SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1712-21 กังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และค่าเงินใน EM กลับมาอ่อนค่าระลอกใหม่ แต่มีแรงซื้อหุ้นพลังงานหลังราคาน้ำมันทะลุ 70$ และเก็งกำไรหุ้นใหญ่รายตัว โดยเฉพาะ BEAUTY, KTC หนุนตลาดพลิกปิดบวก ต่างชาติขายสุทธิ 680 ลบ. 6 วันติด และพลิก Short S50 Futures 1,243 สัญญา

 

  หุ้นโลกวันศุกร์ (31 ส.ค.) ปิดลบ โดยเฉพาะหุ้นยุโรปร่วงมากกว่า 1% วิตกนโยบายการค้าสหรัฐฯ หลังสหรัฐฯ-แคนาดายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันได้ รวมทั้งยังถูกกดดันจากปธน.ทรัมป์ประกาศเดินหน้าการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ อย่างเร็วสุดในต้น ก.ย. นี้ พร้อมขู่จะถอนสหรัฐฯ ออกจากสมาชิก WTO หากไม่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบ 45 เซนต์ จากแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังขึ้นทะลุ 70$ ในวันก่อนหน้าและแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2 แท่น มาอยู่ที่ 862 แท่น นับเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์  มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์-อ่อนลง ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายคาดว่าจะต่ำกว่าระดับ 5 หมื่นลบ.ต่อไป หุ้นสหรัฐฯ จะปิด 3 ก.ย. นี้จากวันแรงงาน และตลาดขาดปัจจัยชี้นำใหม่ นลท.รอติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-แคนาดารอบใหม่ที่จะมีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 5 ก.ย. และสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน หลังสินค้านำเข้าจากจีนอีกมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ จะครบกำหนดการรับความคิดเห็นในกลางสัปดาห์นี้ แนวรับ 1714, 1710 แนวต้าน 1730+/- อนึ่ง  DCORP ไม่ติด Cash Balance แล้ว เริ่มกลับมาซื้อขายตามปกติวันนี้

 

  แนะหาจังหวะเทรดดิ้งสั้นในกรอบหลัก 1700-1730 ลงซื้อ-ขึ้นขาย หาก SET ผ่าน 1730 ได้ ค่อยเล็งเป้าถัดไปที่บริเวณ 1750 และควรปรับ่ Trailing Stop ขึ้นเป็น 1720 / ส่วนพอร์ตลงทุน ยังแนะทยอยสะสม-ถือลงทุนข้ามปี

 

ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick BEAUTY – มองกำไรผ่านจุดต่ำไปแล้วใน Q2 แนวโน้มครึ่งปีหลังฟื้นตัวขึ้น ตามบรรยากาศตลาดโดยรวมที่ดีขึ้นหลังถูกผลกระทบอย่างหนักจากการปราบปรามของทางการใน Q2, ยอดขายครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่น และการเริ่มส่งมอบสินค้า E-Commerce ในจีน, เป้าพื้นฐาน 13 บ. / หุ้นรับอานิสงส์หลังงาน Thailand Focus ช่วง 2-4 สัปดาห์ข้างหน้า มองเป็นเป้าลงทุนของนลท.สถาบันทั้งในและตปท. – PTT, IRPC, BBL, KBANK, INTUCH, TRUE, MINT, SCC, LH, CK, STEC / FTSE Rebalance Asia ex Japan มีผลราคาปิด 21 ก.ย. FTSE All World - มีหุ้นไทยถูกคัดออก คือ BEC, FTSE Large Cap - มีหุ้นไทยถูกออก คือ MINT (ลดระดับเป็น Mid Cap), FTSE Mid Cap มีหุ้นเข้าคือ MINT และหุ้นถูกออก คือ BEC, FTSE Small Cap – มีหุ้นเข้า คือ MBK, BEC (ตกมาจาก Mid Cap) / หุ้นกำไรครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก มี Upside สูง – CK, CMAN, NYT, PCSGH, PLANB, PRM, SEAFCO, STEC, WHA / หุ้นเด่นในแต่ละอุตฯ ที่น่าทยอยสะสม คือ AUTO – PCSGH / BANK – BBL, KBANK, SCB / COMM – CPALL, BJC, COM7 / CONMAT – SCC / CONS – CK, STEC, SEAFCO / FIN – AEONTS, ASAP / FOOD – MINT / ICT – INTUCH, TRUE / MEDIA – PLANB / PETRO – IVL, CMAN / PROP – ANAN, LH, QH, ROJNA / TRANS – BTS, JWD, NYT / mai – SPA / DIVIDENDs – KKP, LH, NYT, TPIPP, TVO

หุ้น Weekly GURU ซื้อ EPG (เป้าสั้น 9.5 บ.), HANA (39.5 บ.) / ถือ STEC, TRUE (ปรับเป้าสั้นเป็น 7 บ. จาก 6.8 บ.) / ขายเปลี่ยนตัว BCP (+0.6%), III (+5.8%)

หุ้นเด่น ก.ย. (Smart Tactics) BJC, CK, COM7, HANA, IRPC, MINT, PRM, TCAP

หุ้นเด่น 2H18 Big Cap. - KBANK , BBL , CPALL , BJC , CK , IVL , SCC , LH , PSH , QH , TRUE , INTUCH / Mid-Small Cap. - BTS , COM7 , NYT , PLANB , ROJNA , STEC , SEAFCO , SPA

 

วันที่                          ปท.                      เหตุการณ์

 

3 ก.ย.                 TH, JP                   ดัชนีราคาผู้บริโภคไทยและดัชนีเชื่อมั่นทางธุรกิจไทยใน ส.ค., การใช้จ่ายด้านการลงทุนญี่ปุ่นใน2Q18,

 

 

                   JP, CH, EU               ยอดขายรถยนต์ญี่ปุ่นใน ส.ค. PMI ภาคอุตฯ ญี่ปุ่น, จีน (ภาคเอกชน - Caixin), สหภาพยุโรป ใน ส.ค.