1H61 มีกำไรสุทธิ 8,942 ล้านบาท +125%YoY จากการเติบโตของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับดีขึ้น ขณะที่ผลการดำเนินงาน 2H61 มีแนวโน้มสดใสรับไฮซีซั่น จากราคาเนื้อสัตว์ที่มีแนวโน้มปรับดีขึ้น

ความเสี่ยงจากค่าเงินตุรกีอ่อนค่ามีจำกัดจากการปรับโครงสร้างต้นทุนทางการเงินตั้งแต่ต้นปี 61 ให้มีสัดส่วนเงินกู้ที่เป็นเงิน USD มากขึ้น และลด IBD/E ให้เหลือเพียง 0.3 เท่า รวมทั้งถือครองสกุลเงิน USD มากขึ้น และเพิ่มสัดส่วนการส่งออกต่างประเทศ   ทั้งนี้ยอดขายจากตุรกีมีสัดส่วนต่ำเพียง 3% ของยอดขายรวม

กำไรปกติในช่วง 2H61 มีแนวโน้มเติบโตจาก 1H61 จากราคาเนื้อหมูที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ล่าสุดเกิดโรคไข้อหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาดในจีน ส่งผลให้จีนทำลายสุกรไปแล้วกว่า 3.5 หมื่นตัวและน่าจะเป็นผลดีต่อราคาเนื้อหมู   ส่วนแนวโน้มราคาเนื้อไก่คาดจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 3   อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมจากโรค African Swine Fever ที่กระทบกับธุรกิจฟาร์มหมูในรัสเซีย ส่งผลให้เกิดความเสียหายในบางฟาร์มที่ต้องมีการกำจัดหมูที่ติดเชื้อ แต่ยังไม่กระทบกับ Demand เนื้อหมูโดยรวม ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูปรับตัวขึ้นมาชดเชย Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรสุทธิปี 61 ราว 7,000 ลบ. -55%YoY 

Technical Insight : ECF SVI    

  SET Index วานนี้ปรับตัวลงแรง หลังค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ดิ่งลงอย่างหนัก อาทิ ตุรกี อาร์เจนตินา และอินโดนีเซีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ความสามารถในการชำระหนี้ ตลอดจนปัญหาด้านเงินไหลออก รวมถึง นักลงทุนยังคงกังวลประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศคู่ค้า ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,686.37 จุด (-28.04 จุด) Volume 6.01 หมื่นลบ. จาก Foreign Net -2,225.44 ลบ. TFEX Net -12,279 สัญญา ตราสารหนี้ +982 ลบ.

 

+ดาวโจนส์ขยับขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า 

+ดัชนีภาคบริการยูโรโซน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.4  

+"ทรัมป์" ออกแถลงการณ์สนับสนุนอาร์เจนตินาสู้วิกฤติการเงินในประเทศ

+วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เผยเตรียมหารือพรรคการเมืองครั้งต่อไปหลังกฎหมายเลือกตั้ง 2 ฉบับประกาศใช้ คาดเริ่มหาเสียงได้ราว ธ.ค.นี้ และมีโอกาสเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 62 (ที่มา : ข่าวหุ้น)

-น้ำมันร่วงลงหลังจากที่พายุเฮอร์ริเคน"กอร์ดอน"ได้อ่อนกำลังลง และไม่ได้สร้างความเสียหายต่อแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก

-นายกฯแคนาดาลั่นไม่มีอ่อนข้อต่อสหรัฐในการเจรจา NAFTA

-สหรัฐเผยขาดดุลการค้าพุ่งทะลุ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. สูงสุดรอบ 5 เดือน

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.05 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.75 บาท/US

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังคงมีปัจจัยกดดันจากความกังวลสงครามการค้าหลังการเจรจาสหรัฐ-แคนาดาวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป  และค่าเงินในภูมิภาคที่ร่วงลง  ส่งผลให้ fund flow ไหลออกจากตลาดเกิดใหม่เพื่อลดความเสี่ยง  โดยมีปัจจัยบวกจากภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยที่มีแนวโน้มดีแต่มีน้ำหนักน้อย  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,675-1,695 จุด

- ลุ้น 12 ก.ย. เปิดตัว iPhone ใหม่ COM7 SPVI

- หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI 

- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE CPF SVI

- หุ้น MAI ที่ผลประกอบการ 2H61 เติบโตต่อเนื่อง XO CHAYO TACC SSP

- ค่าการกลั่นเริ่มปรับตัวขึ้น SPRC IRPC TOP BCP

 

 

+CK ได้งานรื้อย้ายระบบจำหน่ายก๊าซฯโครงการปทุมธานี-พญาไท จาก PTT มูลค่า 26.54 ลบ.

+BKD รับงานตกแต่งโครงการลอยคำในเมียนมา มูลค่างานกว่า 3 พันลบ. ระยะเวลา 3 ปี ,มั่นใจกำไรปีนี้โต แม้รายได้ต่ำกว่าเป้า

+SAMTEL เซ็นสัญญารับจ้างบำรุงรักษามิเตอร์และอุปกรณ์ประกอบ กับกฟภ. มูลค่า 386.36 ลบ. 

- บอร์ด "กสทช." ยังไม่ตัดสินใจให้เยียวยาลูกค้า DTAC สั่งสำนักงานฯ รวบรวมข้อมูลลูกค้าคลื่น 1800-850 MHz และทำแผนประมูลคลื่น 1800 MHz ที่เหลือ และ 900 MHz เพื่อพิจารณาก่อนลงมติในวันที่ 12 ก.ย.นี้ เร่งเปิดประมูลให้ทันในปี 2561 (ที่มา : ข่าวหุ้น)

- TRUE  เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับกรณีข้อพิพาทกับบมจ.ทีโอที โดยต้องจ่ายค่าผิดสัญญามูลค่าเงินต้นกว่า 76,000 ลบ.พร้อมดอกเบี้ย  เนื่องจาก TRUE ได้ละเมิดข้อตกลงในสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุนขยายบริการโทรศัพท์ โดยให้บริการหรือยินยอมให้ผู้อื่นนำอุปกรณ์ในระบบไปให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง(ADSL)  ทำให้บมจ.ทีโอที เสียหายจากการขาดรายได้การให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในขณะนั้น (ที่มา  : SET news)

- DTAC ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง 

+ GULF แจ้งเข้าร่วมลงทุนสัดส่วน 45% โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 326 MW ในโอมาน มูลค่าโครงการ 483 ล้านเหรียญฯ (ที่มา : SET news)

+ SABINA เปิดตัว “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก” พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ผ่านคอลเลกชัน “ดูมดูม” พร้อมขยายฐานลูกค้าจีน-ฟิลิปปินส์-เวียดนาม คาดครึ่งปีหลัง ยอดขาย “ดูม ซีรีย์” โต 30% มั่นใจทั้งปีรายได้โต 15% (ที่มา ข่าวหุ้น)