- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 31 August 2018 21:14
- Hits: 2195
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
สะสม/ เก็งกำไรหุ้นรายตัว
Smart Pick
สะสม KKP
ราคาปิด 76.75 บาท
ราคาเหมาะสม 80.00 บาท
KKP ขึ้น XD วันที่ 5 ก.ย. หุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็น Yield ที่ 2.6% ช่วยจำกัด Downside Risk วันนี้ จากการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI อาจกดดันให้หุ้น Big Cap ปรับตัวลง
นอกจากนั้น KKP ยังมีปัจจัยบวกรออยู่ใน 2H61 ได้แก่ (1) การเปิดขายกองทุน TFF (2) การขายหุ้น IPO ของโอสถสภา หนุนรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจ IB ของ PHATRA เป็นบวกต่อกำไร 2H61 เติบโตเด่นเหนือกลุ่มธนาคาร
เก็งกำไร IVL
ราคาปิด 60.25 บาท
ราคาเหมาะสม 84.00 บาท
ราคาหุ้นมี Sentiment เชิงบวก จากการถูกเพิ่มน้ำหนักในดัชนี MSCI Thailand ซึ่งจะปรับน้ำหนักในวันนี้
ขณะที่ประเด็นกดดันเตรียมปลดล็อก หลังสิ้นสุดการแปลงสภาพ IVL-W2 ในวันที่ 24 ส.ค. และคาดลูกหุ้นแปลงสภาพจะเตรียมเข้าซื้อขายในสัปดาห์หน้า ทำให้ราคาหุ้นกลับมาเคลื่อนไหวตามปัจจัยพื้นฐานอีกครั้ง ขณะที่เราประเมินกำไรปกติ 3Q61 มีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง
เก็งกำไร UNIQ
ราคาปิด 13.00 บาท
ราคาเหมาะสม 18.70 บาท
กลุ่มรับเหมาฯ ให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET Construction +4.8% เทียบกับ SET INDEX -0.1% หลังกรอบเวลาเลือกตั้งชัดเจนขึ้น เบื้องต้นคาดวันเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.2562
UNIQ บวก 2.3% น้อยหุ้นอื่นในกลุ่ม ได้แก่ CK +4.8%, STEC +8.6%, PLE +6.4%, CNT +44.6% ขณะที่มีงานประมูลก่อสร้างขนาดใหญ่รออยู่ในช่วงที่เหลือของปี เช่น รถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน, รถไฟทางคู่ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีส้มส่วนต่อขยาย
เก็งกำไร TPIPP
ราคาปิด 6.50 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 6.80 บาท
ราคาหุ้นมีปัจจัยหนุนทางเทคนิค เตรียมขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 6.70 บาท หากผ่านได้แนวต้านถัดไป 6.80-6.90 บาท แนวรับ 6.40 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 6.25 บาท
เราคาดเงินปันผลงวด 2Q61 หุ้นละ 0.10 บาท ให้ Yield 1.6% และอีก 0.20 บาท ใน 2H61 ให้ Yield 3.2% ขณะที่กำไรปกติ 3Q61 คาดทำระดับสูงสุดใหม่ จากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า TG6 เต็มไตรมาส และเริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า TG7 เป็นไตรมาสแรก
Switch : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
เราคงมุมมองเป็น "กลาง" ต่อการลงทุนในวันนี้ ซึ่งเป็นวันซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ แม้ว่าปัจจัยต่างประเทศกลับมาเป็นลบอีกครั้ง จากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ค่าเงินในตลาดเกิดใหม่อย่างอาร์เจนติน่าและตุรกีกลับมาอ่อนค่าแรง กดดันบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทย สะท้อนกลับมายังกองทุน iShare MSCI Thailand ETF คืนวานนี้ปิดลบ 1.9% ซึ่งปัจจัยกดดันต่อกองทุน ETF นี้คือการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI Thailand ในวันนี้เป็นตัวเร่งอีกด้วย ทำให้เราประเมินว่า SET INDEX วันนี้มีโอกาสปิดย่อตัวลงทดสอบ 1,710 จุด +/- แต่เรายังคาดหวังว่าจะมีเม็ดเงินจากสถาบันในประเทศ และกองทุน Active Fund ต่างชาติรอสะสมหุ้นหลักของไทยในวันนี้ หลังต่างชาติขายสุทธิมาตลอด 5 วันทำการ 6.9 พันล้านบาท หลังเข้าร่วมงาน Thailand Focus ตลอด 2 วันที่ผ่านมาและวันนี้เป็นวันสุดท้ายของงาน เชื่อว่าจะมีมุมมองเป็น "กลางถึงบวก" ต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในไทย
สำหรับประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่กลับมากดดันบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เรามองว่าเป็นเพียง "Noise" และผลกระทบต่อตลาดหุ้นเอเชียจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นประเด็นที่พูดกันมาตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งท้ายที่สุดสหรัฐฯ และจีนจะเปิดโต๊ะเจรจากัน เพื่อจำกัดผลกระทบต่อภาคเอกชนของตนเอง ขณะที่ตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.ของจีน เท่ากับ 51.3 จุด สูงกว่าตลาดคาดที่ 51.0 จุด และขึ้นจากเดือนก.ค.ที่ 51.2 จุด สะท้อนกิจกรรมด้านการค้าการผลิตของจีนยังอยู่แข็งแกร่ง
กลยุทธ์วันนี้ เราแนะนำ "ทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายเมื่อราคาอ่อนตัว" โดยเฉพาะหุ้น Domestic Play อย่างกลุ่มธนาคาร/ ค้าปลีก / รับเหมาฯ / นิคมอุตฯ / ที่อยู่อาศัย รวมถึงหุ้นปันผลสูงอย่าง KKP ที่จะขึ้น XD ในสัปดาห์หน้า
HOT Topic
Hot Topic วันนี้
1. การปรับน้ำหนักดัชนี MSCI Thailand วันนี้ กดดัน SET INDEX
2. สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กลับมาอีกครั้ง
3. S50U18 วานนี้ร่วงแรงท้ายตลาด เกิดอะไรขึ้น?
4. สัปดาห์หน้าลุ้น Fund Flow หนุนการฟื้นตัวหลังสิ้นสุดงาน Thailand Focus
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ขึ้นทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1730 จุด ก่อนเกิดแรงขายทำกำไรในช่วงบ่ายลงมาปิดที่ 1720.43 จุด ติดลบ 1.83 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเพียง 4.2 หมื่นล้านบาท
กระแสเงินทุน: นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นเป็นวันที่ 5 อีกราว 2.9 พันล้านบาท รวม 5 วันทำการขายสุทธิสะสมกว่า 6.9 พันล้านบาท แต่มีสถานะ Long สุทธิในตลาด SET50 Index Futuresหนาแน่นถึง 3.5 พันสัญญา หลังสัญญา S50U18 ปิดต่ำกว่า SET50 Index ถึง 8.62 จุด ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิสะสม 7.6 หมื่นสัญญา และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 8 อีกราว 580 ล้านบาท รวม 8 วันทำการซื้อสุทธิสะสมไปกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่สถาบันในประเทศซื้อสุทธิเป็นวันที่ 11 อีกราว 3.2 พันล้านบาท รวม 11 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 2.3 หมื่นล้านบาท แต่กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิสะสมในตลาด SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 อีกเล็กน้อยเพียง 368 สัญญา รวม 4 วันทำการมีสถานะ Short สุทธิสะสม 4.9 พันสัญญา และ QTD มีสถานะ Short สุทธิสะสม 2.6 หมื่นสัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ประธานาธิบดีสหรัฐฯปฏิเสธข้อเสนอสหภาพยุโรป (EU) ต่อยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทุกประเภทจากสหรัฐฯ บนเงื่อนไขว่าสหรัฐฯจะต้องยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าจาก EU ด้วยเช่นกัน
Bloomberg เผยประธานาธิบดีสหรัฐฯเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ารวม 2 แสนล้านเหรียญฯ ในสัปดาห์หน้า
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมให้สหรัฐฯถอนตัวออกจากองค์การการค้าโลก (WTO) หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ
ธนาคารกลางอาร์เจนตินาประกาศขึ้นดอกเบี้ย 15% เป็น 60% และปรับเพิ่มเงินทุนสำรองของธนาคารพาณิชย์ที่ต้องฝากไว้ที่ธนาคารกลาง เพื่อพยุงค่าเงิน
สหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อ PCE เดือน ก.ค. ขยายตัว 2.0%YoY เท่ากับตลาดคาด
วันนี้หุ้น PTTGC และ EGCO ขึ้นเครื่องหมาย XD เงินปันผลหุ้นละ 1.75 บาท และ 6 บาท ตามลำดับ มีผลต่อดัชนีราว -1.1 จุด
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ EU และการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI วันนี้
ติดตามการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย เดือน ก.ค.2561 โดย ธปท. วันนี้
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อไทยเดือน ส.ค. ตลาดคาดขยายตัว 1.51% YoY วันที่ 3 ก.ย.
ติดตามการรายงานค่า PMI ของจีนและ EU วันที่ 5 ก.ย.
ติดตามการรายงานค่า PMI สหรัฐฯ วันที่ 6 ก.ย.
ติดตามการรายงานภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯเดือน ส.ค. วันที่ 7 ก.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO13206