- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 September 2014 18:04
- Hits: 1821
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
ขาย หรือ รอ
ตลาดหุ้นไทยเริ่มปรับฐานทางลงชัดเจนวานนี้เป็นทิศทางเดียวกันกับยุโรปและเอเชีย โดยปิดตลาดที่ 1565.41 จุด (-13.71 จุด, -0.87%) SET50 (-0.9%) และ SET100 (-0.91%) ปรับตัวลงแทบทุกกลุ่มนำโดยเหมืองแร่ (-3.3%), โรงพยาบาล (-2.1%), พา ณิชย์ (-1.7%) และธนาคาร (-1.2%) มูลค่าการซื้อขายกลับมาสูงขึ้นเป็น 47,025 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิ 872 ล้านบาทและกองทุนในประเทศขายสุทธิ 142 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ 17-18 ก.ยนี้ โพลรอยเตอร์คาดการณ์เฟดจะใช้นโยบายเงินเข้ม งวดในไตรมาส 2/58
ประชุมกนง.วันนี้ คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.0% และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะรายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กำหนดยื่นซองประกวดราคา รถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ในวันที่ 30 ก.ย.นี้
ครม.มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.ฎว่าด้วยการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาดังนี้ - เงินได้สุทธิไม่เกิน 1 แสนบาทให้คงจัดเก็บอัตรา 5%, และเงินได้สุทธิในส่วนที่เกิน 1 แสนบาทแต่ไม่เกิน 3 แสนบาท จัดเก็บเหลือ 5% จากเดิม 10%, เงินได้สุทธิส่วนที่เกิน 3 แสนบาทแต่ไม่เกิน 5 แสนบาทให้คงจัดเก็บในอัตรา 10%, เงินได้สุทธิในส่วนที่เกิน 5 แสนบาทแต่ไม่เกิน 7.5 แสนบาทให้เก็บในอัตรา 15% จากเดิม 20%, เงินได้สุทธิในส่วนที่เกิน 7.5 แสนบาทแต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท คงจัดเก็บที่อัตรา 20%, เงินได้สุทธิเกิน 1 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 2 ล้านบาทเก็บในอัตรา 25% จากเดิม 30%, เงินได้สุทธิเกิน 2 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 4 ล้านบาท ให้คงจัดเก็บที่อัตรา 30% และเงินได้สุทธิในส่วนที่เกิน 4 ล้านบาทขึ้นไปให้จัดเก็บในอัตรา 35% จากเดิมที่ 37% นอกจากนี้ยังมีการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือการจัดเก็บในอัตรา 20% ของกำไรสุทธิ มีผลบังคับใช้ในรอบบัญชีที่เริ่มภายในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค. 58 แต่ไม่เกิน 31 ธ.ค. 58
เงื่อนเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดมีผลต่อทุนเคลื่อนย้ายกลับสู่สินทรัพย์สกุลสหรัฐฯซึ่งอาจส่งสัญญานหรือไม่มีได้ในการประชุมครั้งนี้ เราประเมินว่า SET ยังคงขาดปัจจัยใหม่ชี้นำและเชื่อว่าผลการประชุมกนง.ไม่น่าจะมีผลต่อจิตวิทยาเนื่องจากมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าหุ้นรายตัวนั้นยังพบเห็นแรงซื้อเก็งกำไร แต่เกิดแรงขายหุ้นออกในช่วงปลายตลาดวานนี้บ่งชี้ถึงความเสี่ยงทางลงจากแรงขายทำกำไรที่สูงขึ้น เราแนะนำขายหรือรอ วันนี้เราลดพอร์ตระยะกลางเหลือ 30% และถือสด 70% (หุ้นขายทำกำไรเชิงเทคนิค: PS, SCB, AOT, BGH)
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตลงทุนเหลือ 30% จาก 50%
วันนี้เป็นครั้งแรกที่เราปรับลดการถือครองหุ้น “ต่ำกว่า” การถือครองเงินสด โดยลดพอร์ตหุ้นลงอีก 20% เหลือถือครองหุ้น 30% และถือครองเงินสดเพิ่มเป็น 70% ด้วยการขายหุ้นเพื่อรับรู้กำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักทั้งหมด 4 หลักทรัพย์รวมผลตอบแทน +5.85% คือ DTAC (+0.3%), TUF (+0.6%) และ PS (+4.6%) และลดน้ำหนักลงทุน CPALL จาก 10% เหลือ 5% (+0.35%) สถานะหุ้นถือครองลดลงจาก 9 เหลือ 6 หลักทรัพย์คือ PTTEP, PTTGC, HMPRO, CPALL, ADVANC, KBANK
Accumulate: -- รอสะสมหุ้น
Trading: เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1570 จุด ต่ำกว่า รอ
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 50% ถือเงินสด 50%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (50%) = +8.2%
ผลตอบแทนถือเงินสด (50%) = +1.0%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +9.2%
ผลตอบแทนตลาด SET = +15.7%
ผลรวมพอร์ตจำลองสุทธิ < SET
ลดพอร์ตหุ้นลงเหลือ 30% ถือสด 70%
พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 2 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% และวันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% ในปัจจุบัน โดยมีส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักรวมคิดเป็น 3.3% จากการลดพอร์ต, วันที่ 16 ก.ย. เราขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30%
Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130