- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 10 August 2018 21:08
- Hits: 1868
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มธนาคาร นำโดย SCB, KBANK, BBL และกลุ่มอสังหาอย่าง LH, QH, PSH กลุ่มการเงินอย่าง MTC, SAWAD และหุ้นSMID Cap อย่าง VGI, III ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,722.4 จุด (+0.8 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.7 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.3 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 9 ติดต่อกันที่ 740 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันซื้อ 930 ล้านบาท ) แต่กลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 2,925 สัญญา
Investment theme
คงกรอบ SET บริเวณ 1,720+/- แนะซื้อเมื่ออ่อนตัว เรามีมุมมองเชิงบวการปรับตัวขึ้นของ SET รอบนี้ โดยการปรับขึ้นของ SET รอบนี้สนับสนุนจากการทยอยซื้อสะสมของนักลงทุนต่างประเทศ (8 วันทำการ ยอดซื้อสะสม 1.2 หมื่นล้านบาท) และเป็นการซื้อในกลุ่มธนาคารที่มี Valuation ไม่แพง PER ที่ 12x , PBV ที่ 1.17x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ทำให้มี Downside จำกัด ประกอบกับเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการลงทุนและการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ เป็นบวกต่อการเติบโตของสินเชื่อ โดยการปรับขึ้นของ SET รอบนี้ดูดีทั้งในแง่ผู้ซื้ออย่างนักลงทุนต่างชาติ สลับแรงขายทำกำไรบางส่วนจากนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ซื้อสะสมมามากกว่าแสนล้านบาท ในขณะที่กลุ่มที่ปรับตัวขึ้นไม่กระจุกตัวเหมือนช่วงต้นปี โดยมีแรงซื้อสลับใน 3 กลุ่มหลักพร้อมๆ กัน อย่าง กลุ่มพลังงาน, ธนาคาร และ ICT สะท้อนการปรับขึ้นของตลาดอย่างยั่งยืนในระยะกลาง อย่างไรก็ตามในช่วงปลายเดือนเราประเมินว่าตลาดหุ้นยังมีความเสี่ยงในส่วนของการเพิ่มระดับความรุนแรงของวงเงินการกีดกัดสินค้านำเข้าจากสหรัฐ-จีน ที่คิดเป็นวงเงินสูงกว่า 2.6 แสนล้านเหรียญ ส่งผลให้เรามองเป็นเพียงการเก็งกำไร 60% และถือเงินสด 40%
Investment Theme: คงมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในช่วงต้นเดือนสิงหาคม โดยมองกรอบ SET บริเวณ 1,720 จุด +/- แนะลงทุนกลุ่ม Domestic อย่าง TPIPP, BEM กลุ่มก่อสร้าง STEC, CK กลุ่มธนาคาร SCB, BBL กลุ่มค้าปลีก BJC
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ก.คลังรายงานหนี้สาธารณะคงค้างที่ 40.67% ของ GDP / จีนรายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ค.มากกว่าคาดที่ 2.1%YoY / ฟิลิปปินส์ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% เป็น 4.0% / Dollar กลับมาแข็งค่าอีกครั้งที่ 95.6
Stock pick : III
III (non-rated) : กรอบเก็งกำไร 6.00-6.20 บาท/หุ้น
2Q61 กำไร +38 ลบ. +48% QoQ -11% YoY เป็นการสะท้อนว่า จุดต่ำสุดได้ผ่านมาแล้วใน 4Q60 ที่ +20 ลบ. ก่อนไต่ขึ้นเป็น +26 และ +38 ลบ. ตามลำดับ ซึ่ง “ดีกว่าคาด” ของ ผบห. และ ตลาด
แนวโน้ม 2H61 เด่น เพราะ (1) เข้าฤดูขนส่ง (2) อัตรากำไรขั้นต้นคาดกลับไประดับ 20% จาก 17% ด้วยต้นทุนต่อหน่วยลดลงจากการใช้ IT S/W (3) ค่าเงินบาทอ่อนค่า -4% เป็น 33.2 บาท/ เหรียญ หนุนธุรกิจขนส่งทางอากาศ สัดส่วน 72% ของรายได้รวม (4) ขนส่งทางทะเล ยังไม่พบปัญหา trade war, volume ใน Intra Asia โตดีจากพาร์ทเนอร์ท่าเรือจีน Rizhao และบริษัทร่วม (5) ลุ้น บจก.ไปรษณีย์ไทย กลับมาใช้บริการ 4Q61 หลังหยุดไปเมื่อ ก.ย. 60 หนุนรายได้ปีหน้าอีก 10% จากฐานปี 61
สมมติฐานกำไร 3Q-4Q ไตรมาสละประมาณ 40-45 ลบ. จะผลักดัน EPS61 ที่ 0.25 บาท/หุ้น อิง PER 25x (Discount 40%) ได้ราคาประมาณ 6.20 บาท (Upside 17%)
Trading idea – เก็งกำไร CHG ภายหลังผลประกอบการสูงกว่าตลาดคาด 25% มองว่าตลาดมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น
Technical View
แกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1707-1750 อ่อนตัวยังน่าสะสม : แรงซื้อหลักในกลุ่มธนาคารและเช่าซื้อ ทำให้ดัชนีแกว่ง Sideway Up ตลอดทั้งวัน แม้ในช่วงท้ายจะมีแรงขาย แต่ยังคงปิดยืนเหนือ 1722 ทำให้ยังคาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อในลักษณะ V-Shape มองแนวต้านถัดไปที่ 1735 และ 1750 จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันมองว่ายังเป็นโอกาสสะสมหุ้นตามแนวรับ หรือหากดัชนี Break 1722 ได้ มองเป็นโอกาส Follow Buy
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : หากดัชนียืนเหนือ 1722 ได้ แนะนำ Let Profit Run และพิจารณาแรงขายที่แนวต้านถัดๆไป แต่หากหลุด1707 แนะนำ Lock Profit รอบนี้ 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุด 1715 มองเป็นโอกาสสะสมเพื่อ Trade ในกรอบ 1717-1735
แนวรับ : 1707, 1717 แนวต้าน : 1735, 1750
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: 10 ส.ค. สหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ
ปัจจัยในประเทศ: : สัปดาห์แห่งการรายงานผลประกอบการ / จับตาระดับน้ำบางเขื่อนในประเทศ เริ่มต้องเฝ้าระวัง
หุ้นเทคนิค:
SCB (B 144.00-146.00, Tp 150.00//155.00, Cut 143.00)
SAWAD (B 37.00, Tp 39.00, Cut 36.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO12351
