- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 20 July 2018 17:06
- Hits: 1952
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
งบแบงก์ ส่วนใหญ่ดีกว่าคาด
เมื่อวานหุ้นขึ้น ในลักษณะกระจายกลุ่มอุตสาหกรรม นำโดย โรงไฟฟ้า และ โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน GULF BGRIM BCPG EA SPCG จากข่าวเมื่อวาน รมต.พลังงาน ระบุมีแผนเพิ่มสัดส่วน รฟฟ.พลังงานทดแทนเป็น 30% ในแผนใหม่!? (ที่มาไทยโพสต์), หุ้นสินเชื่อ SAWAD MTC KTC, MK กระแสข่าว SPALI พร้อมเพิ่มราคาเทนเดอร์, รับเหมา STEC...ตลาดหุ้นไทยรอบนี้ มีการหมุนกลุ่มเร็วมาก จากก่อนหน้าเล่นเหมือนหมดแรง-หันไปพักเงินในกลุ่ม Defensive แต่พอตลาดเริ่มฟื้น กลายเป็นหุ้น High beta ที่ลงแรงก่อนหน้ากลับเด้งเร็วกว่า และหุ้น Defensive ตลอดจนหุ้นที่ Outperform ก่อนหน้าหยุดชะงักไปในทันที
วันนี้ งบแบงก์ ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด (ดูตารางสรุปด้านในรายงานวันนี้) จะหนุนตลาด : KBANK ดีกว่าคาดถึง 20%, BBL ดีกว่าคาด 8%, SCB ดีกว่าคาด 5% BAY-ตามคาด, TMB ต่ำกว่าคาด 16% ส่วนก่อนหน้านี้ TCAP TISCO ดีกว่าคาด คาดงบที่เหลือเย็นนี้ KKP KTB จะดีขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยปัจจัยหนุนกำไรแบงก์ มาจาก สินเชื่อที่ขยายตัวตามการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และ การฟนตัวของธุรกิจอสังหาฯ, NPL เริ่มเห็นสัญญาณลดลง (โดยเฉพาะ BBL) ทำให้สำรองแบงก์ส่วนใหญ่ลง และ ไตรมาส 3 คาดกำไรแบงก์ยิ่งดีขึ้น อีกเพราะ การเลื่อนใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9
คาดราคาหุ้นแบงก์วันนี้ จะรีบาวด์ นำตลาด สอดคล้องกับมุมมอง กลยุทธ์ ที่ได้เคยไฮไลท์ไปก่อนหน้านี้แล้วว่า Consensus ไล่ปรับงบแบงก์ลงสะท้อนข่าวลบไปเต็มที่แล้ว เราจึงได้เห็นกำไรแบงก์-รอบนี้ดีกว่าคาด
ส่วนกลยุทธ์ในการ ล่าหุ้น ที่ราคากองอยู่ข้างล่าง เชื่อว่ายังใช้ได้ผล ดูได้จากเมื่อวานหุ้นที่ แนะนำไปก่อนหน้า ถือว่า มีเงินเข้ามาไล่ราคาหลายตัว เช่น GULF BGRIM STEC ASAP เป็นต้น เรายังคง เน้นเลือกหุ้น ที่มี Earnings result เป็นปัจจัยเร่งราคาหุ้น และราคาหุ้นลงแรงก่อนหน้านี้
What to watch :
(+/-) จับตาการเจรจาการค้า ระหว่าง สหรัฐ-EU ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ แผนเก็บภาษีรถยนต์ยุโรป / ถ้ามีสัญญาณบวกจากการเจรจาครั้งนี้ เชื่อว่าตลาดหุ้นทั่วโลกพร้อมจะรีบาวด์ เพราะมองว่า กรณี สหรัฐฯ-จีน น่าจะมีการ เจรจาในระดับ ทวิภาคี ตามมา
(+/-) การประชุม ผู้ว่าธนาคารกลาง ของกลุ่ม G20 19-20 ก.ค. และต่อด้วย รมต.คลัง G20 21-22 ก.ค.
(+/-) คาดราคาหุ้นจะปรับขึ้น ตอบรับงบที่ออกมาดี บจ.ที่จะประกาศงบ 2Q18 ในสัปดาห์หน้า ได้แก่ SCC DELTA GLOW PTTEP ส่วนหุ้นงบเด่น อื่นๆ แนะนำ RS ANAN SC PLANB SGP SIMAT ASAP HUMAN GOLD...
หุ้นแนะนำ
SCC ดักงบประกาศ 25 ก.ค. พร้อมปันผลระหว่างกาล 8บ. มองว่าเป็นหุ้นที่ราคาลงสะท้อน การปรับกำไรลงจาก Consensus ไปเต็มที่แล้ว
SC คาดกำไร 2Q18 ที่ 48 ลบ. ตัวเลขนี้ว่าดีแล้ว (+85% y-y, +90% q-q) 3Q18 จะดียิ่งกว่า จากยอดโอนโครงการหลักๆ อย่าง ศาลาแดงวัน เปิดตัว เสาร์-อาทิตย์นี้, และบีทนิค สุขุมวิท โปรเจครวมกัน 8.4พันลบ. ส่วนครึ่งปีหลัง 3Q18 เตรียมเปิดโครงการแนวราบใหม่อีก 10 โครงการรวม 9.2พันลบ.
Tactical weekly : เพิ่ม SCC SC เข้าพอร์ต
รายงานวันนี้
Thai Market Strategy : Scanning for interim dividends
ในช่วงที่ผลประกอบการ 2Q ประกาศ หลายบริษัทจะประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล ซึ่งเรามองว่าหุ้นที่จ่ายปันผลดีจะเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในช่วงที่ตลาดผันผวน ซึ่ง 18 บริษัทคาดจะจ่ายปันผลระหว่างกาลเกิน 2% (ดูตาราง)
SEAFCO : Bright outlook ahead
คาดบริษัทจะรายงานกำไรแข็งแกร่งต่อเนื่องตลอดทั้งปีจาก 1) การรับรู้รายได้แบบ S-curve จาก Backlog ที่มีอยู่ราว 4 พันล้านบาท 2) มาริจิ้นที่คาดจะสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะงานโครงการขนาดใหญ่ ส่งผลให้เครื่องจักรสามารถเดินได้อย่างต่อเนื่อง และสำหรับปัจจัยหนุนการเติบโตในอนาคตจะมาจาก ศักยภาพในการหางานที่เหนือกว่า ส่งผลให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ปัจจุบันมีงานอยู่ระหว่างรอผลประมูลอีกราว 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะหนุนให้บริษัทมี Backlog ที่สูงอย่างต่อเนื่อง แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.40 บาท
SAT : Shaft driver!
เราประเมินกำไรหลัก 2Q18 ที่ 161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YoY แต่ลดลง 31% QoQ ตามปัจจัยด้านฤดูกาล โดยเรามองว่ากำไรที่เติบโต YoY มาจากยอดขายที่เติบโตได้ดี (ไม่รวมการขาย BSK) และอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดเติบโตสูงขึ้นจากการประหยัดต่อขนาดและ คำสั่งซื้อสินค้าสัดส่วนอัตรากำไรสูงมากขึ้น เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 2018 ขึ้น 9% สะท้อนคำสั่งซื้อที่บริษัทได้มาใหม่ และปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 24.30 บาท เป็น 26.50 บาท เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ
หุ้นมีข่าว
(+) GULF เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมวงเงินลงทุน 3-4 หมื่นล้านบาทในช่วง 5 ปี เพื่อรองรับการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) รวม 5,000 เมกะวัตต์ และการเข้าซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนการลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท ,เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) โดยปัจจุบันยังไม่มีแผนจะออกหุ้นกู้เพื่อมารองรับการลงทุน
ส่วนความคืบหน้าการเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ประเทศโอมาน ขนาดกำลังผลิต 300 เมกะวัตต์ (MW) นั้น คาดว่าจะรู้ผลในเดือน ส.ค.นี้ หากบริษัทได้รับคัดเลือกคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 5-6 พันล้านบาทในการเข้าร่วมลงทุนกับกลุ่มโอมานแก๊ส ในสัดส่วนฝายละ 50% นอกจากนี้บริษัทมองเข้าลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธุรกิจก๊าซฯ เพราะในโอมานมีแหล่งก๊าซธรรมชาติอยู่มาก
ด้านการเจรจาร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงงานแสงอาทิตย์ (SOLAR) และพลังงานลม ในประเทศเวียดนาม กำลังผลิตประมาณ 300-400 เมกะวัตต์ คาดว่าภายในปีนี้จะสรุปข้อตกลงได้อย่างน้อย 1 โครงการ ซึ่งจะร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น ส่วนการเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ในนิคมอุตสาหกรรมในไทย จำนวน 3 แห่ง กำลังผลิตแห่งละ 120 เมกะวัตต์นั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือนนี้ (ที่มา ASPEN)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO11554