WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
 
Market summary
  เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งในกรอบแคบด้วยเปิดการเปิดต่ำ และค่อยๆดันตัวมาปิดดีขึ้นในช่วงท้าย ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย มีแรงซื้อเด่นที่หุ้นที่มีประเด็นส่วนตัว เช่น BEAUTY TRUE และการรีบาวด์ของ PTG แต่ทว่าหุ้นขนาดใหญ่กลับยังโดนแรงขายต่อ เช่น PTT  และอยู่ในข่ายต้องจับตาในบริเวณแนวรับสำคัญอย่าง CPALL BANPU PTTGC  ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,703.8 จุด (-0.98 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.2 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 3.9 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิอีกครั้งที่ 1.4 พันล้านบาท พร้อมการเพิ่มสถานะ Short SET50 index future เป็นวันที่ 2 อีก 10,893 สัญญา
 
Investment theme
  ปัจจัยกดดันหลักยังมาจากต่างประเทศ ปัจจัยบวกไม่เด่น :  เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นาย Jerome Powell ได้กล่าวในงานสัมมนาวิชาการที่ Jackson Hole โดยมีใจความหลักถึงประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยจะ “ค่อยเป็นค่อยไป” จากสัญญาณฟื้นตัวที่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้นต่อตลาด อย่างไรก็ดี เรายังมีมุมมองเป็น “ลบ” ต่อปัจจัยจากต่างประเทศ ทั้งความเสี่ยงจากประเด็น Trade War ที่จะดำเนินต่อไปจากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-จีนเพื่อหาข้อตกลงในการยุติสงครามการค้าได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีความคืบหน้าเชิงบวก พร้อมกับการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 25% นอกจากนี้ ประเด็น Geopolitical Risk นำโดยการประกาศคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ จะยังเป็นแรงกดดันให้ตลาดหุ้นไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ แม้จะมีการทำ Stock Rotation เพื่อพยุงดัชนีไม่ให้หลุดกรอบแนวรับบริเวณ 1,680-1,690 ส่วนประเด็นที่อาจช่วยหนุนให้ตลาดฟื้นตัวได้ คาดว่าจะมาจากในประเทศ โดยเฉพาะงาน Thailand Focus ในช่วงปลายสัปดาห์
  Investment Theme :  คาดว่าโฟกัสของ Thaialnd Focus จะคงมุ่งไปสู่หุ้น Domestic Play เป็นสำคัญ หนุนจากการบริโภคและการลงทุนภาครัฐและเอกชน ที่ยังเด่น ทำให้กลุ่มค้าปลีก, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มก่อสร้าง คาดจะได้รับความสนใจ มองที่ SCB STEC BEM GOLD ขณะที่ท่าทีของ FED มองว่าจะทำให้ตลาด EM รวมถึงไทย ผ่อนคลายประเด็นกังวลเรื่อง Fund Flow ได้บ้าง สะท้อนผ่านค่าเงินสหรัฐที่พลิกมาก่อนค่าอย่างรวดเร็ว Dollar Index ลงสู่ 95.0+/- ส่วน Bond Yield สู่ 2.8% เราประเมินกรอบ SET  ยกตัวขึ้นมาเทรดบริเวณ 1705-1720 และยังแนะถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40%
 
Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา –  การเจรจาระหว่างจีนและสหรัฐฯจบลงโดยไม่มีความคืบหน้าเชิงบวก/ประธาน FED Jerome Powell กล่าวถึงการขึ้นดอกเบี้ยว่าจะยังค่อยเป็นค่อไป / Dollar กลับมาอ่อนค่าพร้อมผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ลดลงแตะ 2.81%
 
Stock pick : SCB
SCB : ทยอยสะสม 157.00 บาท/หุ้น  
   ท่าที่ของ ธปท. ต่อการไม่ปิดกั้นในการขึ้นดอกเบี้ยของไทย ส่ง sentiment เชิงบวกสู่กลุ่มธนาคารโดยตรง เด่นที่ธนาคารใหญ่อย่าง SCB, BBL, KBANK โดย นวค. คาด กำไรของ SCB จะเติบโต +12.5% YoY และขยายตัวต่อเนื่องในปีหน้า +15.3% YoY
   ความกังวลเรื่องหนี้เสียผ่อนคลายลง เช่น PACE หรือ ในกรณี Wind Energy Holdings ซึ่งล่าสุด SCB แจงเป็นเพียงธนาคารผู้ให้
สินเชื่อโครงการ  (Project Loan) ซึ่งทั้ง 8 โครงการ 690MW จ่ายไฟแล้ว 3 โครงการและสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขสินเชื่อได้ ส่วนระหว่างก่อสร้าง 5 แห่ง ก็มีการศึกษาความเป็นไปได้ตามปกติ มีการปล่อยเงินกู้ตามความคืบหน้าโครงการ อีกทั้งมีหลักประกันคุ้มวงเงิน
   ราคาหุ้นทะลุ neckline ที่ 140.00 แล้วชัดเจน เปิด upside ระยะกลาง จังหวะอ่อนตัวมาทยอยสะสมได้
  Trading idea – เก็ง STEC เป้าหมาย 25 บาท นายกเปิดก่อสร้างรถไฟฟ้า ชมพู เหลือง วันนี้ / สะสม BJC ประชุม นวค. ออกมาดี ผ่านต้าน57 บาทได้ กราฟเปิด / ระวัง BANPU แรง short ยังหนาแน่น / นวค.ปรับเป้า PTTEP ขึ้น 5% / เก็งกำไร AOT ข่าวประมูลพื้นที่พาณิชย์ เพิ่ม upside 
 
Technical View
  แนวโน้มหลักยังเป็นขาขึ้น ยังลุ้นการยืน EMA200Day   :  ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ และยังคงติดแนวต้าน EMA200Day ที่บริเวณ 1706 เป็นครั้งที่ 5 และยังไม่ปิดยืนได้ จึงยังมองว่าดัชนีตัวในกรอบ 1690-1720 ประกอบกับ MACD ที่ใกล้เกิดสัญญาณซื้ออีกครั้ง จึงยังมองว่ายังคงลุ้นการปิดยืนเหนือ 1706 ได้ ซึ่งจะทำให้แนวโน้มระยะกลางถึงยาวกลับมาดูดีขึ้น ระยะสั้นหากอ่อนตัวไม่หลุด 1690 ยังเน้นเล่นเก็งกำไรในกรอบ 1690-1720                 กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น :  Trading ในกรอบ 1690-1720 เน้น Trading เล่นรอบและขายทำกำไรที่แนวต้าน แต่หากหลุด 1690 แนะนำ ขายทำกำไรในระยะสั้น  2)  ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุด 1690 แนะนำทยอยสะสมหุ้นเพื่อเทรดในกรอบ 1690-1720
  แนวรับ : 1680, 1690 แนวต้าน : 1706, 1720
 
Keep an eye on…
  ปัจจัยต่างประเทศ:  GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ, MSCI ปรับน้ำหนักไทยลง 0.2%
  ปัจจัยในประเทศ:  งานสัมมนา Thailand Focus 29-31 ส.ค.
 
หุ้นเทคนิค:
  IVL (B 56.00-57.50, Tp 61.00//63.00, Cut 55.00)
  BJC (B 56.00, Tp 6000, Cut 55.00)
 
 
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ 
Research Department Tel. 02-658-5000
OO12960

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!