- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 August 2018 17:10
- Hits: 1278
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มธนาคารและการเงินอย่าง KBANK, SCB, MTC, SAWAD, KTC และกองทุน BTSGIF, DIF และ TASCO, SQ อย่างไรก็ตามเกิดแรงขายทำกำไรในกลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,701.7 จุด (-0.08 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.9 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่ 1,823 ล้านบาท พร้อมคงสถานะ Long SET50 index future เป็นวันที่ 8 ที่ 5,034 สัญญา (รวม 8 วันสูงกว่า 6.5 หมื่นสัญญา)
Investment theme
กลยุทธ์ลงทุนสิงหาคม : เดือนสิงหาคมเรามองกรอบการลงทุน SET บริเวณ 1,680-1,720 โดยเราประเมินว่าตลาดหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นในช่วงต้นเดือน แนะลงทุนในกลุ่ม Domestic อย่างกลุ่มธนาคาร BBL ( @246.0) กลุ่มก่อสร้าง STEC (@25.0) กลุ่มค้าปลีก BJC (@68.0) และรถไฟฟ้า BEM (@9.0) อย่างไรก็ตามในช่วงปลายเดือนอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน โดยมีปัจจัยกดดันอย่าง 1) การทำประชาพิจารณ์ครั้งใหญ่ของสหรัฐเรื่องการเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงินสูงกว่า 2.0แสนล้านเหรียญในช่วงปลายเดือน ซึ่งเรามองว่าตลาดยังไม่ได้ Price in ประเด็นนี้ 2) การปรับดัชนี MSCI-Emerging ซึ่งประเทศจีน (A-share) จะถูกปรับเพิ่มสัดส่วนการลงทุนขึ้น ในขณะที่ปรับประเทศอื่นๆใน EM รวมถึงประเทศไทยถูกลดน้ำหนักลง และ 3) การปรับขึ้นของอัตราพันธบัตรทั่วโลก นำโดยสหรัฐ, เยอรมัน, ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทย ภายหลังเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ผลักดันให้เงินเฟ้อสูงขึ้นทำให้บางธนาคารกลางเริ่มหันใช้นโยบาย Hawkish มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลกดดัน Earning yield gap หรือส่วนต่างอัตราผลตอบแทนระหว่างตลาดหุ้น-พันธบัตรแคบลง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันการลงทุน ล่าสุดเริ่มเห็นการปรับตัวลงของ Thai-EYG เหลือ 3.68% กลับมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5ปีที่ 3.80%
Investment Theme: ภายหลัง SET สามารถ Break กรอบแนวต้านสำคัญที่ 1,690 จุด เราประเมินกรอบการแกว่งตัวบริเวณ 1,690-1,720 จุด มี Sentiment ที่ดีจากการรายงานผลประกอบการธนาคารที่ดีกว่าคาด สะท้อนมุมมองบวกต่อการลงทุนในกลุ่ม Domestic นำโดย กลุ่มธนาคาร BBL, TISCO กลุ่มค้าปลีก BJC ก่อสร้าง (CK, STEC) พร้อมแนะลงทุนหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q เด่น และมีปันผลระหว่างกาล พร้อมราคาที่ไม่แพงอย่าง PTTGC
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – สศอ.รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมมิ.ย.โต 4.7% (ครึ่งปีแรกเติบโต 3.9%) / Brent ปรับตัวลงเล็กน้อยที่ 73.9 เหรียญ
Stock pick : AP
AP: เก็งกำไร 9.60 บาท/หุ้น
คาดผลประกอบการ 2Q18 เติบโต 81%YoY, +37%QoQ ที่ 1,102 ล้านบาท สนับสนุนจากยอดขายแนวราบที่ทำได้ดี และการเริ่มรับรู้รายได้โครงการ Vittorio และส่วนแบ่งกำไรจาก JV ที่คาดเติบโตสูงกว่า 254%YoY ที่ 389 ล้านบาท พร้อมคาด Margin(%) รวมสูงกว่า 35%
ในขณะที่มองว่าผลประกอบการ 2H18 มีUpside gain เนื่องจากมีคอนโดรอส่งมอบที่มีโอกาสขายได้ดีกว่าคาดในส่วน JV โครงการ Rhythm เอกมัย คงคำแนะนำเก็งกำไรราคาเป้าหมาย 9.60 บาท/หุ้น ด้วย PER ต่ำเพียง 8.3เท่า และ Yield ที่สูงกว่า 4.4%
Trading idea – เก็งกำไร CPF 31.10บาท คาดกำไร 2Q เด่น / เก็งกำไร STEC 25.0 บาท คาดครึ่งปีหลังเด่น / ทยอยสะสมBEM เป้าหมาย 9.0 บาท / ทยอยสะสม IRPC ราคา 7.50 บาท/หุ้น
Technical View
อ่อนตัวที่ EMA200Day ไม่ควรหลุดโซน 1680-1690 : ดัชนีแกว่งตัว Sideway Up จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารและสื่อสาร ทำให้ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1707-1710 (EMA200Day) แต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านโซนดังกล่าวได้ ระยะสั้นมองว่าหากพักตัวไม่หลุดแนวรับ 1680-1690 ยังลุ้นการปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 1710 โดยยังมองว่าระหว่างวันหากอ่อนตัวไม่หลุด 1690 ยังถือเป็นโอกาสทยอยสะสม
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Let Profit Run โดยใช้จุด Lock Profit ที่ 1690 และพิจารณาแรงขายที่ 1707-1710 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวระหว่างวัน หากไม่หลุด 1690 มองเป็นโอกาสสะสม ระยะกลางมองกรอบการ Trading 1690-1720
แนวรับ : 1680, 1690 แนวต้าน : 1710, 1720
ปัจจัยต่างประเทศ: FOMC 31-1ส.ค.
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
ADVANC (B 198.00-200.00, Tp 210.00// 215.00, Cut 196.00)
KTC (B 28.00, Tp 30.00, Cut 27.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO11936