กลยุทธ์ : ทิศทางตลาดหุ้นไทย คาดยังมีแนวโน้มที่จะเห็นการย่อตัวลงของดัชนี หากไม่ผ่าน1730+/- จุด แต่อย่างไรก็ตามหากยังมีปัจจัยบวกหนุนเข้ามา เราคาดว่าดัชนี SET น่าจะยังมีความพยายามที่จะขึ้นไปทดสอบ 1730 จุดอีก แต่หากครั้งนี้ไม่ผ่านอีก คาดจะปรับตัวลงหลุด1700 จุด แต่หากเกิดมีปัจจัยในเชิงลบช่วงสั้นๆ ในปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้าแล้วดัชนีย่อตัวลงมา การรีบาวน์ที่จะขึ้นไปทดสอบ 1730 จุด จะไม่มีอีก ต้องไปรอในเดือน ต.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่งบ Q3/18 ของธนาคารทยอยประกาศ หุ้น CPALL ถือเป็นหุ้นใหญ่ที่ราคาดิ่งลงอย่างต่อเนื่องจากจุดสูงสุดที่เกือบ 90 บาท เหลือ 68 บาท ประเด็นที่กดดันน่าจะมาจากพื้นฐาน โดยเฉพาะ เรื่องงบ Q2/18 ความกังวลจากหุ้นกู้แปลงสภาพ ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการให้เอเจนซี่ทางการเงินเข้าเปิดใหบ้ ริการทางการเงิน และการถูก MSCI ลดน้ำหนัก แต่หากดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ต้องบอกว่าเริ่มน่าสนใจในแง่ของการเก็งกำไร โดยราคาหุ้นเคยขึ้นไปที่ค่า +2SD ที่ประมาณใกล้ 90 บาท หลังจากนั้นถึงปัจจุบันราคาลงมาที่ระดับ-2SD ที่ประมาณ 69 บาท ลักษณะการลงแบบนี้ หากไม่หลุดค่า –2SD เรามองว่าจะะเกิดการรีบาวน์ของราคาหุ้น นอกจากดูการลงของระดับราคาหุ้น หากมาดูการแนะนำของนักวิเคราะห์ที่cover หุ้นตัวนี้ จะพบว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ราคาหุ้นที่เทรดกันอยู่ห่างจากราคาเป้าหมาย 12เดือนของนักวิเคราะห์มากที่สุดประมาณ 25 บาท ซึ่งโดยปกติส่วนต่างดังกล่าวมักจะไม่เกิน15 บาท ดัชนี SET ที่ขึ้นมายืน ที่ 1722 จุดเมื่อวานนี้ วันนี้น่าจะยังมีแรงหนุนให้ขึ้นไปทดสอบ1730 จุดอีก จากแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันเบรนท์ขึ้นมายืนที่ 77 ดอลลาร์/บาร์เรล หากดัชนีขึ้นไปที่บริเวณ 1730+/- จุด เรามองว่าน่าจะมีแรงขายทำกำไร โดยมองแนวต้านที่ 1730-1732 จุดและแนวรับที่ 1718-1714 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อ CPALL COL IVL BJC

 

  CPALL : เราแนะนำ ซื้อ CPALL โดยมีราคาเป้าหมาย 80 บาท เราคาดว่าผลกำไรใน3Q18 ของ CPALL จะยังถูกกดดันจาก 1) GPM ที่ลดลง yoy ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ, 2)ค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงขึ้นและ 3) ค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินงานสูงจากการขยายกิจการในอินเดียของ MAKRO อย่างไรก็ตาม ในด้านยอดขาย เราคาดว่าบริษัทจะมี SSSG เป็นบวกใน 2H18 (4.75% ใน 1H18) ด้วยบรรยากาศการใช้จ่ายในประเทศที่ดีขึ้นจาก 1) การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในเดือนเม.ย. 2) ดัชนีรายได้เกษตรกรสูงขึ้น yoy ตั้งแต่เดือนเม.ย.2018 และ 3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐที่จะประกาศใน 4Q18 หากอิงข้อมูลซื้อขายหุ้นในอดีตห้าปี เราพบว่าราคาหุ้น CPALL ปรับตัวลงสองครั้งคือ 1) ปี FY15 เมื่อมีประเด็นเรื่องธรรมาภิบาล (CG) และ 2) 4Q16 ในช่วงไว้ทุกข์ แต่หากไม่รวมประเด็น CGและใน 4Q16 ราคาหุ้นจะซื้อขายที่ -1SD ของค่าเฉลี่ยห้าปี เราจึงมองว่าราคาหุ้น CPALLมี downside อยู่ที่ 25x (-1SD) หรือ 66 บาท ขณะที่เรายังมองเชิงบวกต่อฐานะผู้นำตลาดสำหรับการลงทุนในระยะยาว เรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงจากจุดสูงสุดที่ 91 บาทช่วงสามเดือนที่ผ่านมาน่าจะรับรู้ผลประกอบการที่น่าผิดหวังใน 2Q18 ไปแล้ว

 

  30 ส.ค. : BCPG TRT UBIS NCH AIT CHO BA

  3 ก.ย. : TPBI XO COL DDD TMILL ASAP

  4 ก.ย. : HUMAN ORI EKH ASEFA EPG APCO MVP

  5 ก.ย. : LHK NWR COLOR BJCHI

  6 ก.ย. : DRT TPCH S MC PHOL CBG

  7 ก.ย. : TCMC ICN EA SMIT TRC SPA

  10 ก.ย. : SORKON SUPER SEAFCO PDI DEMCO TRU BAFS

  11 ก.ย. : SAWAD MEGA TSR SYNEX TKS SAT

  12 ก.ย. : HREIT GUNKUL TPIPP WICE ATP30 SGP

  13 ก.ย. : BM TICON STA UPOIC LST

  14 ก.ย. : WHA PJW PLANB SKE SELIC ADVANC

  17 ก.ย. : BRR PSTC PORT CHEWA ANAN

  18 ก.ย. : ZIGA CPL TACC ASN SUTHA

 

  STA : Company Note คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท

  COL : Company Note คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย 31.50 บาท

 

  กลยุทธ์ : SET Index มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1730 จุดตามกรอบแนวโน้มขาลง และมีแนวต้านสำคัญที่1740 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่1780 จุด โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1700 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค

  Minor International (MINT TB; THB 39.00) – ซื้อ

  Forth Smart Service (FSMART TB; THB 9.00) –ซื้อ