SET แกว่งไซด์เวย์ +/- อยู่ในกรอบ 1680-92 มูลค่าซื้อขายเพียง 3.29 หมื่นลบ. ลดลง 3 วันติด ตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ และยังคงถูกกดดันจากการกีดกันการค้าจากสหรัฐฯ, การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ และ Bond Yield ที่ปรับตัวขึ้น ต่างชาติขายสุทธิ 188 ลบ. 12 วันติด และพลิก Short S50 Futures 6,215 สัญญา

 

ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์กรอบ 1680-95 รอดูประเด็นการค้า-ปัจจัยบวกใหม่

  หุ้นโลกเมื่อวาน (10 ก.ย.) ส่วนใหญ่ส่วนใหญ่ฟื้นตัวขึ้น (แม้ดัชนี DJ จะติดลบก็ตาม) จากการรีบาวด์ของหุ้นเทคโนโลยีและหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ รวมทั้งคาดหวังว่าการเจรจา Brexit จะได้ข้อสรุปภายในช่วง 6-8 สัปดาห์ข้างหน้าหลังมีความคืบหน้าที่ดี  ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลงเล็กน้อย 21 เซนต์ หรือ -0.3% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ  มอง SET แกว่งไซด์เวย์อยู่ในกรอบหลัก 1680-95 รอติดตามพัฒนาการการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ หลังปธน.ทรัมป์ประกาศพร้อมจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจีนอีกมูลค่า 2.67 แสนล้านดอลลาร์ฯ เพิ่มเติมจากเดิมที่ 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งจะเทียบเท่ากับมูลค่าสินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากทั้งหมดที่ 5.05 แสนล้านดอลลาร์ฯ ในปีที่แล้ว  รวมทั้งตลาดคาดว่าจะรอดูผลการประชุมธ.กลางหลายปท.ในสัปดาห์นี้ ทั้งอังกฤษ, สหภาพยุโรป, ตุรกี (13 ก.ย.) และรัสเซีย (14 ก.ย.) ด้านปัจจัยในปท. ยังรอการโปรดเกล้าฯ ร่างพ.ร.ป.ที่เหลืออีก 2 ฉบับในช่วงกลางเดือนนี้ ที่จะสร้างความชัดเจนการเลือกตั้งปีหน้า คาดจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทยในระยะถัดไป แนวรับ 1680-85 แนวต้าน 1695 หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านสำคัญถัดไปที่บริเวณ 1700-1705

 

  แนะใช้ SET ที่ระดับ 1700-1705 เป็นเกณฑ์ตัดสินใจในการเข้าเทรดดิ้งรอบใหม่ มิฉะนั้น เรายังแนะนำถือเงินสด รอประเมินจังหวะรอบใหม่ แต่สำหรับพอร์ตลงทุน รอทยอยสะสมที่ SET บริเวณ 1660-65 และ 1650 ลงมา

 

ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick STEC – เป็นหนึ่งในหุ้น Top Picks ของเรา คาดแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะเร่งตัวขึ้นและจะโตต่อเนื่องในปี 19-20 จากงานในมือที่แตะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.2 แสนลบ.และมีโอกาสรับงานใหม่อีกจากการเร่งโครงการลงทุนภาครัฐในช่วงก่อนการเลือกตั้งปีหน้า / JMT-W2 เข้าเทรดวันนี้ – 1:1 @ 19 บ., 222m., อายุ 3 ปี, เราประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ที่ 1.93 บ. / 5 หุ้นเด่นจากสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนประจำเดือน ก.ย. – AMATA, BBL, BDMS, KKP, PTTEP / FTSE Rebalance Asia ex Japan มีผลราคาปิด 21 ก.ย. FTSE All World - มีหุ้นไทยถูกคัดออก คือ BEC, FTSE Large Cap - มีหุ้นไทยถูกออก คือ MINT (ลดระดับเป็น Mid Cap), FTSE Mid Cap มีหุ้นเข้าคือ MINT และหุ้นถูกออก คือ BEC, FTSE Small Cap – มีหุ้นเข้า คือ MBK, BEC (ตกมาจาก Mid Cap) / หุ้นกำไรครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก – CK, CMAN, NYT, PCSGH, PLANB, PRM, SEAFCO, STEC, WHA / หุ้นเด่นในแต่ละอุตฯ ที่น่าทยอยสะสม คือ AUTO – PCSGH / BANK – BBL, KBANK, SCB / COMM – CPALL, BJC, COM7 / CONMAT – SCC / CONS – CK, STEC, SEAFCO / FIN – AEONTS, ASAP / FOOD – MINT / ICT – INTUCH, TRUE / MEDIA – PLANB / PETRO – IVL, CMAN / PROP – ANAN, LH, QH, ROJNA / TRANS – BTS, JWD, NYT / mai – SPA / DIVIDENDs – KKP, LH, NYT, TPIPP, TVO

หุ้น Weekly GURU ซื้อ COM7 (เป้าสั้น 20.2 บ.), EA (42.5 บ.), TTCL (11.1 บ.) / ถือ STEC (23.6 บ.) / ถึงเป้าขายทำกำไร HANA (+3.9%) / ขายเปลี่ยนตัว EPG (+1.1%) / ขายตัดขาดทุน TRUE (-11.4%)

หุ้นเด่น ก.ย. (Smart Tactics) BJC, CK, COM7, HANA, IRPC, MINT, PRM, TCAP

หุ้นเด่น 2H18 Big Cap. - KBANK , BBL , CPALL , BJC , CK , IVL , SCC , LH , PSH , QH , TRUE , INTUCH / Mid-Small Cap. - BTS , COM7 , NYT , PLANB , ROJNA , STEC , SEAFCO , SPA

ปัจจัยติดตาม

 

วันที่                       ปท.                                 เหตุการณ์

 

กลาง ก.ย.               TH                     คาด พ.ร.ป. 2 ฉบับ (ส.ส. และ ส.ว.) จะได้รับการโปรดเกล้าฯ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

 

11 ก.ย.                  JP                       การเปลี่ยนแปลงปริมาณเงินญี่ปุ่นใน ส.ค., ดัชนีชี้วัดภาวะอุตฯ (Tertiary Industry) ญี่ปุ่นใน ก.ค.

 

               EU, US                    ผลสำรวจภาวะธุรกิจ (ZEW Survey) สหภาพยุโรปใน ก.ย., สต็อกสินค้าภาคค้าส่งสหรัฐฯ ใน ก.ค.

 

12 ก.ย.         EU, US, US                 ผลผลิตภาคอุตฯ สหภาพยุโรปใน ก.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ ใน ส.ค., รายงานสรุปภาวะศก.สหรัฐฯ