- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 August 2018 18:24
- Hits: 3684
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบ โดยมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นนำโดย TOP, ESSO, PTTEP, PTT และกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง BGRIM, EA, BCPG อย่างไรก็ตามมีแรงขายในกลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL, ,HMRPO ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,698.3 จุด (+3.6 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.7 หมื่นล้านบาท ลดลงขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.0 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 ที่ 255 ล้านบาท แต่ยังคงเปิดสถานะ Long SET50 index future ที่ 14,029 สัญญา
Investment theme
จับตาสหรัฐ-จีนเจรจาการค้า ในขณะที่ Trump ขู่เพิ่มภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรป : วันนี้แนะนักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนอีกครั้ง ภายหลังเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาล้มเหลว โดยหากรวมการขึ้นภาษี 1.6หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในวันนี้ จะทำให้วงเงินรวมสูงกว่า 5.0หมื่นล้านเหรียญสหรัฐครอบคลุมสินค้ากว่าพันรายการ เราให้ความสำคัญกับการเจรจาในครั้งนี้ และมองว่าเป็นโอกาสสุดท้าย (ในอดีตมีความพยายามพูดคุยในประเด็นดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้งแต่ล้มเหลว) เนื่องจากหสหรัฐมีกำหนดขึ้นภาษีครั้งที่ 3 เป็นวงสูงกว่า 2.0 แสนล้านเหรียญ หากการเจรจานี้ไม่สำเร็จ คาดมีโอกาสสูงที่สหรัฐจะหันกลับใช้แผนเดิมกล่าวคือปรับเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีนอีกครั้งในวันที่ 6 ก.ย. ซึ่งเชื่อว่าตลาดยังไม่ได้สะท้อนประเด็นดังกล่าว ในขณะที่ล่าสุด Trump เตรียมปรับขึ้นภาษี 25% ในรถยนต์จากยุโรป โดยหากเกิดขึ้นจริงคาดส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจยุโรป โดยเรามองว่า SET จะยังแกว่งตัวในกรอบ 1,680-1,705 ไปจนกว่าทราบผลการเจรจา
Investment Theme: ภายหลังจากการรายงาน GDP ที่สูงกว่าคาดจากการบริโภคและการลงทุนภาครัฐและเอกชน ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในกลุ่ม domestic อย่างกลุ่มค้าปลีก, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มก่อสร้าง อย่างไรก็ตามปัจจัยต่างประเทศยังกดดันการลงทุนในภาพใหญ่ เช่นความผันผวนของค่าเงิน, ผลของการเจรจาสงครามการค้า และการแถลงของ Powell เป็นผลให้เราประเมินกรอบแนวต้าน SET บริเวณ 1,705 แนะถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40%
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ก.พาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือนก.ค.เติบโตต่ำกว่าคาดที่ 8.27% นำเข้า 10.5% ส่งผลให้ขาดดุล 516 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับ 7เดือน ส่งออกเติบโต 10.57% เกินดุล 2.9 พันล้านเหรียญ / SET เผยครึ่งปีแรก บริษัทหลักกทรัพย์ 554 บริษัทกำไรรวม 5.51แสนล้านบาท เติบโต 7.61% / Brent ปรับขึ้น 74.7 เหรียญ สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาด 5.8 ล้านบาร์เรล
Stock pick : GOLD
GOLD : ทยอยสะสม 13.50 บาท/หุ้น คิดเป็น Upside 35%
ราคาหุ้นปรับตัวลง 10% มาทดสอบแนวรับสำคัญอีกครั้ง จากความกังวลการปรับแผน New launch โครงการใหม่ ซึ่งไม่กระทบประมาณการกำไรของเรา ส่งผลให้เรามองเป็นโอกาสในการเข้าสะสมอีกครั้งด้วย Upside สูงกว่า 33% การเปิดโครงการใหม่ของปีนี้ที่เราตั้งเป้าไว้ที่ 25,000 ล้านบาท (+270% YoY) ตั้งแต่แรกและคิดว่าเพียงพอกับเป้า presales ที่เราตั้งไว้ที่ 16,000 ล้านบาท (+60% YoY) เติบโตเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม
เราประเมินรายได้ปีนี้ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง คาดเติบโตสูงกว่า 60%YoY ที่ 1.46 หมื่นล้านบาท และคาดกำไรที่ 1.95 พันล้านบาท (+80%YoY) โดยนอกเหนือจากจุดเด่นด้านกำไรที่ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของบริษัทนั่นคือ Asset value และ Recurring income ที่เติบโตเด่นที่สุดในกลุ่มอสังหา ประกอบกับมี Catalyst เปิดโครงการสามย่าน มิตรทาว์น ที่คาดเปิดกลางปีหน้า
Trading idea – เก็งกำไร BGRIM (29.0 บาท) เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการประชุมนักวิเคราะห์ เริ่มเห็นพัฒนาการเชิงบวกจากการต่ออายุ SPP และมี Upside 1.50บาท จากประมาณการในโครงการโรงไฟฟ้าเวียดนาม / เก็งกำไร MACO กรอบ 1.90-2.00 บาท
Technical View
แกว่งตัวในกรอบ 1690-1706 รอเลือกทาง: แรงซื้อจากหุ้นกลุ่มพลังงาน และธนาคาร ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบ EMA200Day ที่บริเวณ 1706 เป็นครั้งที่ 3 และยังไม่สามารถผ่านได้ จึงยังมองว่าดัชนีตัวในกรอบ 1690-1706 ประกอบกับ Modified Stochastic ยังอยู่ในโซนต่ำ จึงยังมองว่ายังคงลุ้นการ ยืนเหนือ 1706 ได้ ซึ่งจะทำให้แนวโน้มระยะกลางถึงยาวกลับมาดูดีขึ้น ระยะสั้นหากอ่อนตัวไม่หลุด 1690 ยังเน้นเล่นเก็งกำไรในกรอบดังกล่าว
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1690-1706 เน้น Trading เล่นรอบและขายทำกำไรที่แนวต้าน แต่หากหลุด 1690 แนะนำ ขายทำกำไรในระยะสั้น 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุด 1690 แนะนำทยอยสะสมหุ้นเพื่อเทรดในกรอบ 1690-1706
แนวรับ : 1680, 1690 แนวต้าน : 1706, 1720
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: ประชาพิจารณ์ Trade war ของ US , การประชุมการเงินโดยคุณ Powell ที่ Jackson Hole
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
TOP (B 84.00-85.00, Tp 87.50//90.00, Cut 83.00)
EA (B 37.00, Tp 40.00, Cut 36.50)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO12842