- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 18 July 2018 19:50
- Hits: 4528
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> BEM, CPALL, SAT
Stock S R Comment
BEM 7.75 8.00 ชิงสัมปทาน'ด่านมอเตอร์เวย์'
CPALL 74.50 77.25 คาดไตรมาส 2/2561 ยังเติบโตต่อเนื่อง SSSG 7-11 ยังเป็นบวก
SAT 22.30 23.20 ค่ารถล็อบบี้กดภาษีใหม่อีโคคาร์ลง 50%
Powell, TFRS9, DW
Powell : ถ้อยแถลงของนาย Jerome Powell ประธาน Fed ต่อหน้าสภาล่างของสหรัฐฯเมื่อคืนนี้มีไฮไลท์ที่น่าสนใจได้แก่
1) Fed มีแนวโน้มสูงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะถัดไป
2) ความเสี่ยงขาขึ้นและความเสี่ยงขาลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ณ ขณะนี้อยู่ในระดับที่เท่าๆกัน
3) Powell กล่าวถึงผลกระทบของประเด็นสงครามการค้าว่า "เป็นสิ่งที่ยากต่อการทำนาย ณ ขณะนี้"
USD & UST : คำกล่าวของนาย Powell เมื่อคืนนี้สนับสนุนแผนการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed อีก 2 ครั้งในปีนี้ตามที่ Dot plots ชี้แจงไว้ ซึ่งทำให้ล่าสุดนักลงทุนให้น้ำหนักกับการขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งมากขึ้น โดยจาก Fed Funds futures ล่าสุดพบว่า ความน่าจะเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ขยับขึ้นจากวันก่อนที่ 64% มาอยู่ที่ 66% และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เงินดอลลาร์และ Bond yield สหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้
มุมมองของเรา : ยังคงมั่นใจว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ตาม Dot plots แต่สำหรับปีหน้าที่ Dot plots ประเมินไว้ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง เรามองว่ามีโอกาสที่จะไม่ถึงได้ หากประเด็นสงครามการค้าเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคการจ้างงานและภาคเศรษฐกิจจริงของสหรัฐฯอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้น จนทำให้ Yield curve ของสหรัฐฯมีความชันน้อยลงไปอีกหรือถึงขั้นติดลบ
BANK : ประเมินเหตุการณ์ที่กกบ.มีมติให้เลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานบัญชี TFRS9 ออกไป 1 ปีนั้นเป็น Sentiment เชิงบวกเล็กน้อยต่อกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารที่มีสำรองส่วนเกินในระดับที่ไม่มากนัก อาทิเช่น KTB อย่างไรก็ดี ผลกระทบในเชิงพื้นฐานคงมีไม่มากนัก เนื่องจากธนาคารต่างๆได้เตรียมความพร้อมมาในระดับหนึ่งแล้ว ในทางกลับกัน มองประเด็นนี้มีโอกาสส่งผลบวกต่อธุรกิจสินเชื่อที่นอกเหนือจากธนาคาร (Non-Bank) เนื่องจากจะมีเวลาในการเตรียมความพร้อมเพื่อตั้งสำรองหนี้ตามมาตรฐานใหม่มากขึ้น ทั้งในกลุ่มที่ทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน อาทิ KTC, AEONTS ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีหลักประกัน อาทิ SAWAD, MTC และสินเชื่อเช่าซื้อ อาทิ ASK, THANI, TK และ S11 เป็นต้น
DW : หลังจากที่ธุรกรรม Block trade เริ่มชะลอลง กลับกลายเป็นธุรกรรม DW ที่มีปริมาณการซื้อขายหนาแน่นเพิ่มขึ้น จนเป็นที่มาที่ทำให้หลักทรัพย์ Underlying บางตัวมีความ ผันผวนพอสมควร เราได้รวบรวมข้อมูลล่าสุดตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่า DW ที่มีปริมาณการซื้อขายในระดับสูงที่อาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังต่อการลงทุนในหลักทรัพย์ Underlying มากขึ้นได้แก่ AOT, KTC, BEAUTY, PTTGC, PTG, MTC, DTAC, PTT, TRUE, TISCO
กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET Index ปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ดีสอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลกในวันนี้ ยังคงประเมินเช่นเดิมว่าหากดัชนีจะปรับตัวทะลุ 1650 จุด ต้องอาศัยตัวช่วยที่สำคัญ นั่นก็คือผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังจะทยอยประกาศออกมา ซึ่งจะต้องออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หรือทำให้นักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการขึ้น ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Wait & See หลังจากขายทำกำไรที่ระดับดัชนี 1650 จุดไปแล้ว ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว อาจเลือกถือหุ้นต่อไปได้ เนื่องด้วยระดับ Forward PE ปัจจุบันนั้นยังคงอยู่เพียงแค่ 13.5 เท่า ต่ำกว่าระดับ 14.1 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เราย้ำมาตลอดว่าเป็นบริเวณการซื้อขายที่ตลาดหุ้นไทยมักมีเสถียรภาพมากที่สุด
แนวรับ 1,611 แนวต้าน 1,637
Today's Event :
BSM ลูกหุ้นเข้า 102,100 หุ้น
WHA ลูกหุ้นเข้า 7,966,978 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO11433