- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 16 September 2014 16:35
- Hits: 2192
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แนวรับDouble Bottom 1,569/1,566
Technical : แนวรับ : 1,575 / 1,566 แนวต้าน : 1,580 / 1,591
หุ้นแนะนำพิเศษ : SCB แนวรับ 184.50/179 แนวต้าน 189/194.50
หุ้นเด่นรายวัน : TYCN CSP WHA ANAN
วันจันทร์ตลาดหุ้นไทยปิดลบ ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,579.12 จุด ลดลง 2.24 จุด(-0.14%) มูลค่าการซื้อขาย 37,350.18 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิอีก 642.13 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,553-1,601 ตลาดยังคงมีแรงกดดันทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอก เช่น LTFอยู่ระหว่างพิจารณาข้อดีข้อเสียต่อส่วนรวม ข้อมูลเศรษฐกิจจีนตัวเลขFDI รวมทั้งการประชุมFOMC และการรายงานผลการประชุมMPC ในขณะที่ SET50 การปรับตัวระยะสั้นสร้างแนวรับDouble Bottom 1,046/1,047 ได้อย่างมีนัยสำคัญ แนวต้าน 1,064-1,065 มีโอกาสทดสอบ การผ่านยืนจะกลับเป็นสัญญาณขาขึ้นต่อเนื่อง GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,790-19,110 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 18,840-19,160
กลยุทธ์ ตลาดยังแกว่งตัวยืนแนวรับพร้อมมีแรงซื้อเล่นรอบจากความหวังของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น กลุ่มอสังหาฯ PF SPALI PF PS LH กลุ่มถ่านหินปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดและปริมาณการซื้อขายเริ่มหนาแน่นต่อเนื่องมีโอกาสของการเข้าซื้อระยะสั้น TCC EARTH AGE BANPU กลุ่มธนาคารปรับตัวลงพอสมควรคาดจะมีแรงซื้อกลับคืนหรือกลับตัวขึ้นทางเทคนิคKBANK SCB BBL TMB หุ้นรายหลักทรัพย์ OCEAN WINNER ICHI ระยะกลาง ถือ / รอขายบางส่วน 1,601
หุ้นแนะนำพิเศษ
SCB (ราคาปิด 187 ซื้อ เป้าหมาย 228 บาท) ปัจจัยพื้นฐาน ยังดีจากการเป็นแบงก์ขนาดใหญ่และกลยุทธ์การเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสินเชื่อผู้ประกอบการSME ที่สนับสนุนการเติบโตของสินเชื่อและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร กำไรครึ่งแรกของปี 57 เท่ากับ 2.8 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 8%YoY คิดเป็น 52% ของประมาณการทั้งปีที่ 5.4 หมื่นล้านบาทซึ่งเติบโต 7% จากปี 56 ล่าสุดผู้บริหารได้ประกาศปรับลดเป้าสินเชื่อปีนี้เหลือโต 5-6% จาก 8-9% หลังครึ่งปีแรกขยายตัวต่ำ ปลายเดือนมิ.ย. 57 มียอดสินเชื่อหดตัว 0.1% จากปลายปี 56 ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในช่วงปลายปีจะช่วยหนุนให้ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น
หุ้นเด่นรายวัน
TYCN(ปิด 4.52 ซื้อเก็งกำไร) ,CSP(ปิด 4.48 ซื้อเก็งกำไร) เก็งกำไรกลุ่มผู้ประกอบการเหล็กที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการลงทุนของภาคเอกชนที่กำลังกลับมาฟื้นตัว โดย TYCN เป็นผู้ประกอบการเหล็กลวด สกรู ขณะที่ CSP เป็นผู้ผลิตและแปรรูปเหล็กครบวงจร อาทิเหล็กแผ่นชนิดม้วน,ท่อเหล็ก (ที่มา: ทันหุ้น)
WHA (ราคาปิด 39 ซื้อเก็งกำไร ) เตรียมเปิดขายกอง REIT ในเดือนพ.ย.โดยมีแผนเดินสายโรดโชว์กลุ่มนักลงทุนสถาบันในเดือนต.ค. สินทรัพย์ที่จะขายประกอบด้วย 3 โครงการ ได้แก่ WHA Mega Logistics Center ถนนบางนา-ตราด ก.ม.18 และ ก.ม. 23 โครงการศูนย์กระจายสินค้า WHA ลาดกระบัง เฟส1 และ เฟส2 รวมพื้นที่ให้เช่าทั้งสิ้นประมาณ 167,000 ตารางเมตร มีมูลค่าระดมทุน 4,700 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ยืมประมาณ 25% ของมูลค่าระดมทุน
ANAN (ราคาปิด 4.18 ซื้อเก็งกำไร) เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมกัน 4 โครงการในทำเลใกล้รถไฟฟ้ามูลค่ารวมกว่า 14,500 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ "ไอดีโอ" และ "แอชตัน" หนุนยอดขาย Presale ทำได้ดีกว่าเป้า 1.15 หมื่นล้านบาท และส่งผลให้มี Backlog เพิ่มจากเดิมราว 1.75 หมื่นล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
*ADAM/ SLC / IFEC / AJD มีผลบังคับใช้ 13 ส.ค. - 19 ก.ย.57
* TH มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค. - 26 ก.ย. 57
* AJP/ SOLAR / SUPER /VIH มีผลบังคับใช้ 25 ส.ค. - 3 ต.ค.57
* ACD / DIMET / EMC / EVER / GENCO / SST / TAKUNI มีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. - 10 ต.ค. 57
* BKD / CSS / SUPER-W1 / TFI มีผลบังคับใช้ 8 ก.ย. - 17 ต.ค. 57
* ABC / BMCL / E / EE / KC / MAX / NUSA / RASA / RPC มีผลบังคับใช้ 15 ก.ย. - 24 ต.ค. 57
/ SEAOIL / SPVI
***ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกเลิกการกำหนดให้สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าซื้อหลักทรัพย์ TRUE โดยการวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนการซื้อ (Cash Balance) มีผลตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าของวันที่ 16 กันยายน 2557 เป็นต้นไป***
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 43.63 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 43.63 จุด ส่วนดัชนี NASDAQ และ S&P 500 ปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนทราบผลการประชุมเฟด โดยมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับจับตาดูแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด นอกจากนี้นักลงทุนยังเทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีก่อนที่หุ้นของบริษัทอาลีบาบาซึ่งเป็นเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซของจีนโดยมียาฮูเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นอันดับสองเตรียมจะเสนอขายหุ้น IPO ในสัปดาห์นี้ ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 43.63 จุด หรือ +0.26% ปิดที่ 17,031.14 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 1.41 จุด หรือ -0.07%ปิดที่ 1,984.13 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 48.70 จุด หรือ -1.07%ปิดที่ 4,518.90 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 0.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟด โดยมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักเนื่องจากตลาดยังมีแรงกดดันจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอของสหรัฐและจีน โดย เฟดเปิดเผยว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ของสหรัฐหดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่จีนเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนส.ค.ขยายตัวเพียง 6.9% เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากระดับ 9% ในเดือนก.ค.ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 65 เซนต์ ปิดที่ 92.92 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 46 เซนต์ปิดที่ 96.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant : ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์