- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 12 September 2018 14:39
- Hits: 3137
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง (Mid Cap Play)
Smart Pick
เก็งกำไร MBK
ราคาปิด 24.80 บาท
ราคาเหมาะสม 28.50 บาท
ดัชนี FTSE Small Cap เพิ่ม MBK เข้าคำนวณดัชนีในรอบนี้ โดยจะปรับน้ำหนักวันที่ 21 ก.ย. คาดราคาหุ้นจะแข็งแกร่งกว่าภาพรวมของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้
นอกจากนี้โครงการ Icon Siam เตรียมเปิดตัวปลาย 4Q61 เป็นปัจจัยผลักดันกำไรปี 2562 อีกทั้ง MBK เพิ่มลงทุนในสยามพิวรรธน์จาก 30.7% เป็น 49.9% ตั้งแต่ 2Q61 เราคาดกำไรปกติปี 2562 เติบโตถึง +35.1% % YoY เป็น 2.8 พันล้านบาท
เก็งกำไร PTTEP
ราคาปิด 138.00 บาท
ราคาเหมาะสม 143.00 บาท
เราคาดหุ้นกลุ่มพลังงานมีโอกาสรีบาวน์ในวันนี้ หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX +2.5% ปิดที่ US$69.25/barrel จากพายุฟลอเรนซ์กำลังเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่งของสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อการผลิตและขนส่งน้ำมัน
อีกทั้งแนวโน้มกำไรปกติของ PTTEP ใน 3Q61 คาดเติบโต QoQ จากปริมาณและราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีปัจจัยบวกรออยู่ใน 4Q คือ ผลการประมูลแหล่งปิโตรเลียมในอ่าวไทย คาด PTTEP มีโอกาสสูงที่จะชนะอย่างน้อย 1 แห่ง เป็น Upside Risk ต่อประมาณการ
เก็งกำไร CK
ราคาปิด 26.25 บาท
ราคาเหมาะสม 29.50 บาท
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ มีปัจจัยบวก หลังบอร์ด PPP มีมติอนุมัติโครงการ Motor Way นครปฐม-ชะอำ มูลค่า 7.9 หมื่นล้านบาท และเร่งรัดการประมูลรถไฟสายสีม่วงและส้มส่วนต่อขยายวงเงิน 3.7 แสนล้านบาท ให้ได้ข้อสรุปภายในเดือน พ.ย. เรามองว่า CK มีโอกาสสูงที่จะได้งานรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีส้มส่วนต่อขยาย เนื่องจาก BEM เป็นผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงในปัจจุบัน จึงมีข้อได้เปรียบเรื่องต้นทุน ขณะที่ CK มี Backlog ณ สิ้น 2Q61 ที่ 5.9 หมื่นล้านบาท รองรับการเติบโตของรายได้ปี 2561-2563 ได้ต่อเนื่อง
เก็งกำไร BBL
ราคาปิด 202.00 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 207.00 บาท
ราคาหุ้นวานนี้ปิดที่แนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน ที่ 202.00 บาท เรามองว่าราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิคขึ้นทดสอบ 207.00 บาท แนวรับ 200.00-202.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 199.50 บาท
ราคา ณ ปัจจุบันของ BBL ซื้อขายที่ PBV2561 เพียง 0.9 เท่า และเราคาดว่า NPL ของกลุ่มธนาคารจะมีทิศทางชะลอตัวใน 2H61 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่สินเชื่อ Corporate Loan จะเติบโตในอัตราเร่งและเป็นบวกโดยตรงต่อ BBL
Profit-Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
SET INDEX วานนี้ปิดหลุดแนว 1,675 จุดในช่วงท้ายชั่วโมงการซื้อขาย โดยหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT / SCC/ AOT / KBANK/ CPALL ถูกเทขายออกมาหนาแน่น ด้าน SBL วานนี้รวมมูลค่า 1.1 พันล้านบาท พบว่าหุ้น 5 อันดับแรกของการถูก SBL ได้แก่ PTT / TRUE / AOT/ PTTGC/ PTTEP รวมมูลค่า 632 ล้านบาท อีกทั้ง OI ใน Block Trade เพิ่มขึ้น 22,434 สัญญา การปรับตัวลงแรงวานนี้ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นจาก Block Trade ด้าน Short ได้เช่นกัน ขณะที่กองทุน iShares MSCI Thailand ETF ปรับตัวลงเพียง 0.1% เท่านั้น
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบ NYMEX ฟื้นตัวเด่น 2.5% ปิดที่ US$69.25/bbl. อีกทั้งพายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์รุนแรงระดับ 4 เคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ, API รายงานสต๊อคน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าตลาดคาด และความกังวลต่อมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านที่จะมีผลในเดือน พ.ย.นี้ เรามองว่ากลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี ฟื้นตัวได้ในวันนี้ และสนับสนุนให้ SET INDEX ฟื้นตัวกลับมาปิดยืนเหนือ 1,675 จุดได้อีกครั้ง ทั้งนี้เรายังกังวลกับความเปราะบางของมูลค่าการซื้อขายที่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท/วัน ทำให้ความผันผวนของ SET INDEX ช่วงนี้ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ เรายังคงแนะนำให้ "เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง" ในกลุ่มที่เป็น Domestic Play อย่างกลุ่มรับเหมา/ กลุ่มโรงพยาบาล / กลุ่มค้าปลีก ขณะที่กลุ่มอสังหาฯ / REIT / IFF เป็นทางเลือกของการพักเงินที่ดี นอกจากนี้เรามองว่ากลุ่มท่องเที่ยวเริ่มกลับมาน่าสนใจหลังจากที่ราคาหุ้นพักฐานมาระยะหนึ่ง เช่น ERW เป็นต้น
บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเช้านี้ เราปรับราคาเหมาะสม AOT ลงมาเป็น 79 บาท สะท้อนการปรับลดสมมติฐานการเติบโตของผู้โดยสารระยะยาวจาก 10% เป็น 6% คงคำแนะนำ "ซื้อ" คาดกำไรปกติเติบโตเฉลี่ย 22% ต่อปี (CAGR ระหว่างงวด 2560/61-2564/65) จากแนวโน้มการขยายตัวของอุตสาหกรรมการ
HOT Topic
Hot Topic วันนี้
1. SET INDEX หลุด 1676 จุดวานนี้ นักลงทุนควรปรับกลยุทธ์อย่างไร?
2. ติดตามการประชุม กสทช.ในวันนี้ ว่าจะให้มาตรการเยียวยาคลื่น 850MHz กับ DTAC หรือไม่
3. น้ำมันดิบขึ้นแรง จากพายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์ เราชอบหุ้นตัวใดในกลุ่มพลังงาน
4. บทวิเคราะห์หุ้น AOT วานนี้หุ้นปรับตัวลงแรง น่าสะสมหรือยัง?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ลดลงถึง 19.09 จุด (-1.13%) ปิดที่ 1672.42 จุด โดนกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ได้แก่ PTT (-2.99%), AOT (-3.50%), KBANK (-2.40%), CPALL (-1.88%) และ PTTGC (-2.53%) มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 5 หมื่นล้านบาท
กระแสเงินทุน : นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 13 หนาแน่นถึง 3.4 พันล้านบาท รวม 13 วันทำการขายสุทธิสะสมราว 1.9 หมื่นล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเล็กน้อยราว 378 ล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 1.5 หมื่นสัญญา รวม 2 วันทำการมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 2.2 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Long สุทธิคงเหลือ 3.8 หมื่นสัญญา โดย S50U18 มี Discount จาก SET50 Index เพิ่มขึ้นเป็น 7.2 จุด จากวันก่อนราว 1.5 จุด ขณะที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 อีกราว 1.4 หมื่นสัญญา รวม 3 วันทำการมีสถานะ Long สุทธิสะสมราว 2.1 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD พลิกมามีสถานะ Long สุทธิราว 4.4 พันสัญญา
ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีกเล็กน้อยราว 352 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 7.6 พันล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
จีนเตรียมยื่นขออนุมัติจาก WTO เพื่อคว่ำบาตรสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า
พายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์กำลังเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่งของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบเชิงบวกทางอ้อมต่อราคาน้ำมันดิบ
รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐฯขอความร่วมมือให้ซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันดิบในปริมาณสูงเพื่อชดเชยปริมาณน้ำมันจากอิหร่าน
API รายงานสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 8.64 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงเพียง 2.7 ล้านบาร์เรล
ครม.มีมติเห็นชอบให้รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินกิจการรถไฟฟ้าในจังหวัด เชียงใหม่ พังงา และภูเก็ต
รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เตรียมเสนอ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย ให้ที่ประชุมบอร์ดพิจารณาในปลายเดือน ก.ย. นี้
ติดตามการประชุม กสทช. เพื่อพิจารณามาตรการเยียวยาของ DTAC วันนี้
ติดตามการรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ (Beige Book), การประชุมของธนาคารอังกฤษ (BOE), การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการรายงานเงินเฟ้อ CPI เดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ วันพรุ่งนี้
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist 662-009-8059
OO13692