- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 August 2018 16:37
- Hits: 2854
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
ปัจจัยในประเทศจะหนุนหุ้นไทย Outperform ภูมิภาค
วันนี้ คาดบวกต่อ (ลดช่วงบวกลง และ วอลุ่มลดลง) โดยกลุ่มหุ้น Outperform จะกระจุกตัวในหุ้นที่มีประเด็นข่าว Catalyst รายตัว เช่น ประเด็น M&A, มุมมองจาก ผบห.ต่อแนวโน้มครึ่งปีหลัง (Analyst meeting, Opportunity day)
ปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ จะมาจากในประเทศเป็นหลัก เช่น กกต.ยืนยัน มองไม่เห็นเหตุที่จะทำให้ เลือกตั้ง ล่าช้ากว่า 24 ก.พ.62 (ที่มา มติชน), GDP ไทยโตดีเกินคาด หนุนความเชื่อมั่นครึ่งปีหลัง
สัปดาห์นี้คาดดัชนีฯ จะฟืนตัว Sideways up หลังหมดแรงขาย Realign Port. สำหรับหุ้นที่ งบ แย่กว่าคาดจบลง จากนี้ ให้ติดตาม Outlook ครึ่งปีหลังผ่าน การประชุมนักวิเคราะห์ และ Opportunity day
What to watch :
(*/-) ก.ท่องเที่ยว เผยตัวเลข นักท่องเที่ยวต่างชาติ 7 เดือนแรกปี 60 +11% y-y ส่วนรายได้โต 14.44% y-y เป็น 1.18 ล้านล้านบาท / ด้านผู้ประกอบการ (อิงจาก Analyst meeting CENTEL) คาดนักท่องเที่ยวจีน จะรายงานตัวเลขที่ลดลงใน ช่วงเดือน สค.-กย.
(+) การเจรจาการค้า ระหว่าง จีน-สหรัฐฯ 22-23 สค.นี้
(*/+) รายงานการประชุม เฟด วันพรุ่งนี้ และ ประชุม Jackson Hole 23-25 สค. ตลาดจับตานโยบายการเงิน เฟด สำหรับปีหน้า (ลุ้นตลาดตีความถ้อยแถลงฯประธานเฟด โอกาสสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2019 เหลือ 2 ครั้ง จาก 3 ครั้ง)
(*/+) ธปท. คาดว่า จะเลิกใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย ในเวลาที่เหมาะสม / ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ในปลายปีนี้ อาจจะเกิดขึ้นจริง ซึ่งถ้าจริงจะสร้างความประหลาดใจเชิงบวกต่อตลาด คาดกลุ่มธนาคาร จะกลับมา Outperform (แนะรอดูเงินเฟอไทย และรายงานเศรษฐกิจสิ้นเดือนนี้ของ แบงก์ชาติ เพื่อยืนยันแนวโน้มดอกเบี้ย)
หุ้นแนะนำ
CPN กระแสข่าว ซื้อ GLAND: ความเห็น คาดถ้าซื้อตามราคาที่เป็นข่าว 3.5 บ. (ไม่รวมหนี้) CPN จะใช้เงินสดในมือโดย ไม่ต้องเพิ่มทุน ซื้อได้สบายในวงเงิน 2.28 หมื่นล้านบาท และ ห้างเซ็นทรัลพระราม 9 จะกลายทรัพย์สิน freehold ทันที จากเดิมเป็น leasehold (สัญญาหมดปี 2040).และจะ เพิ่ม Upside สำนักงานให้เช่าจาก GLAND เข้ามาในพอร์ต และมีโอกาสทำกำไรจากการขายเข้า กอง CPNREIT ได้อีก เพิ่มมูลค่าให้ CPN
SGP ราคาก๊าซส่งมองเดือน กย.ในตลาดโลกตอนนี้อยู่ที่ US$572 (เมื่อเดือน มิย.สัญญานี้ราคายืนอยู่แค่ US$443) เราคาดกำไร 3Q18 จะส่งมอบได้ตามเป้าหมาย ขณะที่ Upside จะมาจาก ราคาก๊าซในจีนที่สูงขึ้น หลังจาก ปิโตรไช่น่า หยุดนำเข้าก๊าซจากสหรัฐฯสำหรับครึ่งหลังของปีนี้ และห้นมากว้านซื้อก๊าซจากในภูมิภาคนี้แทน
รายงานวันนี้
PYLON : Double Upgrade
เรา Double Upgrade คำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ (จากที่เราแนะขายไปตั้งแต่เดือน พ.ย.-2017) เรามองว่าปัจจัยหนุนราคาหุ้นจะมาจาก . 1) ผลประกอบการที่จะเร่งตัวขึ้น แบบ V-Shape 2 ไตรมาสติด ในช่วง 2H18 จากการส่งมอบงานตามแผนมูลค่าราว 1 พันล้านบาท 2) คาด Consensus จะปรับประมาณการกำไรขึ้นตามเรา 3) การได้รับงานเอกชนขนาดใหญ่เพิ่ม คาดจะเห็นการ Award งานภาคเอกชนมูลค่า 300-400 ล้านบาท ถึง 2 งาน ภายในสิ้นปีนี้ ราคาเป้าหมาย 8.60 บาท
BDMS : Sell into strength
เรามองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเข้าลงทุนอีกครั้งจาก 1) Valuation ที่ค่อนข้างแพง เทรดที่ PER 43.2 เท่า (+1.7x SD เหนือค่าเฉลี่ย 2006-2017) และแพงกว่าค่าเฉลี่ย global Healthcare ที่ 37.9 เท่า, 2) คาดกำไรในช่วง 2H18 เติบโตน้อยกว่าในช่วง 1H18 และ 3) คาดการขยายธุรกิจจะกดดันอัตรากำไรในระยะสั้นเหมือนในอดีต เรายังคงคำแนะนำ ถือ
Automotive: FTI ups 2018 production forecast
เรายังคง Bullish กลุ่มยานยนต์ ตลอดช่วงปีนี้ โดย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รายงานตัวเลขการผลิตรถยนต์ในเดือน ก.ค. เติบโตขึ้น 15%YoY พร้อมทั้งปรับคาดการณ์ตัวเลขการผลิตทั้งปีขึ้นเป็น 2.08 ล้านคัน สำหรับบริษัทในกลุ่มฯ เราคาดกำไร 3Q-4Q18 จะเติบโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เราเลือก SAT และ STANLY เป็น top pick
Thailand's 2Q18 GDP : Beating market expectations with muchimproved consumption
ตัวเลขการเติบโตของ GDP 2Q18 ออกมาที่ 4.6% YoY ดีกว่าที่ตลาดคาด หนุนโดยการเติบโตของการส่งออก และการฟื้นตัวของภาคการบริโภค จากตัวเลขการเติบโตของ GDP ใน 1H18 ที่ออกมา สำหรับ 2H18 หากตัวเลขการเติบโตออกมาเพียง 4.3% YoY ก็จะถึงเป้าหมายของเราที่ 4.5% สำหรับทั้งปี อย่างไรก็ตามเราคาดการเติบโตใน 3Q18 จะอ่อนแอที่สุด จากสถานการณ์น้ำท่วมที่กระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร และกดดันการบริโภคในพื้นที่ประสบภัย อย่างไรก็ตามการเติบโตคาดจะกลับมาใน 4Q18
Quick take
KBANK : New Bt8bn investment in KVsion
KBANK จัดตั้ง KASIKORN VISION COMPANY LIMITED หรือ KVision โดยใช้เงินลงทุนมากกว่า 8 พันล้านบาท เพื่อเพิ่มความสามารถของเทคโนโลยีดิจิทัล และทำให้ทรัพยากรที่มีอยู่แข็งแกร่งขึ้น KVision เป็นบริษัทในเครือ KASIKORNBANK FINANCIAL CONGLOMERATE บริษัทใหม่นี้จะเป็น community สำหรับพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เรามองว่าบริษัทนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตให้กับ KBANK โดยมีกลยุทย์ในการขยายธุรกิจไปยังตลาด AEC+3 ทั้งนี้เงินลงทุนก้อนใหญ่นี้จะยังไม่สร้างรายได้ให้กับ KBANK ในช่วงแรก อีกทั้งเราคาดบริษัทใหม่นี้อาจขาดทุนในปีแรก ดังนั้นเรายังคงประมาณการกำไรปี 2018-19 เท่าเดิม และคงคำแนะนำ ถือ
GPSC : Key takeaways from analyst meeting
เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ ข้อมูลจากที่ประชุมออกมาเป็นกลาง เนื่องจาก GPSC มุ่งเน้นที่โครงการใหม่ที่กำลังลงทุนและดีล M&A ที่เป็นไปตามแผน จึงไม่น่าจะมีการลงทุนใหม่ๆเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ สำหรับ Energy Recovery Unit ของในโครงการ Clean Fuel Project ของ TOP นั้น GPSC มั่นใจว่าตนเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีศักยภาพในการเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดี ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการทำ feasibility study แม้มีอัพไซด์ต่อกำไรระยะยาวของ GPSC จากโครงการ synergy และ ERU อาจต้องใช้เวลากว่าโครงการเหล่านี้จะออกดอกและผล ดังนั้นเรายังไม่เห็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น คงคำแนะนำ ถือ
Flow Tracker : ต่างชาติขายหุ้นไทยหลังจากที่ซื้อต่อเนื่องมาสามสัปดาห์
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 239 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับจากการซื้อสุทธิ 222 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราดู พบว่ากระแสเงินจากต่างชาติรวมเป็นยอดขายสุทธิ 1,059 ล้านเหรียญ กดดันจากความกังวลด้านวิกฤติค่าเงินของตุรกี ดัชนี Volume Flow ของตลาดหุ้นไทยส่งสัญญาณถึงแรงขายในกลุ่มค้าปลีกในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนี Volume Flow ดังกล่าวของกลุ่มธนาคารได้แตะระดับ overbought แล้ว
Quantitative Strategy : ตลาดแกว่งตัวในกรอบ
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่ำสุดถึง 3.3% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนกรกฎาคม สำหรับมุมมองในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า เราคาดว่าอัพไซด์ของตลาดหุ้นไทยจะจำกัดอยู่ที่ระดับประมาณ 1750 จุด เนื่องจาก 1) ความผันผวนของตลาดเพิ่มสูงขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาและมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า 2) ดัชนี Volume Flow ปรับตัวขึ้นจนเข้าใกล้ระดับ Neutral 3) ดัชนีชี้วัดโมเมนตัมระยะสั้น (Short-term Momentum Strength Index) ของดัชนี SET ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามยังมีดัชนีที่ยังหนุนตลาดอยู่ ได้แก่ 1) ดัชนี Bull2Bear ระยะกลางยังคงฟื้นตัวจากกรอบล่าง 2) บารอมิเตอร์วัดความเสี่ยง (Risk Barometer) ฟื้นตัวจากระดับกรอบล่าง 3) ดัชนีชี้วัดความต้องการรับความเสี่ยง (Risk Demand Index) ปรับตัวขึ้นกลับเข้าสู่โซนมองตลาดในแง่ดี (Optimistic) ดังนั้นหากตลาดปรับตัวลง เราคาดว่าแนวรับของดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 1630 จุด เราคาดว่าตลาดจะแกว่งตัวในกรอบ 1630-1750 จุดในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า
หุ้นมีข่าว
(*/+) สภาพัฒน์รายงาน GDP ไทย 2Q18 ขยายตัว 4.6% ดีกว่าตลาดคาดที่ 4.4% y-y พร้อมส่งสัญญาณสิ้นสุดแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำ
(+) บจ.จัดประชุมเพื่อรีวิว งบ 2Q18 และ ให้มุมมองทิศทาง อุตสาหกรรม และแนวโน้มรายได้ ในช่วงที่เหลือของปี
ประชุมนักวิเคราะห์ / Opportunity day
จันทร์ 20: STA TVO BDMS GPSC / SSP TASCO CPN PYLON PLAT
อังคาร 21: TTA M CHG CK / PF ILINK KTC PTG WHAUP AIMIRT CENTEL
พุธ 22: BGRIM TOA / PTT PTTEP PTTGC TOP GPSC GGC MALEE
พฤ 23: BCH EGCO GFPT / PT RICHY FVC TTA SVI THRE
ศุกร์ 24: THAI BJC RATCH / IRPC BGRIM ASP NVD LALIN
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO12729