- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 17 August 2018 22:57
- Hits: 4862
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Laggard Play//Accumulate on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index เปิดตลาดติดลบลงไปทดสอบบริเวณ 1,665 จุดโดยยังคงถูกดดันจากปัญหาในตุรกี อย่างไรก็ตามดัชนีสามารถรีบาวด์และพลิกมาปิดบวกได้ 4.67 จุด ณ สิ้นวัน โดยแรงซื้อส่วนใหญ่มาจากสถาบันในประเทศกว่า 1.5 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องอีก 3.1 พันลบ.สอดคล้องกับกระแสเงินทุนที่ไหลออกจากภูมิภาคในช่วงนี้
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways Up จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายมากขึ้นสหรัฐฯ-จีนเตรียมที่จะเจรจาทางการค้ารอบใหม่ภายในเดือนนี้ อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามสถานการณ์ค่าเงินของตุรกี ขณะที่ภาพรวมผลประกอบการ 2Q18 และโทนการประชุมนักวิเคราะห์ของบริษัทจดทะเบียนต่างๆยังไม่เห็น Surprise ในเชิงบวกอย่างมีนัยยะ จึงคาดว่าการปรับขึ้นของตลาดจะยังไม่กว้างนักในระยะนี้
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่ยัง Laggard //ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานคืนในช่วงตลาดพักตัว
หุ้นเด่นเดือนส.ค. : BJC, BKD, INTUCH, RS, SC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$315ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$179ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$93ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไต้หวัน US$26ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลังมีข่าวผู้แทนรัฐบาลจีนเตรียมเยือนสหรัฐเพื่อเจรจาทางการค้า
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SYNEX <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 20 บาท
ราคาหุ้นตอบรับความผิดหวังของงบ 2Q18 มากเกินไป เพราะต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมดคือ one time และด้วยฐานปีก่อนที่ต่ำ กอปรกับ การเป็นตัวแทนขาย Apple ทั้งกลุ่ม จึงคาดว่ากำไร 2H18 จะโตสูงมาก Y-Y เรายังคาดกำไรทั้งปี 750 ลบ. +20% Y-Y
PE2018-19 แค่ 10-12 เท่า และราคาหุ้นต่ำกว่าราคาเฉลี่ย 10 วันมากถึง 15% ซึ่งเป็นระดับที่มักมีแรงซื้อ Cover Short อีกทั้งยังอยู่ในระดับที่เหมาะกับการซื้อเพื่อทำ Pair Trade เมื่อเทียบกับ COM7 และ SIS ด้วย
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) จีนกับสหรัฐฯจะเจรจาร่วมกันอีกรอบ โดยคาดเกิดขึ้นปลายเดือนนี้ แต่ยังไม่แน่ว่าจะทัน 23 ส.ค. 18 ที่จะเริ่มบังคับใช้กำแพงภาษีรอบ 2 กับสินค้าจีนมูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯหรือไม่ แม้ว่าทุกครั้งที่เจรจาจะไม่มีข้อสรุป โดยครั้งล่าสุดคือช่วงต้นมิ.ย. แต่ก็น่าจะช่วยให้บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงช่วงนี้ผ่อนคลายลงระยะสั้นได้
(0) กลุ่มสื่อสารฯ จะประมูลคลื่น 1800 MHz ในวันอาทิตย์ที่ 19 ส.ค. นี้ โดยเราคาด ADVANC จะประมูลเพียง 1 ใบอนุญาต (5 MHz) ส่วน DTAC คาดประมูล 1-2 ใบอนุญาต (5-10 MHz) โดยราคาคาดว่าจะจบบริเวณราคาตั้งต้น 12,486 ลบ.ต่อใบอนุญาต เนื่องจากปริมาณใบอนุญาตที่ออกประมูลมีถึง 9 ใบอนุญาต (รวม 45 MHz) ซึ่งมากกว่าความต้องการของ Operator เรายังคงคำแนะนำซื้อ ทั้ง ADVANC (ราคาเป้าหมาย 220 บาท) และ DTAC (ราคาเป้าหมาย 52 บาท)
(+) SAWAD การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ผบห.กล่าวว่าบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการตั้งสำรองฯของกลุ่ม จากเดิม “ไม่หักหลักประกัน” เป็น “หักหลักประกัน” ซึ่งจะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายสำรองฯของบริษัทจะ “ลดลง” ตั้งแต่ 3Q18 เราปรับลดประมาณการสำรองฯลง 15% จากเดิม และปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2018 ขึ้น 3.6% เป็น 2,496 ลบ. (-6.4% Y-Y) เรามองเป็นกลางเพราะถึงแม้นโยบายสำรองฯใหม่จะกระตุ้นกำไรสุทธิได้ แต่บริษัทอาจเผชิญความเสี่ยงที่ผันผวนตามเศรษฐกิจในระดับสูงขึ้น ซึ่งผลจากการปรับประมาณการ ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 41.40 บาท (เดิม 40 บาท) คงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร
(0) ROBINS บริษัทยังเน้นปรับ Product Mix โดยการเพิ่มสัดส่วน House Brand เป็น 12% จาก 11.3% ในปี 2017 และตั้งเป้าเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นอีก 0.2-0.3% นอกเหนือจากการเพิ่มสาขาใหม่ปีละ 2-3 แห่ง และตั้งเป้ายอด Online เป็น 3% ของรายได้รวม จากตอนนี้ที่ไม่ถึง 1% ส่วนแนวโน้มกำไร 3Q18 จะอ่อนลงเพราะฤดูกาล ก่อนจะกลับมาโตใน 4Q18 ที่เป็น High Season และมีเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง คงคาดกำไรทั้งปี 3,112 ลบ. +14% Y-Y แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 78 บาท
(0) RS คาดกำไรปกติผ่านจุดต่ำสุดใน 2Q18 โดยแนวโน้มกำไรปกติจะดีขึ้นใน 2H18 จากยอดขายสินค้ากลุ่ม MPC ฟื้นตัวหลังจากได้รับผลกระทบจากการปราบสินค้าเถื่อนและการคุมโฆษณาในไตรมาสก่อน และคาดอัตราใช้เวลาโฆษณาช่อง 8 ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2018 ลง 22% เหลือ 504 และปี 2019 ลง 17% เหลือ 674 ลบ. ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2018 ปรับลงเป็น 20 บาท จากเดิม 23 บาท คงคำแนะนำซื้อ
(0) JKN แนวโน้มกำไร 3Q18 ไม่น่าตื่นเต้น โดยคาดว่าจะโตเพียงเล็กน้อย Q-Q เพราะมีค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มจากงาน showcase 10 ลบ. และคาดว่าจะอ่อนตัวลง Y-Y จากฐานที่สูงในปีก่อน ขณะที่ 4Q18 คาดกลับมาโต Y-Y จากฐานที่ต่ำ ภาพรวมทั้งปียังคาดกำไรโตสูง 32% Y-Y อยู่ที่ 247 ลบ. ไม่รวมรายได้จากการขาย content ในต่างประเทศให้ช่อง 3 ซึ่งขายไปได้แล้วในประเทศฟิลิปปินส์ประมาณ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (จากคาดรวม 300 ล้านบาท ในช่วง 1 ปีถึง 1H19 JKN คาดส่วนแบ่งรายได้ 30%) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17 ส.ค.- สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
20 ส.ค.- ไทย: 2Q18 GDP
21 ส.ค.- ไทย: ดุลการค้า (ก.ค.)
22 ส.ค.- ตลาดหุ้นหลายแห่งปิดทำการเนื่องในวันฮารีรายอ เช่น สิงคโปร์ม มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, อินเดีย
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นแรง หลังมีข่าวว่าทางการจีนได้ส่งตัวแทนไปที่สหรัฐเพื่อหาทางยุติข้อพิพาทสงครามทางการค้า รวมไปถึงผลประกอบการของ Walmart ที่ออกมาดีกว่าคาด
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังค่าเงินตุรกีเริ่มชะลอการอ่อนค่าลง และตลาดยังคลายความกังวลในประเด็นสงครามทางการค้า
(+) ตลาดเอเชียฟื้นตัวขึ้นจากการคลายกังวลเรื่องสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.10-33.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.45 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 65.46 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตลาดคลายกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมไปถึงดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลง
(-) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ลดลง 0.08 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 7.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 1.00 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1184.00 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO12585