- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 24 July 2018 17:20
- Hits: 1048
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,680 จุด สนับสนุนจากแรงซื้อในกลุ่มธนาคาร BBL, KBANK และกลุ่มโรงกลั่นอย่าง BCP, TOP, SPRC, ESSO แรงกลุ่มปิโตรอย่าง PTTGC, IVL อย่างไรก็ตามกลุ่มพลังงานยังเผชิญกับแรงขายนำโดย PTT, PTTEP, BANPU และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อย่าง KCE, DELTA, HANA ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,675.7 จุด (+4.6 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.9 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 6.2 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยที่ 1,610 ล้านบาท และคงสถานะ Long SET50 index future ที่ 5,299 สัญญา
Investment theme
SET มี Sentiment ดีขึ้น จับตา 1,680/90 เลือกทิศทาง : ภายหลังการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารที่ดีกว่าคาดกว่า 15% ที่ 4.63 หมื่นล้านบาท เติบโต 19%YoY, 2%QoQ นำโดย KTB, KBANK, BBL ในขณะที่คาดแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังเด่น ต่อจากการเติบโตของสินเชื่อ ประเด็นดังกล่าว ถือเป็น Sentiment บวกต่อการลงทุนในประเทศ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าภายหลัง Trump แถลงดอลลาร์แข็งค่าจนเกินไปส่งผลเสียต่อการค้าระหว่างยุโรปและจีน พร้อมระบุไม่เห็นด้วยกับนโยบายการเงินภายใต้การบริหารของนาย Jerome Powell ในการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Policy rate) ของธนาคารกลางสหรัฐ คาดส่วนหนึ่งเกิดจากความกังวลของผลกระทบของสงครามการค้าที่เราประเมินว่า FED ยังไม่ได้รวมผลกระทบดังกล่าว ในระยะสั้นปัจจัยดังกล่าวถือเป็นบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยระหว่างประเทศกดดันอีกครั้งภายหลัง 2 ประธานาธิบดีสหรัฐ-อิหร่าน เบื้องต้นเราประเมินว่าปัจจัยความกดดันอาจส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน แต่ในยะยะกลางจะนำมาซึ่ง Geo-political risk เช่นกัน
Investment Theme: สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,650-1,680 จุด มี Sentiment ที่ดีจากการรายงานผลประกอบการธนาคารที่ดีกว่าคาด สะท้อนมุมมองบวกต่อการลงทุนในกลุ่ม Domestic นำโดย กลุ่มธนาคาร BBL, TISCO กลุ่มค้าปลีก BJC ก่อสร้าง (CK, STEC) พร้อมแนะลงทุนหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q เด่น และมีปันผลระหว่างกาล พร้อมราคาที่ไม่แพงอย่าง PTTGC
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – รัฐมนตรีฝรั่งเศสปัดตอบการเจรจาการค้ากับสหรัฐ / BoJ ระบุเตรียมเข้าซื้อพันธบัตรด้วยวงเงินไม่จำกัดในพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ภายหลัง Yield ปรับขึ้นสูงที่สุดในรอบ 7 เดือนที่ 0.08
วันนี้มีบทวิเคราะห์ GOLD, SIRI, WICE, DOD (non-coverage)
Stock pick : GOLD
GOLD : คาดผลประกอบการโต YoY, QoQ ซื้อราคา 13.30 บาท/หุ้น
เรายังคงให้ GOLD เป็น Toppick ของกลุ่มอสังหาฯ โดยคาดรายได้ 3Q18 (รอบบัญชี) เติบโต 9.4%YoY, +7.1%QoQ ที่ 3,814 ล้านบาท คิดเป็น 78% ของประมาณการรายได้ทั้งปี เป็น Upside ต่อประมาณการรายได้ทั้งปี และด้วย Margin(%) ที่สูงกว่า 33.4% ส่งผลให้คาดกำไรที่ 498 ล้านบาท
GOLD ยังอยู่ในอุตสาหกรรมอสังหาฯ แนวราบ ซึ่งยังคงเป็น Trend ขาขึ้นใน 1-3 ปีนี้ ส่งผลให้คาดกำไรจะทำระดับสูงสุดต่อเนื่องอีก 1-3 ปี สนับสนุนจากทั้ง Recurring income และ Asset value โดยปัจจุบันซื้อขาย PER ที่ 13x พร้อมปันผล 3.7%
Trading idea – คงคำแนะนำซื้อ PTTGC 116.0 บาท / กลุ่มธนาคารรายงานงบดีกว่าคาดแนะซื้อ BBL 246.0 บาท / เก็งกำไร STEC 25.0 บาท คาดครึ่งปีหลังเด่น / ทยอยสะสม BCP เราประเมิน Downside จำกัด / คงแนะนำขายกลุ่มท่องเที่ยว CENTEL, AOT, AAV
Technical View
ปิด Gap แล้วอ่อนตัว หากไม่หลุด 1660 ยังลุ้นการแกว่งขึ้น: แรงซื้อต่อเนื่องจากหุ้นกลุ่ม Big Cap. ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องปิด Gap ที่ 1680 แล้วอ่อนตัวระหว่างวัน ระยะสั้นหากไม่หลุด 1660 ยังคาดหวังการ Rebound ต่อเนื่องเพื่อปิดยืนเหนือ Gap ที่ 1680 ซึ่งหากปิดยืนได้มองแนวต้านระยะกลางถัดไปที่โซน 1700-1710 (EMA200วัน) ฉะนั้นจังหวะอ่อนตัวระหว่างวันมองว่ายังน่าสะสมตามแนวรับ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Let Profit Run โดยใช้จุด Lock Profit ที่ 1660 และพิจารณาแรงขายที่ Gap 1680 2) ไม่มีหุ้น : จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันมองเป็นโอกาสสะสมหุ้นตามแนวรับ มองกรอบการ Trading 1660-1680
แนวรับ : 1650, 1660 แนวต้าน : 1680, 1700
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: สหรัฐ-จีนเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าอีก 1.6 หมื่นล้านเหรียญปลายเดือนนี้ / 26 ก.ค. การประชุม ECB / 27 ก.ค. สหรัฐรายงาน GDP ไตรมาส2
ปัจจัยในประเทศ: SCC, PTTEP รายงานผลประกอบการสัปดาห์นี้
หุ้นเทคนิค:
IVL (B 58.00-59.50, Tp 61.00// 63.00, Cut 57.00)
KBANK (B 208.00, Tp 215.00, Cut 205.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO11686