กลยุทธ์ : ช่วงที่ตลาดรอข่าวการตัง้ กำแพงภาษี ตลาดหุ้นไทย ทำได้ดีสุด คือ แกว่งในกรอบแคบๆ เพราะไม่มีปัจจัยภายในที่จะหนุนตลาด นอกนั้นราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มซึมลง หากมีปัจจัยหนุนจากภายในก็เป็นวันนี้ โดยการประชุม ครม. คาดจะมีการเสนอการลดภาษี VATให้กับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งหากดูผลในเชิงบวกแล้วดูเหมือนราคาหุ้นในกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์อย่าง กลุ่มค้าปลีก ไม่ค่อยตอบรับ อาจเป็นเพราะระยะเวลาที่ใช้แค่ 6 เดือน หรือเม็ดเงินกระตุ้นไม่มาก ไม่ว่าจะตอบสนองอย่างไร หุ้นในกลุ่มนี้ยังคงน่าสนใจ โดยเราชอบ BJC CPALL โดยมีราคาเป้าหมาย 64 บาทและ 80 บาทตามลำดับ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ยังคงต้อง Trading buy สัน้ ๆ ไปก่อนเพราะตลาดยังถูกกดดันจากการตัง้ กำแพงภาษีที่ยังไม่ทราบว่าทางสหรัฐฯ จะประกาศอัตราภาษีออกมาเมื่อใด นอกจากนั้นในช่วงปลายเดือนก็ยังถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) น่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก0.25% เป็น 2.00-2.25% ซึ่งจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี(US 10y Bond yield) จะปรับตัวขึ้นและค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้fund flow มีโอกาสที่จะไหลออกจากตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ของตลาดเกิดใหม่(Emerging margin) ต่อไปได้ วันนี้คาดว่าตลาดอาจจะมีการรีบาวน์ระยะสัน้ หลังยังไม่มีปัจจัยลบ ในขณะที่ปัจจัยบวกก็ไม่มีนัยสำคัญนัก ดังนั้นคาดว่าตลาดอาจปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ1700 จุดแล้วไม่ผ่าน (ในทางกลับกันหากสหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีต่อจีนในระหว่างวัน ดัชนีก็อาจพลิกปรับตัวลงก็เป็นได้) ในวันนี้เราให้แนวรับที่ 1680-1688 จุดและแนวต้านที่ 1696-1700 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร AMATA ANAN MEGA PTTGC TRUE

 

  MEGA : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร MEGA โดยมีราคาเป้าหมาย 48.60 บาทตามวิธี SOPประกอบด้วยมูลค่าธุรกิจผลิตภัณฑ์แบรนด์ของบริษัทที่ P/E 30x ในปี 2019 (ส่วนลด10% จากค่าเฉลี่ยของกลุ่มโรงพยาบาลไทย) และธุรกิจ Maxxcare ที่ P/E 22x ในปี 2019(สอดคล้องกับค่าเฉลี่ยของคู่แข่งในธุรกิจจัดจำหน่าย) โดยหลังจากที่Maxxcare มีรายได้เติบโตแข็งแกร่งถึง 12% yoy ใน 2Q18 (เราคาดไว้ 10%) นำโดยธุรกิจในเมียนมาร์ และน่าจะเป็นการยืนยันให้เห็นการฟื้นตัวของธุรกิจ Maxxcare หลังสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ในปีที่แล้ว ขณะที่เราเชื่อว่าเมื่อการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้า (DC) แห่งใหม่แล้วเสร็จ ธุรกิจนี้จะมีอุปสงค์จากลูกค้าเข้ามาอย่างสม่ำเสมอเนื่องจาก MEGA กล่าวว่าบริษัทเล็งเห็นความต้องการเพิ่มจากลูกค้าในเมียนมาร์ นอกจากนี้ เราเชื่อว่า Maxxcare จะยังเติบโตในระดับนี้ใน 2H18 จากการขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพของ DC ใหม่ บวกกับ IMFประมาณการว่า GDP ของเมียนมาร์จะเติบโตแข็งแกร่งถึง 6.9% เราเชื่อว่าราคาหุ้นปรับฐานแรงเกินไปในช่วงที่ผ่านมาจึงยังแนะนำ “ซื้อ” ขณะที่เล็งเห็นปัจจัยบวกจากยอดขายที่โตสูงกว่าคาดใน 2H18 และการฟื้นตัวของธุรกิจในตลาดแอฟริกา ส่วน downside risk คือการแข่งขันจาก Blackmores สูงขึ้น

 

  11 ก.ย. : SAWAD MEGA TSR SYNEX TKS SAT

  12 ก.ย. : HREIT GUNKUL TPIPP WICE ATP30 SGP

  13 ก.ย. : BM TICON STA UPOIC LST

  14 ก.ย. : WHA PJW PLANB SKE SELIC ADVANC

  17 ก.ย. : BRR PSTC PORT CHEWA

  18 ก.ย. : ZIGA CPL TACC ASN SUTHA

  19 ก.ย. : PPS PRM COMAN HTECH MBKET

  20 ก.ย. : THG FTE JKN RICHY NDR

  21 ก.ย. : PM TLUXE APEX ANAN

 

  TRUE : Company Note คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.35 บาท

  BCH : Company Note คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท

 

  กลยุทธ์ : SET Index ยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1670 และ 1650จุด การฟื้นตัวในระยะสั้นเข้าใกล้แนวต้านที่ 1700จุด ควรใช้เป็นจังหวะขายหุ้นออกไปก่อน เพื่อรอการเข้าซื้อหุ้นที่บริเวณแนวรับ 1670 จุด และซื้อเพิ่มที่ระดับ 1650 จุด

  Gunkul Engineering (GUNKUL TB; THB 2.88) –ซื้อ

  Better World Green (BWG TB; THB 0.98) – ซื้อ