- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 August 2018 18:26
- Hits: 3811
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
เน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัว / หรือพักเงินไว้ในหุ้นปันผล
Smart Pick
สะสม LH
ราคาปิด 11.50 บาท
ราคาเหมาะสม 11.80 บาท
LH ขึ้น XD วันที่ 28 ส.ค. หุ้นละ 0.40 บาท ให้ Yield 3.4% เป็นที่พักเงินได้ดี จากตลาดหุ้นทั่วโลกอาจผันผวนหากผลการประชุมระหว่างจีนและสหรัฐฯ ไม่ประสบความสำเร็จ
เรามองว่าแนวโน้มกำไรปกติ 2H61 ทรงตัวจากยอดโอนโครงการแนวราบที่เร่งตัวขึ้น และมี Sentiment บวกจากการเปิดโครงการใหม่ถึง 2.0 หมื่นลบ.ใน 2H61 vs 1H61 ที่ 6.5 พันลบ. คาด Presales จะออกมาดีและหนุน Backlog ให้เพิ่มขึ้น
สะสม AOT
ราคาปิด 65.50 บาท
ราคาเหมาะสม 92.00 บาท
ราคาหุ้น Sideway ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา น่าจะสะท้อนปัจจัยลบระยะสั้นของนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัวไปแล้ว เราเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวใน 4Q61 จาก High Season และมีแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวรัสเซียกลับมาเด่น หลังสิ้นสุดเทศกาลฟุตบอลโลก
นอกจากนี้มีปัจจัยบวกรออยู่ ได้แก่ (1) การออก TOR ประมูล Duty Free ใน 4Q61 และ (2) การเข้าบริหาร 4 สนามบินภูมิภาค
เก็งกำไร SPRC
ราคาปิด 15.70 บาท
ราคาเหมาะสมอิง Consensus 17.25 บาท
SRPC ขึ้น XD วันที่ 27 ส.ค. หุ้นละ 0.59 บาท คิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 3.8%
หุ้นกลุ่มโรงกลั่นมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากเหตุไฟไหม้โรงกลั่นของ Petrobras ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในบราซิลกำลังการผลิต 4.15 แสนบาร์เรล/วัน ส่งผลให้ Supply ตึงตัว อีกทั้งการเข้าสู่ High Season ใน 3Q ซึ่งเป็นฤดูมรสุมของสหรัฐฯ หนุนให้ค่าการกลั่นทรงตัวถึงไต่ระดับขึ้นได้ เป็น Sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้นโรงกลั่น
เก็งกำไร PTTEP
ราคาปิด 138.50 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 143.00 บาท
วานนี้ราคาหุ้นทะลุ 137.00 บาทได้ เป็นสัญญาณบวกทางเทคนิค จึงมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 143.00 บาท แนวรับ 138.00 บาท และ Stop loss หากปรับตัวลงต่ำกว่า 137.00 บาท
หุ้นกลุ่มพลังงานมีปัจจัยหนุนจาก ราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ BRENT คืนวานนี้ปิดบวก 3% หลัง EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด และ Dollar Index อ่อนค่า หนุนให้เงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง
Switch : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
วานนี้ SET INDEX ยังไม่ผ่านแนวต้าน 1705 จุดบนเส้นค่าเฉลี่ย 200 จุด และมูลค่าการซื้อขายต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาทเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน เป็นผลจากหลายตลาดในเอเชียปิดทำการ ตลาดกังวลต่อการลดน้ำหนักดัชนี MSCI Thailand เพื่อเพิ่มหุ้น A-shares ของจีน ณ วันที่ 31 ส.ค. รวมถึงตลาดรอชัดเจนต่อการเจรจาด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ส่งผลให้ SET INDEX วันนี้เราคาดเคลื่อนไหว 1695-1710 จุด
ทั้งนี้กลุ่มพลังงาน/ ปิโตรเคมี เชื่อว่าจะกลับมามีสีสันในระยะสั้น หนุนด้วยราคาน้ำมันดิบ NYMEX บวกแรง 3% หลังสต๊อคน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลงถึง 5.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าตลาดคาด อาจทำให้เกิดแรงเก็งกำไร PTTEP รวมถึงหุ้นกลุ่มโรงกลั่น (TOP/ SPRC) ช่วงนี้เคลื่อนไหวโดดเด่นทั้งค่าการกลั่นสิงคโปร์ที่ทรงตัวระดับสูง และโรงกลั่นใหญ่สุดในบราซิลเกิดเหตุเพลิงไหม้ ด้วยปัจจัยเหล่านี้ช่วยสนับสนุนให้ SET INDEX มีลุ้นทะลุ 1,705 จุดในวันนี้
บทวิเคราะห์พื้นฐานที่น่าสนใจวันนี้ คือ สินเชื่อเดือน ก.ค.ของกลุ่มธนาคารทรงตัว MoM แต่ขยายตัว 2.4% YTD โดยธนาคารที่รายงานสินเชื่อขยายตัวเด่นได้แก่ KBANK (+0.7% MoM), TISCO (+0.7% MoM) และ KKP (+0.6% MoM)
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ คือ "ขึ้นขาย ลงซื้อ" เน้นเก็งกำไรกลุ่ม Domestic Play หรือทยอยสะสมหุ้นปันผลสูง อย่าง KKP/ LH/ TTW/ SPRC คาดการณ์ Dividend Yield งวด 1H61 ในระดับ 2.4%-3.8%
HOT Topic
1. กลุ่มโรงกลั่นวานนี้ปรับตัวขึ้นเด่นตามที่เราแนะนำ เรามองอย่างไรต่อ?
2. บทวิเคราะห์เชิงเศรษฐกิจ ตัวเลขส่งออกไทย เดือน ก.ค.
3. ประธานเฟดจะส่งสัญญาณอย่างไรต่อทิศทางดอกเบี้ย?? ติดตามการแถลงที่ Jackson Hole วันที่ 24 ส.ค.
4. ต่างชาติ Long สุทธิ SET50 Index Future สูงกว่าหมื่นสัญญาณวันที่ 2 ทิศทางกระแสเงินทุนจะเป็นอย่างไร?
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ฟื้นตัวกลับขึ้นมาไปเหนือ 1700 จุด ในระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่ยังไม่ปิดยืนเหนือ 1700 จุดได้ ปิดที่ 1698.30 จุด บวก 3.67 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 3.8 หมื่นล้านบาท น้อยสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.2561 ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายเพียง 3.7 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งปิดทำการ
กระแสเงินทุน : สถาบันในประเทศยังคงเป็นผู้ซื้อสุทธิหลัก และซื้อเป็นวันที่ 5 อีก 2.1 พันล้านบาท รวม 5 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 1 หมื่นล้านบาท แต่สถาบันในประเทศและบัญชีบล.มีสถานะ Short สุทธิในตลาด SET50 Index Futures ราว 4.2 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิสะสมราว 1.8 หมื่นสัญญา สวนทางกับนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 อีกเล็กน้อยราว 255 ล้านบาท รวม 7 วันทำการขายสุทธิสะสมราว 1.2 หมื่นล้านบาท แต่นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิในตลาด SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีกราว 1.4 หมื่นสัญญา รวม 3 วันทำการมีสถานะ Long สุทธิสะสมหนาแน่น 2.9 หมื่นสัญญา
ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีกราว 8.0 พันล้านบาท รวม 2 วันซื้อสุทธิรวมกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ เผยภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯยังขยายตัวได้ดี ภาวะตลาดแรงงานแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายที่ระดับ 2% พร้อมส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. และแสดงความกังวลต่อนโยบายการค้าระหว่างประเทศว่าเป็นความเสี่ยงหลักต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Saudi Aramco บริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ของโลกระงับแผนการเข้า IPO
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวหารัฐบาลจีนว่ากำลังแทรกแซงค่าเงินหยวนด้วยการลดค่าเงิน เพื่อให้สินค้าส่งออกของจีนถูกลงและสามารถชดเชยกับภาษีนำเข้าที่ถูกเรียกเก็บ
กระทรวงพาณิชย์ไทยรายงานมูลค่าการส่งออกเดือน ก.ค. ขยายตัว 8.27%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 10.00%YoY โดยการส่งออกไปสหรัฐฯหดตัวครั้งแรกในรอบ 21 เดือนที่ 1.9%YoY ขณะที่การนำเข้าเดือน ก.ค. ขยายตัว 10.53%YoY ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด 10.00%YoY
รายงานการประชุม กนง. ส่งสัญญาณใช้นโยบายแบบตรึงตัวมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง แต่มีความเสี่ยงจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศ
ติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ วันนี้
ติดตามการเริ่มเก็บภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน วงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท วันนี้
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือนก.ค. ตลาดคาดขยายตัว 0.9% YoY วันที่ 24 ส.ค.
ติดตามการกล่าวปาฐกถาในงาน Jackson Hole ของประธานเฟด วันที่ 24 ส.ค.
ติดตามการทำประชาพิจารณ์ของสหรัฐฯ ต่อสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ารวม 2 แสนล้านเหรียญ ระหว่างวันที่ 20 - 27 ส.ค.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist 662-009-8059
OO12843