- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 August 2018 15:56
- Hits: 4886
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings and Laggard Play//Short-term Sell into Strength
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index พักฐานตามคาดหลังจากปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนก่อนหน้า ระหว่างวันมีจังหวะปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1,700 จุดก่อนที่จะรีบาวด์ขึ้นมาได้บ้างและปิดลบแคบลงเหลือ 13.73 จุด ณ สิ้นวัน โดยแรงกดดันหลักมาจากประเด็นสงครามการค้า สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิหนาแน่น 3.4 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิอีกเล็กน้อย (แต่เริ่มพลิกมา Net Short ใน Index Futures สูงถึง 9.6 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่าจะ Rebound ระยะสั้นหลังจากปรับลงค่อนข้างแรงวานนี้ โดยกลุ่มพลังงานคาดกลับมาหนุนตลาดอีกครั้งจากราคาน้ำมันที่เริ่มพลิกมาบวก อย่างไรก็ตามเรายังมองกรอบการบวกจำกัดและมองตลาดอยู่ในช่วงแกว่ง Sideways พักฐาน โดยกระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มชะลอการไหลเข้าจากค่าเงินบาทที่พลิกมาอ่อนค่าอีกครั้ง และยังมีประเด็นสงครามการค้าที่ยังกดดันและต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าหุ้นที่ยัง Laggard และมีกำไร 2Q18 โดดเด่นน่าจะ Outperform ตลาดได้ ส่วนจังหวะดีดขึ้นแรงของดัชนีระยะนี้เรายังมองเป็นจังหวะขายทำกำไรลดพอร์ดระยะสั้นบางส่วนและรอซื้อกลับในช่วงอ่อนตัว
กลยุทธ์ : เก็งกำไรงบ 2Q18 และยัง Laggard //ขายทำกำไรระยะสั้นบางส่วนช่วงตลาดดีดขึ้น
หุ้นเด่นเดือนส.ค. : BJC, BKD, INTUCH, RS, SC
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$322ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$201ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทย US$11ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคจากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ปะทุขึ้นอีก
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> KCE <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 45 บาท
คาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัวใน 2Q18 อยู่ที่ 635 ลบ. (+23% Q-Q) แต่จะอ่อนตัวลง -5.5% Y-Y จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับปีก่อน หลายปัจจัยหนุนกำไรโต Q-Q ทั้งค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าลง, ต้นทุนทองแดงปรับลดลง และแก้ปัญหาคอขวดสายการผลิตเสร็จในเดือน พ.ค.
แนวโน้มกำไรจะโตต่อเนื่องและทำจุดสูงสุดของปีใน 3Q18 เพราะเป็น High Season และคำสั่งซื้อยังแข็งแกร่ง เราคาดกำไรปี 2018 โต 8% Y-Y และจะโตมากขึ้น 13.5% Y-Y ในปี 2019
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ADVANC กำไรปกติ 2Q18 ออกมาต่ำกว่าคาด 5% อยู่ที่ 7,899 ลบ. -3.3% Q-Q, +9.7% Y-Y จากรายได้ไม่รวม IC ที่ต่ำกว่าคาด เพราะ ARPU โตจำกัดจากการนิยมใช้ Fixed-speed Package มากขึ้น ขณะที่ ต้นทุนกลับเร่งตัว ทั้งค่าใช้จ่ายโครงข่ายและ Handset Subsidy ผู้บริหารปรับ Guidance ลง สะท้อนการแข่งขันที่รุนแรงกว่าที่เราคาด แต่เรายังคงคาดกำไรทั้งปีนี้ที่ 3.25 หมื่นลบ. +9% Y-Y ระยะสั้นยังต้องติดตามว่าจะเข้าประมูลคลื่นรอบใหม่วันที่ 8 ส.ค. หรือไม่ ถ้าเข้าประมูล 1800 MHz 1 ใบอนุญาต จะทำให้ราคาเป้าหมายปีนี้ลดลงจาก 220 บาท เหลือ 215 แนะนำรอซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยมีปันผลครึ่งปีที่ 3.78 บาท คิดเป็น Yield 1.7%
(0) TCAP ภาพรวมของตลาดรถยนต์มีแนวโน้มสดใสต่อเนื่องใน 2H18 และคาดว่ายอดขายน่าจะแตะ 1 ล้านคันได้ในปีนี้ ซึ่งเป็นบวกต่อสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในช่วงที่เหลือของปี เราคาดว่าจะเห็นการเติบโตของสินเชื่อทั้งปีที่ราว 6%Y-Y (1H18 ทำได้ราว 2%) อย่างไรก็ตามผลประกอบการ 2H18 จะชะลอตัวจากการกลับมาจ่ายภาษีในอัตราปกติ โดยคาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q18 น่าจะลดลง 16%Q-Q แล 4%Y-Y และมีโอกาสชะลอตัวในไตรมาสสุดท้าย นั่นทำให้การที่ TCAP มีมติซื้อหุ้นคืน จะช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้นได้ คงราคาเหมาะสมปี 2018 ที่ 55 บาท ราคาหุ้นมี Upside น้อยลง จึงปรับลดคำแนะนำเป็นถือ และคาดปันผลครึ่งปีที่ 0.90 บาท คิดเป็น Yield 1.7%
(+) SAT คาดกำไรสุทธิ 2Q18 เพิ่มขึ้น 40% Y-Y อยู่ที่ 188 ลบ. จากอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศที่มีการเติบโตต่อเนื่อง และการขยายตัวของกลุ่มเครื่องจักรการเกษตร รวมถึงการส่งมอบคำสั่งซื้อใหม่ในกลุ่มรถบรรทุก ขณะที่ แนวโน้ม 2H18 ยังคาดเห็นการเติบโตที่ดี Y-Y จากตลาดส่งออกรถยนต์ที่กลับมาโต ซึ่งทั้งปีนี้คาดว่ายังไม่เห็นผลกระทบเชิงลบจากมาตรการกำแพงภาษีสหรัฐฯ อีกทั้ง SAT ยังได้รับคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาเพิ่ม และได้ผลบวกจากการปรับโครงสร้างธุรกิจสปริงไปให้ MSA ด้วย เราคงคาดกำไรสุทธิทั้งปีนี้ที่ 854 ลบ. เพิ่มขึ้น 5% Y-Y แต่ด้วยราคาหุ้นที่ Outperform กลุ่มจนทำให้ Upside เหลือน้อยลงเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 24.10 บาท เราจึงปรับคำแนะนำเป็นถือ
(+) FSMART คาดกำไร 2Q18 ที่ 156 ลบ. +7.4% Q-Q, +8.4% Y-Y เป็นกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องจากระดับต่ำสุดใน 4Q17 แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังฟื้นต่อ แต่ปรับคาดปี 2018-2019 ลงเล็กน้อย 2-5% ได้ราคาเป้าหมายปี 2018 ใหม่ที่ 9.80 บาท จากเดิม 10.50 บาท แม้ประเมินผลกระทบจากการยกเว้นค่าธรรมเนียม Mobile banking และ Banking Agent ต่อสถานะในปัจจุบันค่อนข้างจำกัด แต่คงมุมมองระมัดระวังความไม่แน่นอนในอนาคตจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี่ ขณะที่บริษัทมีแผนบริการใหม่ๆ ผ่านตู้ เช่น ขายซิมโทรศัพท์มือถือ การพัฒนาระบบ KYC ผ่านระบบอิเลคทอนิคส์ ที่คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าใน 4Q18 แต่ยังต้องใช้เวลา คงคำคงคำแนะนำถือ คาดจ่ายงวด 1H18 หุ้นละ 0.25-0.30 บาท คิดเป็น Yield 2.5-3%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
3 ส.ค.- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (ก.ค.), ดุลการค้า (มิ.ย.)
6 ส.ค.- อินโดนีเซีย: 2Q18 GDP ตลาดคาด +5.2% Y-Y
8 ส.ค. - จีน: ดุลการค้า (ก.ค.) ตลาดคาดยอดส่งออก +10% Y-Y
- ฟิลิปปินส์: ดุลการค้า (มิ.ย.)
(+) ตลาด S&P500 และ Nasdaq ต่างปรับตัวขึ้นวานนี้ จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ Apple ทำให้ราคาหุ้นปรับขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ซึ่งมีมูลค่าตลาดกว่า US$1 ล้านล้าน
(-) ตลาดยุโรปปิดในแดนลบ หลัง BOE ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25%
(+) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้น หลังค่าเงินหยวนและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้ แนวโน้มผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง ยังคงช่วยหนุนตลาดในระยะสั้น
(-) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 33.30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 68.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
(-) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ลดลง 0.25 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 6.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 7.50 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1220.10 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO12062