สถานการณ์ตลาดหุ้นโลก ยังต้องรอผลการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21-22 ส.ค. หากส่งสัญญาณในเชิงบวก ก็น่าจะหนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวขึ้น จากรูปด้านซ้าย เราแสดงดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ในรอบ 1 ปี พบว่าตอนนี้ดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ ดิ่งลงจากจุดสูงสุดลงมาต่ำสุดที่ -18% หากดิ่งลงมากกว่า -20% ก็จะเข้าสู่ตลาดหมี จากรูปตอนนี้ดัชนี MSCI EM ลงมาใกล้เคียงจุดต่ำสุดของปีที่ 522จุดแล้วเด้ง ดังนั้นแนวโน้มดัชนี MSCI EM จะเป็นอย่างไร คงขึ้นอยู่กับ การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หากออกมาในเชิงบวกดัชนีMSCI EM น่าจะดีดตัวขึ้นต่อ แต่หากออกมาในเชิงตรงข้าม มีแนวโน้มสูงที่ดัชนี MSCI EM จะถูกกดดันให้ลงต่อ

  การดิ่งลงของดัชนี MSCI EM ยังขึ้นอยู่กับค่าเงิน Lira ของตุรกีและเงินหยวนของจีน พบว่าค่าเงิน Lira และ Yuan เทียบดอลลาร์ถูกขายออก จนค่าเงินอ่อนตัวลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา หากสถานการณ์ในตุรกีคลายตัวลง แล้วส่งผลให้ค่าเงินแข็งขึ้น อย่างน้อยก็น่าจะบรรเทาความกังวลต่อค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนสถานการณ์ในตุรกี ยังพร้อมที่จะผันผวนได้ทุกเมื่อ หลัง S&P และ Moody ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงและทางสหรัฐยังกดดันต่อเนื่อง

  ทิศทางดัชนี SET ในสัปดาห์นี้จะเป็นอย่างไร คงอิงกับผลการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เป็นหลัก แล้วหลังจากนั้นต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐหลังวันที่ 22 ส.ค. เพราะหลังจากนี้ หากดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นต่อไปสร้างสถิติ ก็หมายความว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะขึ้นยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ ลบสถิติการขึ้นนานที่สุดในช่วงปี 1990-2000 หากเกิดสัญญาณในเชิงบวกกับตลาดในอาทิตย์นี้ ดัชนี SETยังมีสิทธิขึ้นไปที่กรอบ 1710-1720 จุดและดีมากๆ ที่ 1730+/- จุด แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มที่จะขึ้นทะลุ 1750+/- จุดในช่วงนี้ น่าจะยังมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก เนื่องจากในเดือน ก.ย. น่าจะเป็นเดือนที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง ทั้งผลของการตั้งกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐกับจีน แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยและแรงขายทำกำไรหลังตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นยาวนานที่สุด

  หากดัชนี SET ในอาทิตย์นี้สามารถขึ้นมาที่ 1720+/- จุดได้ท่ามกลางราคาน้ำมันเบรนท์ที่ 70+/- ดอลลาร์ต่อบารเรล์ เราแนะนำ ให้ขายทำกำไรเพราะจะเริ่มไม่มีหุ้นให้เล่น แต่หากดัชนีไปไม่ไหวเรามองแนวโน้มที่ดัชนี SET จะลงมาเทรดกันที่กรอบ 1660-1670 จุด จุดตัดสินให้ดูว่าดัชนีSET ในรอบนี้จะขึ้นยืนเหนือ 1700 จุดได้หรือไม่ หากยืนได้มีแนวโน้มไปที่ 1710-1720 จุด แต่หากยืนไม่ได้ ก็มีแนวโน้มลงไปเทรดที่กรอบ1660-1670 จุด สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังพอเล่นได้ คือ กลุ่มค้าปลีก เพราะสัญญาณการฟื้นตัวอ่อนแอที่สุด คือเพิ่งดีดตัวขึ้นจากค่า –2SD (ดูรูปด้านขวา) ขณะที่ตัวเลขการจ่ายใช้การบริโภคภาคเอกชน Q2/18 โต 4.5% (YoY) ขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 ปี ส่วนแนวโน้มกลุ่มที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน คือ กลุ่มพลังงานหลัก หลังพวก Hedge fund ได้มีการลด Position (Brent) ในการ Net Long ลงต่ำสุดในรอบ 1 ปีหลังมองแนวโน้มการใช้น้ำมันจะชะลอตัวลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

  วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET น่าจะขึ้นต่อ แต่ยังไปได้ไม่ไกล จากแรงขายทำกำไร ปัจจัยหนุนยังคงเป็นทิศทางดัชนีในต่างประเทศ โดยมองแนวต้านที่ 1707-1711 จุดและแนวรับที่ 1693-1690 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CENTEL CPALL ROBINS TOP