เก็งกำไรหุ้นรายตัว

 

  ราคาปิด 84.25 บาท

  ราคาเหมาะสม 84.00บาท 

          เรามองว่ากลุ่มโรงกลั่นมี Sentiment บวก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาโรงกลั่น Bayeroil ที่เยอรมัน กำลังการกลั่น 2.1 แสนบาร์เรล/วัน เกิดเหตุไฟไหม้ เป็นบวกต่อค่าการกลั่น และ 2 สัปดาห์ก่อนโรงกลั่น Petrobras ที่บราซิล กำลังผลิต 4.2 แสนบาร์เรลเกิดเหตุไฟไหม้เช่นกัน

          TOP ขึ้น XD ปันผลงวด 1H61 หุ้นละ 1.50 บาท วันที่ 13 ก.ย. Yield 1.8% ขณะที่กำไรปกติ 3Q61 คาดเติบโต QoQ จากค่าการกลั่นที่เร่งตัวขึ้น +38.4% QTD เป็น US$5.59

 

  ราคาปิด 14.90 บาท

  ราคาเหมาะสม 16.70 บาท (Consensus)

          SPRC มีโครงสร้างรายได้ 100% จากโรงกลั่น จึงได้ประโยชน์โดยตรงจาก Supply ตึงตัวในอุตฯ โรงกลั่นโลก หลังโรงกลั่นขนาดใหญ่ทั้งในบราซิล และเยอรมันเกิดเหตุไฟไหม้ ทำให้ต้องหยุดผลิตชั่วคราว

          ราคา ณ ปัจจุบัน ซื้อขายที่ PER2561 เพียง 8.0 เท่า รวมทั้งให้ Dividend Yield เฉลี่ยต่อปีสูงถึง 7-8% ขณะที่แผนปิดซ่อมบำรุงได้เสร็จสิ้นแล้วในวันที่ 16 ส.ค. ส่งผลให้ได้ประโยชน์เต็มที่จากค่าการกลั่นที่เข้าสู่ High Season ใน 3Q/4Q

 

เก็งกำไร IVL   

  ราคาปิด 60.00 บาท

  ราคาเหมาะสม 84.00 บาท

          วันนี้หุ้นเพิ่มทุนจากการแปลงสภาพ IVL-W2 จำนวน 30.5 ล้านหุ้น ราคาแปลงสภาพ 43.00 บาทเข้าซื้อขาย จะเป็นการปลดล็อกให้ราคาหุ้นกลับมาเคลื่อนไหวตามปัจจัยพื้นฐานอีกครั้ง ดังนั้น ราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงเป็นโอกาสในการซื้อ

          แนวโน้มกำไร 3Q61 คาดกำไรปกติมีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่จากปริมาณขายของโรงงานใหม่ในโปรตุเกส, บราซิล, อิสราเอล และอียิปต์เพิ่มขึ้นช่วยชดเชย Spread ที่ชะลอตัวลง QoQ จาก 2Q เป็น High Season

 

  ราคาปิด 205.00 บาท

  แนวต้านทางเทคนิค 209.00 บาท 

          ราคาหุ้นปรับตัวลง 4 วันทำการ ปิดที่แนวรับเส้น 25 วัน คาดเกิด Technical Rebound เพื่อขึ้นทดสอบแนวต้าน 209.00 บาท แนวรับ 202.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 199.00 บาท 

          เรามองว่ากองทุนต่างชาติอาจกลับมาสะสมหุ้นไทยตั้งแต่กลางสัปดาห์นี้ หลังสิ้นสุดงาน Thailand Focus ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่แข็งแกร่ง ย่อมทำให้นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่

 

          ตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ผ่านมาถือว่าแข็งแกร่งกว่าค่าเฉลี่ยในตลาดหุ้นเอเชีย แม้ว่าจะมีการปรับดัชนี MSCI Thailand ในวันดังกล่าวก็ตาม โดยต่างชาติขายสุทธิเพียง 680 ล้านบาทเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ภาวการณ์ลงทุนในช่วง 1-2 วันนี้ขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน แม้ว่างาน Thailand Focus จะจบลงไปแล้วและได้รับการตอบรับเชิงบวกก็ตาม เรามองว่าเม็ดเงินต่างชาติจะกลับมาอย่างเร็วก็น่าจะเป็นช่วงกลางสัปดาห์เป็นต้นไป หลังกลับไปวิเคราะห์ข้อมูลลักษณะ Top-Down Analysis แล้ว อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจไทยเดือนก.ค.ขยายตัวต่อเนื่อง รายได้เกษตรกรและการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 รวมถึงเม็ดเงินลงทุนจากภาครัฐที่เร่งขึ้นตามผลฤดูกาลก่อนปิดงบประมาณเดือนก.ย. ทำให้เราเชื่อว่ากลุ่ม Domestic Play จะเป็นเป้าหมายของการสะสมจากนักลงทุนต่างชาติในรอบนี้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธนาคาร/ ค้าปลีก / โรงพยาบาล / อสังหาฯ เป็นต้น 

          ขณะที่กลุ่ม Global Play นั้นเรายังคงยืนยันเป็นเพียงการ "เทรดดิ้ง" เล่นรอบเท่านั้น โดยให้น้ำหนักกับกลุ่มโรงกลั่นที่ผลการดำเนินงานใน 3Q61 จะโต QoQ เด่น จากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัว และเหตุไฟไหม้โรงกลั่นขนาดใหญ่ทั้งในบราซิลและเยอรมัน กระทบต่อกำลังการผลิตโดยรวมของโลก น่าจะทำให้ค่าการกลั่นสามารถทรงตัวในระดับสูงได้ตลอดไตรมาสนี้   

          ดังนั้นวันนี้เราประเมิน SET INDEX แกว่งแคบระหว่าง 1710-1730 จุด มูลค่าการซื้อขายกลับมาต่ำกว่า 5.0 หมื่นล้านบาท โดยหุ้นขนาดกลางที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวจะกลับมาเด่นกว่าหุ้นขนาดใหญ่ที่กระแสเงินทุนทั้งจากสถาบันในประเทศและต่างประเทศชะลอตัวช่วงสั้น โดยนักลงทุนระยะกลางถึงยาวเราแนะนำให้สะสมหุ้นหลักในกลุ่ม Domestic Play ส่วนพอร์ตการลงทุนระยะสั้น "เก็งกำไร" หุ้นโรงกลั่น หรือกลุ่มส่งออกที่ได้ปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่าในวันนี้

 

          Hot Topic วันนี้

          1. สหรัฐฯ-แคนาดา ยังไม่บรรลุข้อตกลงสัญญา NAFTA ฉบับใหม่ 

          2. สัปดาห์นี้ต้องติดตามความคืบหน้าสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ วงเงิน US$2 แสนล้าน

          3. คาดหุ้นโรงกลั่นเคลื่อนไหวเด่นกว่าตลาดหลังเกิดเหตุไฟไหม้โรงกลั่นในเยอรมัน

          4. ลูกหุ้นแปลงสภาพ IVL-W2 เข้าซื้อขายวันนี้ เรามีกลยุทธ์การลงทุนอย่างไรต่อหุ้น IVL

 

          วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX แกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวันก่อนขึ้นมาปิดในแดนบวกที่ 1721.58 จุด เพิ่มขึ้น 1.15 จุด แม้มีแรงกดดันจากการปรับน้ำหนักตลาดหุ้นไทยของดัชนี MSCI ก็ตาม มูลค่าการซื้อขายของ SET INDEX ราว 4.7 หมื่นล้านบาท

          กระแสเงินทุน : นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิเป็นวันที่ 6 เพียง 680 ล้านบาท รวม 6 วันทำการขายสุทธิสะสม 7.6 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 12 อีกราว 388 ล้านบาท รวม 12 วันทำการซื้อสุทธิสะสมกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ด้านตลาด SET50 Index Futures กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 5 แต่เล็กน้อยเพียง 842 สัญญา รวม 5 วันทำการมีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 5.8 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิสะสม 2.7 หมื่นสัญญา เช่นเดียวกับนักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 1.2 พันสัญญา แต่ QTD นักลงทุนต่างชาติคงสถานะ Long สุทธิสะสมสูงถึง 7.5 หมื่นสัญญา โดย S50U18 มี Discount จาก SET50 Index เหลือเพียง 3.50 จุด จากวันก่อนหน้าที่มี Discount สูงถึง 8.62 จุด

          ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 9 อีกราว 640 ล้านบาท รวม 9 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 5.9 หมื่นล้านบาท

 

 

การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและแคนาดายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ และเตรียมกลับมาเจรจากันอีกครั้งในสัปดาห์นี้

สหรัฐฯเตรียมทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไปแก่ 25 ประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ภายในเดือน ต.ค. 2561

เกิดเหตุโรงกลั่นน้ำมันในเยอรมันกำลังการผลิต 2.1 แสนบาร์เรล/วัน ระเบิดและไฟไหม้ ส่งผลให้ต้องหยุดการผลิตชั่วคราว

คณะกรรมมาธิการยุโรป (EC) อยู่ระหว่างพิจารณามาตรการตอบโต้สหรัฐฯ หากสหรัฐฯเรียกเก็บภาษีรถยนต์จากยุโรป

สหภาพยุโรป (EU) รายงานเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ขยายตัว 2.0%YoY ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดที่ระดับ 2.1%YoY

Baker Hughes รายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2 แท่นเป็น 862 แท่นในสัปดาห์ก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์

ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของ 15 ประเทศสมาชิกในกลุ่ม OPEC เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 แสนบาร์เรลต่อวัน จากเดือน ก.ค. ตามรายงานของ Reuters

ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำไปอีกระยะหนึ่ง

หุ้นเพิ่มทุนจากการแปลงสภาพ IVL-W2 เริ่มเข้าซื้อขายในวันนี้ (3 ก.ย.)

TOP ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 1H61 หุ้นละ 1.50 บาท คิดเป็น Dividend Yield ราว 1.8% ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 ก.ย.นี้

ติดตามการรายงานเงินเฟ้อไทยเดือน ส.ค. ตลาดคาดขยายตัว 1.51% YoY วันนี้

ติดตามการรายงานค่า PMI ของ EU วันที่ 5 ก.ย.

ติดตามการรายงานค่า PMI สหรัฐฯ วันที่ 6 ก.ย.

ติดตามการรายงานภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯเดือน ส.ค. วันที่ 7 ก.ย.