สงครามการค้ากลับมาสู่ความกังวลในสัปดาห์นี้ เนื่องจากการที่ประธานาธิปดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เสนอให้มีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน วงเงิน 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างรับฟังความเห็นถึง 6 ก.ย. หลังจากนั้นสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จะประกาศรายการสินค้าที่ถูกเสนอให้เพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีศุลกากร ทำให้ตลาดจับตาผลกระทบและประกาศที่อาจตามมาหลังวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งหากมาตรการมีความเข้มข้น คาดจะสร้างแรงกดดันต่อการอ่อนค่าของเงินหยวน และดึงให้สกุลเงินในเอเซีย มีความเสี่ยงที่จะอ่อนค่าตาม

สำหรับตลาดหุ้นไทย โมเมนตัมการเก็งกำไรเริ่มชะลอลงหลังตลาดไร้ปัจจัยบวกใหม่ และมีแรงทำกำไรในกลุ่มธนาคารหลังปรับขึ้นมามาก โดยนักลงทุนระยะสั้นควรระวังการประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD หุ้นในกลุ่ม ได้แก่ SCB (4 ก.ย.), KKP (5 ก.ย.), BAY (5 ก.ย.), BBL (12 ก.ย.) ส่งผลให้โฟกัสของนักลงทุนหมุนไปยังหุ้นขนาดกลาง-เล็กมากขึ้น การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่มีพื้นฐานและ/หรือราคายังขึ้นน้อยเมื่อเทียบกับตลาด อาทิ TKN* TISCO TKS* BJC DCC* ASAP* ขณะที่มี เรายังคงประเมินกรอบการแกว่งตัวของ SET Index ในระยะสั้นที่ 1690-1730 จุด

กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง รวมถึงรถไฟฟ้า คาดได้อานิสงค์จากการที่รฟม.เตรียมเสนอเปิดประมูลก่อสร้างและงานเดินรถไฟฟ้าส่ายสีส้มเหนือ-ใต้ วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท เป็นบวกต่อ CK และ BEM ขณะที่เป็นบวกต่อจิตวิทยา ขณะที่โครงการขนาดใหญ่อื่นๆ เป็นบวกต่อผู้รับเหมาที่เหลือ อาทิ STEC, PYLON, SEAFCO* 

Investment Theme หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, PSTC*, DTC*, EASTW* / หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง-ปันผล CPNREIT, CPN, PSH, AP, SPF*, EA, BCPG / กลุ่มการแพทย์ที่เน้นลูกค้าในประเทศ CHG, BCH / กลุ่มธนาคาร ระวังแรงทำกำไรระยะสั้น และทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว

ภาพรวมกลยุทธ์: คาดมีแรงทำกำไรสลับ กดดันตลาดแกว่งตัวในกรอบ 1712-1730 จุด // หุ้นแนะนำวันนี้ AEONTS*, ROBINS / เก็งกำไร ASAP* (เป้า 7.00 ตัดขาดทุน 5.95), DCC* (เป้า 2.80 ตัดขาดทุน 2.50)

แนวรับ 1712 / แนวต้าน : 1724-1730 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

อาร์เจนตินาออกมาตรการเรียกคืนความเชื่อมั่น – ผู้นำอาร์เจนตินาประกาศเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อภาคส่งออก ยุบบางกระทรวง รวมถึงจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเศรษฐกิจมากขึ้น หวังยุติความผันผวน

ตุรกีหวังขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ – แบงก์ชาติตุรกีส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หวังสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบ 15 ปี

ดัชนีเชื่อมั่นลดห่วงต้นทุนสูงสุดรอบ4ปี - ธปท.เผยดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจ เดือน ส.ค.อยู่ที่ 51.4 ลดลงจากเดือนก่อนตามการลงทุน-จ้างงานชะลอ กังวลต้นทุนผลิตพุ่งเป็นอันดับหนึ่ง

เงินเฟ้อบวกต่อเนื่อง 14 เดือน - "พาณิชย์" เผยเงินเฟ้อเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 1.62% สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกัน ส่วนการส่งออกข้าวเดือน ก.ค.วูบกว่า 7% เหตุราคาสูง สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการขนส่ง

ประเด็นติดตาม: 7 ก.ย. - GDP ไตรมาส 2/61 ยุโรป/ ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ เดือน ส.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

 

5 ก.ย. – สหรัฐ-แคนาดา เจรจาข้อตกลงทางการค้า

7 ก.ย. – GDP ไตรมาส 2/61 ยุโรป

             , ตัวเลขการจ้างงาน สหรัฐ เดือน ส.ค.

             , ดุลการค้าจีน เดือน ส.ค.

 

 

AEONTS* (200) : ได้ประโยชน์จากการบริโภคที่ฟื้นตัว ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายด้วย valuation ที่น่าสนใจเพียง 13x PER ขณะที่การเติบโตของกำไรสูงกว่า 20% หรือซื้อขายด้วย PEG ต่ำกว่า 1 เท่า

ROBINS (79) : ราคาซื้อขายด้วย Valuation ที่ถูกเพียง 8x PER ขณะที่เป็นหุ้นที่นักลงทุนมีการถือครองต่ำ (Under-owned) เรามองราคาหุ้นยังคง laggard เทียบกับกลุ่มพลังงานรวม อีกทั้งคาดได้อานิสงค์จากการให้ข้อมูลในงานไทยแลนด์โฟกัส

ASAP* (7.00) : เก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 5.95 บาท

DCC* (3.00) : เก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2.52 บาท

หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ: กลุ่มธนาคาร / กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ / SF, CPN, MINT, PF, TIP*, SGP*, BDMS, MBK*, MTC, TK, GUNKUL*, PSTC*(ควรตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5%)