WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

YuanTaบล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ 
          เก็งกำไรหุ้นขนาดกลางต่อผลการดำเนินงาน 2Q61 ที่คาดว่าเด่น
Smart Pick
สะสม KKP
  ราคาปิด 73.75 บาท
  ราคาเหมาะสม 80.00 บาท 
          ราคาหุ้น KKP วานนี้ปิดลบราว 1.3% ตามภาพตลาด แต่ถือเป็นโอกาสเข้าสะสม เพื่อรับเงินปันผล เราคาดเงินปันผลงวด 1H61 เท่ากับ 2 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ราว 2.7% (ต่อครึ่งปี) คาดขึ้นเครื่องหมาย XD ช่วงต้นเดือน ก.ย.
          นอกจากนี้ KKP ยังมี Upside ที่ไม่ได้รวมในประมาณการ คือ ค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจ (IB) จากดีล IPO ทั้งกองทุน Thailand Future Fund, โอสถสภา และ รพ.พระราม 9 ใน 2H61
เก็งกำไร CPF
  ราคาปิด 26.75 บาท
  ราคาเหมาะสม 30.50 บาท
          CPF มี Sentiment เชิงบวกต่อเงินบาทอ่อนค่า วานนี้ Dollar Index แข็งค่า 0.5% ทะลุ 95 จุดอีกครั้ง กดดันค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าสู่บริเวณ 33.3 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ +/-
          ขณะที่ผลประกอบการ 2Q61 คาดทำกำไรปกติ 1.27 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนปกติ 821 ล้านบาทใน 1Q61 หนุนด้วยราคาสุกรในเวียดนาม +37% QoQ และเงินบาทที่อ่อนค่าราว 5.5% QoQ
เก็งกำไร BCH
  ราคาปิด 16.40 บาท
  ราคาเหมาะสม 19.30 บาท
          เราคาดกำไรสุทธิ 2Q61 ราว 228 ล้านบาท เติบโต 6% QoQ, 32%YoY จากฤดูฝนที่เข้ามาเร็วกว่าปกติ, นโยบายปรับขึ้นค่าหัวของลูกค้าประกันสังคมตั้งแต่เดือน ก.ค.2560, ผลการดำเนินงานของ WMC ถึงจุดคุ้มทุน
          ราคาหุ้นค่อนข้าง Laggard จากกลุ่ม ดัชนี SETHELTH เป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนดีสุดใน SET INDEX โดย +12.3% YTD ขณะที่ราคาหุ้น BCH บวกแค่ 1.2% เท่านั้น
เก็งกำไร PSH
  ราคาปิด 21.00 บาท
  แนวต้านทางเทคนิค 22.30 บาท 
          ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัว หลังแกว่งตัวออกข้าง (Sideways) มาตลอด 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ เราคาดว่า จะมีแรงส่งขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 22.30 บาท กำหนดจุดตัดขาดทุนหากราคาหุ้นหลุด 20.50 บาท
          จุดเด่นของ PSH คือ การจ่ายปันผลระดับสูง (Dividend Stock)คาดการณ์เงินปันผลงวด 1H61 ราว 0.56 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ราว 2.7% (ต่อครึ่งปี)
Profit-Taking : N.A.
กลยุทธ์วันนี้
          เม็ดเงินทุนต่างชาติยังคงเลือกสะสมหุ้นหลักในตลาดหุ้นกลุ่ม TIP ต่อเนื่อง คาดว่านักลงทุนกลุ่มนี้ประเมินแล้วว่าภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในเอเชียใต้จำกัด เมื่อเทียบกับเอเชียเหนือที่วานนี้ต่างชาติกลับมาลดน้ำหนักเด่นอีกครั้ง สอดคล้องกับมุมมองของเราและเป็นอีกตัวแปรที่ช่วยจำกัด downside risk ของ SET INDEX นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ฟื้นตัวเด่นอีกครั้ง ทำให้เราประเมินว่าแนวรับ 1,700 จุดจะทำงานได้แข็งแกร่ง คาดกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1700-1720 จุด
          วันนี้จับตาหุ้นหลัก (Big Cap) กลุ่มพลังงาน / ธนาคาร / SCC ที่ปรับตัวลงแรงวานนี้ อาจเกิด Technical Rebound ได้ เพราะปัจจัยพื้นฐานและ Valuation ยังอยู่ในโซนที่ถูก เช่น PTT / KBANK / BBL / KKP เป็นต้น 
          สำหรับผลการดำเนินงาน 2Q61 ของ ADVANC ออกมาใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม ADVANC ที่ปรับเป้าการเติบโตของรายได้บริการในปีนี้ลง รวมถึงลดงบเงินลงทุนที่เป็นเงินสด สะท้อนโอกาสที่ ADVANC จะเข้าร่วมประมูลคลื่นที่จะต้องแสดงเจตจำนงในวันที่ 8 ส.ค.นี้ และประมูลจริงวันที่ 18-19 ส.ค. กลายเป็นปัจจัยที่กดดัน ADVANC (ติดตามบทวิเคราะห์วันนี้) ช่วงสั้นนี้ เชิงกลยุทธ์เราแนะนำให้นักลงทุนหาจังหวะเปลี่ยนหุ้นลงทุนจาก ADVANC ไปยัง TRUE ที่โอกาส 50:50 เข้าร่วมประมูลครั้งนี้
          ปัจจัยสำคัญสัปดาห์น้า เราให้น้ำหนักกับการทยอยประกาศงบการเงิน 2Q61 เป็นสำคัญ ซึ่งหุ้นเด่นที่น่าสนใจต่อการเก็งกำไรได้แก่ IVL / RS / MINT / BCH / PTTGC / BEM/ BANPU เป็นต้น
          กลยุทธ์ช่วงนี้เรายังคงแนะนำ "เก็งกำไรต่อหุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q61 เด่น และ/หรือพักเงินไว้กับหุ้นปันผลที่ให้ยิลสูง" เช่น PSH /KKP / TTW เป็นต้น
HOT Topic
          1. ตลาดหุ้นเอเชียพักฐานวานนี้ ถูกกดดันด้วยปัจจัยใด? มีอะไรน่ากังวลหรือไม่?
          2. วิเคราะห์เชิงลึกผลประกอบการ 2Q61 ของ ADVANC ที่รายงานเมื่อช่วงเย็นวานนี้
          3. บทวิเคราะห์ Preview ผลประกอบการ 2Q61 ของ TFG
          4. นักลงทุนต้องติดตามปัจจัยใดบ้างในสัปดาห์หน้า
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          วานนี้ SET INDEX ปรับฐานลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค จากความกังวลต่อสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน แต่แนวรับที่บริเวณ 1700 จุด ยังทำงานได้ดี ปิดที่ 1708.28 จุด ลดลง 13.73 จุด มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 5.3 หมื่นล้านบาท 
          กระแสเงินทุน : นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 แต่เหลือเพียง 348 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิสะสมราว 5.6 พันล้านบาท แต่มีสถานะ Short สุทธิ ในตลาด SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 10 วันทำการราว 9.6 พันสัญญา คาดว่าเป็นการล็อคกำไรบางส่วน เนื่องจาก QTD นักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Long สุทธิสะสมคงเหลืออีก 9.4 หมื่นสัญญา ขณะที่สถาบันในประเทศขายสุทธิหนาแน่น 3.4 พันล้านบาท  แต่นักลงทุนกลุ่มสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิ ในตลาด SET50 Index Futures ราว 3.4 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิคงเหลือ 2.1 หมื่นสัญญา
          ตลาดตราสารหนี้ : นักลงทุนต่างชาติ พลิกสถานะมาซื้อสุทธิเล็กน้อยราว 441 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
จีนกล่าวว่า สหรัฐฯพยายามหยุดการเติบโตเศรษฐกิจของคู่แข่ง และพร้อมตอบโต้หากสหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เผยหากอิหร่านตัดสินใจปิดช่องแคบฮอร์มุชจริง จะเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จากระดับ 0.5% สู่ระดับ 0.75%
 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือน ก.ค. 61 ที่ 3.2 ล้านคน +3.6%YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 11.57% เนื่องจากการหดตัวของนักท่องเที่ยวจีนและญี่ปุ่น
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน ก.ค. อยู่ที่ 82.2 จุด สูงสุดในรอบ 62 เดือน
ติดตามการรายงานภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ และการรายงานค่า PMI ของจีน วันนี้
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ติดตามการนำเข้า-ส่งออกจีน เดือนก.ค. วันที่ 8 ส.ค.
ติดตามการประชุมกนง. และการยื่นซองประมูลคลื่น 900MHz/ 1800MHz  วันที่ 8 ก.ค.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อจีนเดือนก.ค. วันที่ 9 ส.ค.
ติดตามการรายงาน GDP ญี่ปุ่น , GDP อังกฤษ และการรายงานเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ เดือนก.ค. วันที่ 10 ส.ค.
ติดตามการรายงานงบการเงิน 2Q61 ตลอดสัปดาห์
 
Strategist Team
          Mayuree Chowvikran     Head of Research  ,  662-009-8050 
          Padon Vannarat     Strategist ,  662-009-8060
          Piyapat Patarapuvadol      Strategist ,  662-009-8062 
          Nutt Treepoonsuk     Strategist  , 662-009-8059
OO12060

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!