- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 16 July 2018 20:28
- Hits: 8223
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Summary 13/07/2018
Close 1,643.52 Volume Bt37,636M
Change 2.59 P/E 16.76
%Change 0.16% P/BV 1.88
หุ้นแนะนำพิเศษ
IVL (ราคาปิด 57.00 Bloomberg Consensus 70.94)
เข้าซื้อกิจการไปแล้วทั้งสิ้น 3 บริษัทใน ยุโรป บราซิล และอิสราเอลเพื่อขยายการลงทุน High Value Added Product (HVA) ซึ่งจะช่วยหนุนให้อัตรากำไรของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต
Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 อยู่ที่ราว 2.18 หมื่นล้านบาท +5%YoY โดยได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อกิจการที่ผลิตสินคา HVA และได้รับผลบวกจากส่วนต่าง ASIA PTA และ West PTA +25%YTD และ +1%YTD ตามลำดับ และส่วนต่าง ASIA PET และ West PET +126%YTD และ +47%YTD ตามลำดับ อีกทั้งได้รับผลบวกจากการปรับลดภาษีของสหรัฐจาก 35% เหลือ 21% ซึ่งคาดว่าจะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 500-1,000 ล้านบาทต่อปี
ส่องหุ้น
KOOL แนวรับ 1.69 , 1.64 บาท แนวต้าน 1.80 , 1.91 บาท
PSL แนวรับ 12.50-12.40 บาท แนวต้าน 12.80-13.10 บาท
KKP แนวรับ 71.50-71.25 บาท แนวต้าน 72.50 , 73.75 บาท
Market View : เคลื่อนไหวในกรอบ
หุ้นแนะนำพิเศษ : IVL
หุ้นมีข่าว : CHAYO กลุ่มมีเดีย กลุ่มอาหาร
Technical Insight : UV WHA
SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาค มาผันผวนแดนบวก จากการผ่อนคลายความกังวลสงครามการค้า แต่มีแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบทำให้กลุ่ม ENERG ปิดลบมากสุด ตามมาด้วยกลุ่ม FIN หลังจากมีแรง Sell on fact ของ AEONTS และ KTC ขณะที่กลุ่ม BANK FOOD HELTH บวกมาชดเชย ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,643.52 จุด (+2.59 จุด) Volume 3.76 หมื่นลบ. มาจาก Foreign Net -357.04 ลบ. TFEX Net -6,917 สัญญา ตราสารหนี้ -721.80 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้นหลังฤดูรายงานผลประกอบการได้เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้ว ซึ่งธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐได้เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส
+น้ำมันดิบดีดตัวขึ้น จากคำสั่งซื้อเก็งกำไรแม้ว่าจะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่ลิเบียกลับมาส่งออกน้ำมัน และอิหร่านจะยังคงสามารถส่งออกน้ำมัน แม้เผชิญกับการคว่ำบาตรจากสหรัฐก็ตาม
-ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 97.1 เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวลง 0.4% ในเดือนมิ.ย.
-สนง.ศุลกากรจีนเผยเกินดุลการค้าลดลงช่วง 6 เดือนแรก หลังส่งออกโตน้อยกว่านำเข้า
-พาณิชย์คาดส่งออกไทยอาจได้รับผลกระทบทางอ้อมสงครามการค้าในช่วง 4Q61
-กรมบัญชีกลาง ยอมรับผลเบิกจ่ายงบประมาณปี 2561 ต.ค.-มิ.ย. 2561 ต่ำกว่าเป้าหมาย งบลงทุนแย่สุดต่ำกว่าเป้า 18.27%
-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.96 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 33.30 บาท/US
**พรุ่งนี้กกบ.ประชุมเรื่อง IFRS9 หากเลื่อนบังคับใช้จะเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคาร
ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีปัจจัยสนับสนุนจากตลาดต่างประเทศและราคาน้ำมัน โดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวลสงครามการค้า และ Fund Flow ยังคงไหลออก คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,633-1,651 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- KKP ปันผลสูงและเก็งการประการผลประกอบการ
- BANPU ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้น 17 วันทำการสู่ 118$/Ton +9%
- CPALL ROBINS HMPRO BEM ครม.คง VAT ที่ 7% อีก 1 ปี
- หุ้น Beta <0.5 Dividend > 5% DIF DRT MC LH GLOW
- หุ้น Beta <1.0 Dividend > 3.8% TCAP SCB KTB SAT
- KCE CPF GFPT กลุ่มส่งออก ค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ 33.30 บาท/US
- ดัชนี BDI ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วัน +8% มาที่ 1,666 จุด (ผลบวกต่อ PSL)
หุ้นมีข่าว
+BCP จะขายหุ้นแหล่ง Galoc ในฟิลิปปินส์ของ Nido มูลค่าราว 660 ลบ.
ประเด็นบวกลุ่มรับเหมา รมว.คมนาคม ผลักดันลงทุน 4 ปีข้างหน้าอีกราว 1 ล้านลบ.หลังเดินหน้า 21 โครงการกว่า 1.09 ล้านลบ.
+BEM จ่อทำนิวไฮ! โบรกฯ ฟันธงไตรมาส 2/61 กำไรสุทธิเกิน 1,000 ล้านบาท โต 43% หลังบุ๊กกำไรขายหุ้น “ไซยะบุรี” พร้อมได้แรงหนุนผู้โดยสารรถไฟฟ้าโตต่อเนื่อง และบันทึกส่วนแบ่งกำไรจาก CKP-TTW เพิ่มขึ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)
CHAYO (ราคาปิด 4.1 ซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเหมาะสม 4) เร่งเครื่องลุยธุรกิจปล่อยสินเชื่อเต็มสูบ คาดปี 2561 นี้ ยอดปล่อยสินเชื่อทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันทะลุ 100 ล้านบาท คาดเริ่มไตรมาส 4/2561 นี้เป็นต้นไป แย้มอยู่ระหว่างเจรจาซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินอีก 7 ราย มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท เล็งออกหุ้นกู้นำเงินมาลงทุนซื้อหนี้เพิ่มเติมปลายปี(ที่มา : ทันหุ้น)
ความเห็น : ปัจจุบันบริษัทได้ซื้อมูลหนี้มามูลหนี้มาแล้วมูลค่ารวม 8.6 พันลบ. คาดบริษัทจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ 1 หมื่นลบ. เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมทางด้านเงินทุนหลังจาก IPO ประกอบกับมี D/E Ratio ที่ต่ำเพียง 0.14 เท่า จึงมีศักยภาพในการขยายพอร์ทสินเชื่อได้อีก คาดกำไรสุทธิปี 61 อยู่ที่ 75 ลบ. +29%YoY จากการเริ่มรับรู้รายได้จากสินเชื่อไม่มีหลักประกันที่ประมูลมาตั้งแต่ 2Q61 และสินเชื่อมีหลักประกัน ที่ประมูลมาตั้งแต่ปี 60 ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีอัตรากำไรที่สูง คาดจะช่วยหนุนอัตรากำไรสุทธิให้สูงขึ้นที่ 35% จากปี 60 ที่ 23%
ประเด็นบวกหุ้นกลุ่มมีเดีย : จากการรายงานตัวเลขงบค่าโฆษณาของ เดือน มิ.ย. 61 “นีลเส็น” มีการเติบโตโดดเด่นในกลุ่ม ทีวีดิจิทัล (+ 65% YoY) อินสโตร์ (+ 10.8% YoY) ป้ายโฆษณา (+8% YoY) และ ทีวีอนาล็อก (+ 2.9% YoY) สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการในงวด 2Q61 ของกลุ่ม MEDIA โดยเฉพาะ 2 กลุ่มย่อย คือ ผู้ประกอบการทีวี (MONO, WORK, RS, BEC, GRAMMY, MCOT และ AMARIN) และผู้ให้บริการสื่อนอกบ้าน (PLANB และ VGI) (ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)
ความเห็น การเติบโตของตัวเลขรายได้ค่าโฆษณาที่ก้าวกระโดด ทำให้ผู้ประกอบการทีวีน่าสนใจกว่า แต่อาจมีบางรายที่เผชิญความเสี่ยงจากการให้บริการระบบอนาล็อก อาทิ MCOT (กำหนดให้หยุดถ่ายทอดวันที่ 16 ก.ค. 61) BEC (มีคำสั่งให้แยกผังรายการระหว่างอนาล็อกกับดิจิทัล จาก กสทช.ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 61 แต่หมดสัมปทาน 25 มี.ค. 63) จึงแนะนำเพียง WORK MONO ที่ยังมีกำไรเติบโต และ AMARIN ที่ได้ประโยชน์จากฟุตบอลโลก 2018 ส่วน RS มีรายได้จากธุรกิจขายเครื่องสำอางค์กว่า 80%
ประเด็นลบกลุ่มอาหาร : ประกาศกระทรวงสาธารณสุขห้ามผลิต นำเข้า และจำหน่ายอาหารที่มีไขมันทรานส์ลงราชกิจจานุเบกษา 13 ก.ค. 61 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 180 วัน คาดว่าผู้ประกอบการด้านอาหารและขนมต่างๆ ที่มีส่วนผสมไขมันทรานส์จะได้รับผลกระทบในระยะสั้น
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940 ทศพล วิไลประภากร
OO11293