- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 10 September 2018 20:35
- Hits: 1977
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายทำกำไร โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย หุ้นใหญ่หลายตัวแกว่งตัวในกรอบพร้อมมูลค่าซื้อขายเบาบางนำโดย PTT, CPALL, PTTGC, AOT ในขณะที่มีแรงเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางอย่าง CBG, DDD, SGP และกลุ่มการเงินอย่าง KTC, SAWAD, MTC ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,689.4 จุด (-4.4 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.6 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 5.4 หมื่นล้านบาท.
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องที่ 773 ล้านบาท พร้อมเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 2,864 สัญญา
Investment theme
สัปดาห์นี้คาดค่าเงินและตลาดหุ้นแกว่งตามรายละเอียดสงครามการค้า : เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปธน. Trump เตรียมพร้อมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนมูลค่า 2.0 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในเร็ว ๆ นี้ อีกทั้งได้ระบุมีแผนขึ้นภาษีครั้งที่ 4 วงเงินสูงกว่า 2.67 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะเท่ากับว่าสหรัฐตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากจีนมูลค่ารวมทั้งหมดสูงกว่า 5.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับการปริมาณการนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากประเทศจีน อย่างไรก็ตามที่ปรึกษา Trump ยังกล่าวถึงการเปิดช่องการทางเจรจากับจีนอยู่ โดยเราประเมินว่ามีโอกาสที่วงเงิน 2.0 แสนล้านเหรียญสหรัฐในครั้งนี้อาจถูกแบ่งลักษณะคล้าย 5.0 หมื่นล้านเหรียญเมื่อครั้งก่อน (รอบแรก 3.4 หมื่นล้าน และ 1.6 หมื่นล้าน) เพื่อเปิดช่องทางการเจรจา อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยใหม่มากดดันต่อเนื่องภายหลัง Trump ระบุเตรียมพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น โดยปีที่ผ่านมาสหรัฐขาดดุลการค้าญี่ปุ่นประมาณ 6.9 หมื่นล้านเหรียญ (ใกล้เคียงกับแม็กซิโก) เมื่อเทียบกับประเทศจีนที่สูงกว่า 3.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
Investment Theme: เราประเมินแนวรับ SET บริเวณ 1,680 (อาจเห็น Technical rebound) และประเมินแนวรับสำคัญที่ 1,650 จุด ซึ่งหากอิงกับ EPS18 ของ SET ที่ 107.8x (สมมติฐาน Bond yield 10 ปีที่ระดับ 2.74%) เป็นระดับ Earning yield Gap บริเวณ 3.79% เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี โดยสถานกาณ์ปัจจุบันยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศ คงคำแนะนำ ชะลอการลงทุน เพื่อรอความชัดเจนในเรื่องการเพิ่มระดับวงเงิน 2.0 แสนล้านเหรียญระหว่างสหรัฐและจีน พร้อมถือเงินสด 40% และทยอยสะสมหุ้นกลุ่ม Domestic เมื่อ SET ทดสอบแนวรับ นำโดย CPALL , STEC, BEM
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ธปท.รายงานทุนสำรองระหว่างประเทศยังอยู่ในระดับสูงที่ 2.04แสนล้านเหรียญสหรัฐ / Jack Ma เตรียมอำลาตำแหน่งผู้บริหาร Alibaba
Stock pick : -
Trading idea – เก็งกำไร CPALL กรอบ 65.0-69.0/ ทยอยสะสม TPIPP คาดกำไรทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง / สำหรับหุ้นตัวอื่นๆเราแนะนำรอซื้อสัปดาห์หน้าบริเวณแนวรับ
Technical View
แกว่งในกรอบ 1685-1706 หากยืนเหนือ 1706 หักล้าง Double Top: ดัชนีพยายามหยุดลงและแกว่งตัวออกข้างในกรอบแคบ ขณะนี้มองกรอบการแกว่ง 1685-1706 ระยะสั้นมองว่าหากดัชนีกลับมายืนเหนือเส้น EMA200Day ที่ 1706 ได้ แนวโน้มจะกลับมาดูดีขึ้น และมีโอกาสหักล้างรูปแบบการกลับตัวลงแบบ Double Top ขณะนี้จึงแนะนำให้ Trading ในกรอบ 1685-1706 เป็นหลัก และหากยืนเหนือ 1706 ได้แนะนำ Let Profit Run
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : จังหวะ Rebound ระหว่างวันเป็นโอกาสขายหุ้น ตามแนวต้าน 1700 และ 1706 2) ไม่มีหุ้น : รอดูแนวโน้มจนกว่าดัชนีจะกลับมายืนเหนือ 1706 หรือหากรับความเสี่ยงได้ แนะนำ Trading ในกรอบ 1685-1706
แนวรับ : 1675, 1685 แนวต้าน : 1700, 1706
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: 13 ก.ย.ประชุม ECB
ปัจจัยในประเทศ: คลื่น 850Mhz ของ DTAC จะหมดสัมปทาน
หุ้นเทคนิค:
BDMS (B 25.00-26.00, Tp 27.50//29.00, Cut 24.70)
SCB (B 144.00, Tp 150.00, Cut 142.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO13562