้นมาเหนือ 1700 จุด เมื่อวานนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดี และมีสิทธิขึ้นต่อที่ 1730 จุด แต่การที่จะไปต่อถึง 1750 จุดมองว่ายังลำบาก เพราะสัญญาณภายนอกยังไม่มีอะไรชัดเจน หากมีจะเป็นภายใน อย่างความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งที่น่าจะเกิดในช่วง Q1/19 ตามกำหนดการเดิม อย่างไรก็ตามในสัปดาห์หน้า แนวโน้มตลาดยังคงมีความไม่แน่นอน ที่จะส่งผลให้ดัชนี SET ยังมีสิทธิลงไปต่ำกว่า 1700 จุด ได้อีก แต่หากยังไม่เห็นปัจจัยลบ ดัชนี SET ก็น่าจะขึ้นได้แค่กรอบ 1730-1735 จุด แนวโน้มดัชนีในวันนี้คาดจะดีดตัวขึ้นต่อไปที่ 1730 จุด แต่คงไม่ทะลุ หลังตลาดรับข่าวความชัดเจนเรื่องเลือกตั้งโดยแรงซื้อมาจากกองทุนในประเทศ ขณะที่ฝรั่งซื้อ แต่ไม่มาก ดังนั้นตัวแปรสำคัญที่มีอิทธิพลกับดัชนี คือ แรงซื้อต่างชาติ หากซื้อต่อ ดัชนีจะขึ้น แต่หากซื้อแล้วหยุดหรือสลับขาย ดัชนีจะไม่ไปไหน โดยวันนี้ดัชนีมีแนวโน้มที่จะขึ้นไปก่อนแล้วมีแรงขายทำกำไร หลังดัชนีขึ้นมาอย่างรวดเร็ว วันนี้มองแนวต้านที่ 1725-1730 จุด และแนวรับที่ 1710-1705 จุด แนะนำ เก็งกำไร CPALL DTAC CK และ CENTEL

 

  TRUE GPSC BANPU RATCH CENTEL DTAC : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร หุ้นใน SET100ที่ราคาหุ้นยังคงปรับขึ้นช้ากว่าตลาด (laggard) เมื่อวานนี้ หลังจากที่ตลาดพุ่งขึ้นแรงกว่า38 จุดหรือ +2.3% หลังนักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปได้ในต้นปีหน้าตาม roadmap ที่ได้มีการกำหนดไว้ โดยเราเลือกหุ้นที่ยังขึ้นช้าพิจารณาจาก RSI ที่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 45 (เทียบกับตลาดที่ RSI อยู่ที่ 57.52) และ upside จากราคาเป้าหมายของเรา โดยเราจะพบว่าหุ้นที่น่าสนใจที่เข้าเกณฑ์ประกอบไปด้วย TRUE (RSI35.14) มี upside 28% จากราคาเป้าหมายของเราที่ 7.35 บาท, GPSC (RSI 36.01) มีupside 38% จากราคาเป้าหมายของเราที่ 92.00, BANPU (RSI 37.53) มี upside 38%จากราคาเป้าหมายของเราที่ 26.50 บาท, RATCH (RSI 40.40) มี upside 18% จากราคาเป้าหมายของเราที่ 60.00 บาท, CENTEL (RSI 40.82) มี upside 36% จากราคาเป้าหมายของเราที่ 52.50 บาท, บาทและ DTAC (RSI 44.64) มี upside 18% จากราคาเป้าหมายของเราที่ 50.50 บาท

 

  14 ก.ย. : WHA PLANB SKE SELIC ADVANC

  17 ก.ย. : BRR PSTC PORT CHEWA

  18 ก.ย. : ZIGA CPL TACC ASN SUTHA

  19 ก.ย. : PPS PRM COMAN HTECH MBKET

  20 ก.ย. : THG FTE JKN RICHY NDR

  21 ก.ย. : PM TLUXE PJW ANAN

 

  14 ก.ย. : จีนประกาศตัวเลข Industrial Production YoY เดือนส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 6.0%

  14 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sales Advance MoM เดือนส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่0.5% และตัวเลข Industrial Production MoM เดือนส.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.1%

  15 ก.ย. : ติดตามศาลปกครองกลางว่าจะมีคำตัดสินคุ้มครองชั่วคราวลูกค้า DTAC หลังคลื่น850 MHz จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานวันที่ 15 ก.ย. หรือไม่

 

  BDMS : Company Note คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย 25.10 บาท

 

  กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1720 จุด แต่เราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะขายทำกำไร เนื่องจากการขึ้นต่อน่าจะอยู่ในกรอบจำกัด โดยมีแนวรับของการปรับฐานในระยะสั้นที่ 1700-1702 จุด ถ้าปรับตัวลดลงหลุดระดับ1700 จุดลงไป จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค

  Nawarat Patanakarn (NWR TB; THB 0.87) – ซื้อ

  Sahakol Equipment (SQ TB; THB 3.28) – ซื้อ