บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 25-07-18

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Wednesday, 25 July 2018 17:34; Hits: 4761

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

กลยุทธ์วันนี้

เก็งกำไรหุ้นขนาดกลางต่อผลการดำเนินงาน 2Q61 ที่คาดว่าเด่น

Smart Pick

เก็งกำไร IVL

ราคาปิด 59.50 บาท

ราคาเหมาะสม 84.00 บาท

เราเชื่อว่าแรงกดดันจากการขายหุ้นแม่ เพื่อนำเงินไปแปลงสภาพ IVL-W2 ลดลงในวันนี้ เพราะพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายในการแจ้งความจำนงใช้สิทธิแปลงสภาพ นักลงทุนที่ต้องการแปลงสภาพวอแรนต์ส่วนใหญ่ลดน้ำหนักไปแล้ววานนี้ เพื่อให้รับเงินได้ทันในการแปลงสภาพ (T+2)

IVL รายงานงบ 2Q61 วันที่ 6 ส.ค. คาดกำไรปกติทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสที่ 7.2 พันล้านบาท +100% YoY และ +37% QoQ เป็นปัจจัยบวกที่รออยู่

เก็งกำไร BCH

ราคาปิด 16.20 บาท

ราคาเหมาะสม 19.30 บาท

เราประเมินว่าหุ้นขนาดกลางที่งบ 2Q61 จะออกมาเด่น มีโอกาส Outperform ตลาด เนื่องจากหุ้น Big Cap เริ่มพักฐาน เพราะจะเข้าสู่วันหยุดยาวตลาดหุ้นไทยในปลายสัปดาห์นี้

เราคาดกำไรปกติ 2Q61 ที่ 228 ล้านบาท +32% YoY และ +6% QoQ จากจำนวนผู้ป่วยเงินสดที่เพิ่มขึ้น หลังฤดูฝนปีนี้มาเร็วกว่าทุกปี และโรงพยาบาล WMC จะพลิกเป็นกำไรรายไตรมาสครั้งแรกตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2557

เก็งกำไร BGRIM

ราคาปิด 24.50 บาท

ราคาเหมาะสม 31.50 บาท

เรามองว่าอาจเกิด Stock Rotation ในกลุ่มโรงไฟฟ้า หลังวานนี้ RATCH ได้รับผลกระทบกรณีเขื่อนดินย่อยโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ทรุดตัว

ขณะที่ BGRIM มีปัจจัยบวกระยะสั้นรออยู่ คือ กำไรปกติ 2Q61 คาดเติบโตสูง YoY ที่ 384 ล้านบาท +73% YoY และ +9% QoQ จากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า ABPR3 เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก และเริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า ABPR4 ในเดือน มิ.ย. ขณะที่ราคาหุ้น -14.8% YTD

เก็งกำไร SYNTEC

ราคาปิด 4.22 บาท

แนวต้านทางเทคนิค 4.50 บาท

สัญญาณทางเทคนิค ราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นทดสอบ 4.50 บาท แนวรับ 4.20 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 4.14 บาท

ขณะที่ SYNTEC ณ ปัจจุบันซื้อขาย PER2561 เพียง 7.8 เท่า และให้ Dividend Yield ดีที่ 4.5% ต่อปี ขณะที่กำไรปกติ 2Q61 แม้คาดลดลง -39% YoY แต่จะเติบโต +10% QoQ เป็น 163 ล้านบาท เป็นสัญญาณบวกว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 1Q61

Profit-Taking : PTT/ PTTEP

กลยุทธ์วันนี้

สัญญาณเชิงบวกต่อตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทยคือ เงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าตลอด 5 วันทำการ โดยซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 และ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 5 เป็นการยืนยันมุมมองของเรา ยิ่งเกิดความเสี่ยงด้านนโยบายของสหรัฐฯ มากขึ้นเท่าไร เงินทุนไหลจะไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยง

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยจะเริ่มลดความร้อนแรงในช่วง 2 วันทำการนี้ ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย เราประเมินว่า Big Cap จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรมากขึ้น และหมุนเข้าหุ้นขนาดกลางที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q61 เด่น ส่งผลให้ SET INDEX วันนี้แกว่ง 1665-1680 จุด

กลยุทธ์การลงทุน หลังเราแนะนำขายทำกำไรไป 2 วันทำการก่อนหน้า เรากลับมาแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" หุ้นขนาดกลางที่ผลการดำเนินงานใน 2Q61 แนวโน้มเด่น YoY และ/หรือ QoQ

บทวิเคราะห์วันนี้ เราปรับน้ำหนักกลุ่มธนาคารขึ้นมาเป็น "มากกว่าตลาด" หลังกำไร 2Q61 ของกลุ่มธนาคาร ดีกว่าคาดถึง 10% สะท้อนผลกระทบจากฟรีค่าธรรมเนียมไม่ได้มากอย่างที่กังวล และคุณภาพสินทรัพย์ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เลือก KBANK/ BBL/ KKP เป็น Top Picks

วันนี้ ติดตามประกาศงบ SCC เราคาดกำไร 2Q61 ไม่สดใส (-3% QoQ, -9% YoY) ทั้งธุรกิจวัสดุก่อสร้างและปิโตรเคมี ชะลอตัว แต่เรามองว่า Downside ของ SCC จำกัดด้วยเงินปันผล เราคาด 8.50 บาท/หุ้น สำหรับงวด 1H61 คิดเป็น Dividend Yield ราว 1.95% ขณะที่ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นไม่มาก

HOT Topic

1. เราปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารเป็น "มากกว่าตลาด"

2. SCC รายงานงบ 2Q61 วันนี้หลังปิดตลาดรอบเช้า คาดเงินปันผล 1H61 หุ้นละ 8.50 บาท

3. ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 และ Long สุทธิ SET50 Index Futures เป็นวันที่ 5 รอบนี้ต่างชาติกลับมาแล้วหรือยัง?

4. ปรับกลยุทธ์เข้าเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางที่งบ 2Q61 จะออกมาดีก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยวานนี้

วานนี้ SET INDEX ทำจุดสูงสุดระหว่างชั่วโมงที่บริเวณ 1686 จุด ก่อนเกิดแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงิน อาทิ PTT (-1.47%), KBANK (-2.35%) และ KTC (-12.50%) ปิดที่ 1674.22 จุด (-1.53 จุด) นับเป็นการปิดลดลงครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ มูลค่าซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 5.6 หมื่นล้านบาท

กระแสเงินทุน : นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิหลักวันที่ 3 อีกราว 1.3 พันล้านบาท รวม 3 วันทำการ ซื้อสุทธิสะสมราว 3.9 พันล้านบาท และมีสถานะ Long สุทธิในตลาด SET50 Index Futures หนาแน่นเป็นวันที่ 5 อีกราว 5 พันสัญญา รวม 5 วันทำการมีสถานะ Long สุทธิสะสมกว่า 4.6 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Long สุทธิสะสม 7.7 หมื่นสัญญา โดย S50U18 ยังมี Discount จาก SET50 สูงถึง 8.13 จุด แต่ขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 แต่เบาบางเพียง 413 ล้านบาท รวม 5 วันทำการขายสุทธิราว 8.3 พันล้านบาท ขณะที่สถาบันในประเทศขายสุทธิเป็นวันที่ 2 แต่เบาบางเพียง 19 ล้านบาท แต่กลุ่มสถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิในตลาด SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการราว 2.8 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิราว 1.3 หมื่นสัญญา

ปัจจัยสำคัญวันนี้

ประธานาธิบดีสหรัฐฯเผยสหรัฐฯพร้อมที่จะทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับทางอิหร่านฉบับใหม่

IMF ประเมินค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯในปัจจุบัน แข็งค่ามากเกินไป ขณะที่ค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน

API รายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลง 3.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงมากกว่าตลาดคาดที่ 2.3 ล้านบาร์เรล

สหรัฐฯ รายงานดัชนี PMI เบื้องต้น ภาคการผลิตและบริการ เดือนก.ค. อยู่ที่ระดับ 55.9 ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

อียูรายงานดัชนี PMI เบื้องต้น ภาคการผลิตและบริการ เดือนก.ค. อยู่ที่ระดับ 54.3 ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยในลาว เกิดเหตุสันเขื่อนดินย่อยส่วน D ทรุดตัว จากปริมาณน้ำมากเกินกำหนด หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่อง

ครม.สัญจร อนุมัติมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว 3 โครงการ เป็นวงเงินรวม 9.8 หมื่นล้านบาท

ติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างสหภาพยุโรปกับสหรัฐฯ วันที่ 25 ก.ค.

ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 26 ก.ค.

ติดตามการประกาศ GDP ใน 2Q61 (รอบแรก) ของสหรัฐฯ วันที่ 27 ก.ค. ตลาดคาดขยายตัว 4.0%

ติดตามการเจรจาระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยกับสหรัฐฯ กรณีการยกเว้นเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม ระหว่างวันที่ 24-27 ก.ค.