WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRINIบล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Today Selections  >>  AP, BDMS, COM7
Stock          S          R        Comment
AP            8.65      9.00       โหมเปิด 35 โครงการใหม่ Preseales มีหวังทะลุเป้า 3.35 หมื่นล้านบาท
BDMS         25.50     27.00       ฤดูฝนยาวนาน หนุนจำนวนผู้ป่วยเข้ารักษาเพิ่ม
COM7         17.30     18.20       Apple โหมเปิดสินค้าใหม่ หนุนยอดขาย 2H61 โดดเด่น
Oil & KTC
          Oil : ราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ปรับตัวลงแรง ภายหลังจากสหรัฐฯโดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลัง ได้ออกมากล่าวว่า ประเทศผู้นำเข้านำมันบางรายจะได้รับการผ่อนปรนให้สามารถซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ต่อไป ถึงแม้ว่าสหรัฐได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านไปแล้วก็ตาม ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเป็นการส่งสัญญาณว่าสหรัฐจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านในช่วงถัดไป และอาจทำให้ปริมาณอุปทานในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากข่าวที่ว่า บรรษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียได้เปิดสถานีส่งออกน้ำมัน 4 แห่ง หลังจากที่ได้ถูกปิดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้มีการส่งออกน้ำมันราว 850,000 บาร์เรล/วันเข้าสู่ตลาด มองเป็นปัจจัยกดดันกลุ่มพลังงานและ SET Index ในวันนี้
          Export : ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจวานนี้ได้แก่การที่รมว.พาณิชย์ของไทยออกมาเปิดเผยว่า ในภาพรวมแล้วปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนอาจส่งผลบวกสุทธิต่อภาคการส่งออกของไทย เนื่องจากได้สร้างโอกาสแก่ไทยที่จะส่งสินค้าเข้าไปแทนที่สินค้าที่ถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น  โดยสินค้าไทยที่คาดว่าจะมีโอกาสขยายการส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นแทนสินค้าสหรัฐฯ ได้แก่ 1) สินค้าประมง เช่น กุ้ง 2) สินค้าผลไม้ และ 3) ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เช่น เนื้อไก่ เนื้อสุกรแปรรูป เป็นต้น
          มุมมองของเรา: สอดคล้องกับมุมมองของเราเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ประเมินว่า ประเด็นสงครามการค้านี้จะส่งผลบวกเชิงอ้อมต่อบริษัทในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ KCE เนื่องจากมีโอกาสได้รับคำสั่งซื้อแผงวงจร PCB ที่เพิ่มขึ้น แทนที่ผู้ผลิตแผงวงจร PCB รายใหญ่ของจีนที่มีแนวโน้มได้รับออร์เดอร์ที่ลดลง ประเมินว่า Gross margin ของบริษัทจะสามารถปรับขึ้นไปสู่ระดับร้อยละ 30 กว่าๆอีกครั้งตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป จากราคาทองแดงที่น่าจะอยู่ในระดับต่ำต่อไปจากปัจจัย Trade war นี้ คงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 50 บาท
          KTC : วอลุ่มการซื้อขายเมื่อวานนี้ถึง 94 ล้านหุ้นเราไม่คิดว่าเป็นแรงกดดันจาก Block trade เนื่องจากเมื่อวานนี้ปริมาณการซื้อขาย SSF ของ KTC อยู่เพียงแค่ 859 สัญญาเท่านั้น เทียบเคียงเท่ากับ 859,000 หุ้น หรือไม่ถึง 1% ของวอลุ่มตลาด แต่สาเหตุหลักเราคาดว่าน่าจะมาจากแรงซื้อขายของบริษัทหลักทรัพย์ ที่สืบเนื่องมาจากธุรกรรม DW ในตลาด เนื่องจากหากไปดูรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KTC นี้ จะพบว่ามีบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งติดรายชื่ออยู่เป็นจำนวนมาก
          มุมมองของเรา : โดยจากการคำนวณของเราเมื่อวานนี้ อิงตามสมมติฐานที่ว่าบริษัทหลักทรัพย์ผู้ออก DW มี Fully hedge ประเมินว่าวอลุ่มการซื้อขายใน DW ของ KTC ทั้งหมดเมื่อวานนี้จะตีเป็นมูลค่าการซื้อขายของหุ้น บล.ผู้ออก DW ได้ถึง 81 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 86% ของตลาด ทั้งนี้จากการตรวจสอบของเราล่าสุดพบว่าราคา DW ของ KTC หลายตัวค่อนข้างจะแตกต่างไปจากราคา Fair price แล้ว เนื่องจากผู้ออกเริ่มไม่สามารถควบคุมราคาได้ โดยเฉพาะ Put option บางตัว แนะนำนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนใน KTC ทั้งหุ้นแม่และ DW ในช่วงนี้
          Fed : ติดตามการแถลงของนาย Jerome Powell ต่อหน้าทั้งสภาสูงและสภาล่างของสหรัฐฯในวันที่ 17-18 กรกฎาคมนี้  โดยประเด็นที่เราเฝ้าติดตามได้แก่ ความเห็นของ Fed ต่อประเด็นสงครามการค้า ว่าจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตหรือไม่
          กลยุทธ์การลงทุน: SET Index ปรับตัวสู่ระดับเป้าหมายของเราในเดือนนี้ที่ 1650 จุดเป็นที่เรียบร้อย โดยหากต่อจากนี้ดัชนีจะขึ้นต่อได้ ต้องอาศัยตัวช่วยที่สำคัญ นั่นก็คือผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังจะทยอยประกาศออกมา ซึ่งจะต้องออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หรือทำให้นักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการขึ้น ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Wait & See หลังจากขายทำกำไรที่ระดับดัชนี 1650 จุดไปแล้ว ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว อาจเลือกถือหุ้นต่อไปได้ เนื่องด้วยระดับ Forward PE ปัจจุบันนั้นยังคงอยู่เพียงแค่ 13.6 เท่า ต่ำกว่าระดับ 14.1 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เราย้ำมาตลอดว่าเป็นบริเวณการซื้อขายที่ตลาดหุ้นไทยมักมีเสถียรภาพมากที่สุด
          แนวรับ  1,613  แนวต้าน 1,648
บทวิเคราะห์วันนี้ :
DTAC (ซื้อเมื่ออ่อนตัว 50 บาท) ผลประกอบการไตรมาส 2 2018 ใกล้เคียงกับที่เราคาด โดยค่าใช้จ่ายที่ลดลงจาก Cost Cutting Scheme มากกว่าที่คาด ชดเชยกับค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายสูงกว่าคาด โดยแม้ฝั่งรายได้จะต่ำกว่าที่เราคาดไว้เล็กน้อย ทว่าต้นทุนก็ต่ำกว่า แม้รวมที่จ่ายค่าเช่าคลื่น 2300 MHz มูลค่า 840 ล้านบาทแล้ว
Today's Event :
TGPRO ลูกหุ้นเข้า 1,077 หุ้น
        
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
          E-mail: [email protected]
OO11363

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!