แม้ความเสี่ยงระยะกลาง-ยาวยังคงอยู่ที่ความไม่แน่นอนของผลจากสงครามการค้า แต่ด้วยท่าทีของจีนที่ยังไม่แสดงการตอบโต้สหรัฐฯด้วยมาตรการภาษีในทันที ได้ช่วยให้ภาพรวมการลงทุนมีทิศทางผ่อนคลายลงในช่วงสั้น ขณะที่การประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/61 ของจีนในวันนี้ที่คาดออกมาเติบโต 6.7% yoy (มากกว่าเป้าหมายของรัฐบาลจีนที่ 6.5%) คาดจะเป็นปัจจัยที่เข้ามาช่วยหนุนจิตวิทยาการลงทุนของกลุ่มตลาดเกิดใหม่

  ดัชนีหุ้นไทยอาจไม่ไปไหน แต่จิตวิทยาการเก็งกำไรเป็นบวก การลุ้นผลการดำเนินงานไตรมาส /61 จะมีอิทธิพลเหนือปัจจัยลบภายนอกในช่วงนี้ โฟกัสของตลาดอยู่ที่ กลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะการประชุมเรื่องเลื่อนใช้ IFRS9 ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค.) ขณะที่รายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2/61 ซึ่งคาดจะเป็นจุดต่ำสุดของปี การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ไม่แพง ผลประกอบการมีความมั่นคง กระแสเงินสดแข็งแกร่ง หรือได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า เราชอบ BBL, BANPU, SPALI, RATCH, AEONTS*, CPF, BLAND*, TIP* //เก็งกำไรแบบตัดขาดทุน KCE, TVO, BCP, ASIAN*

  กลุ่มเดินเรือ มีสัญญาณเก็งกำไรที่เป็นบวกจากค่าระวางเรือที่ทำจุดสูงสุดในรอบ 7 เดือน ขณะที่กำไรไตรมาส 2/61 มีโอกาสเติบโตดีขึ้นทั้ง yoy และ qoq มองเป็นโอกาสเก็งกำไรระยะสั้นใน PSL*, RCL*, TTA*

  กลุ่มที่ควรระวัง โรงกลั่น, หุ้นกลุ่มเหล็ก คาดผลประกอบการไตรมาส 2/61 ค่อนข้างอ่อนแอ การเก็งกำไรราคาหุ้นที่ขึ้นช่วงนี้เป็นแค่ Money game ที่ควรกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง

  Investment Theme 1) หุ้นคาดผลการดำเนินงานดี QoQ และ YoY ได้แก่ BBL, BANPU, IVL, BEM*, CKP*, ITD*, BPP*, MONO*, MAJOR, SC* 2) หุ้นที่ซื้อขายด้วย Valuation ที่ไม่แพง BBL, KTB, KBANK, ROBINS, SPALI, AP, RATCH, AEONTS 3) เก็งกำไรหุ้นส่งออก KCE, HANA, DELTA, GFPT* 4) กลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP, BANPU หาจังหวะเก็งกำไรแบบตั้งรับเมื่ออ่อนตัวหรือมี panic sell 

  ภาพรวมกลยุทธ์: เลือกเก็งกำไรรายตัว หากการอ่อนตัวไม่หลุด 1625+/- โมเมนตัมตลาดระยะสั้นยังเป็นบวก ยังมองหุ้นเล็กจะเด่นกว่าหุ้นใหญ่ในช่วงสั้น // หุ้นแนะนำวันนี้ CPF, MTC / เก็งกำไร GUNKUL (เป้า 3.50 ตัดขาดทุน 2.82), BEC (เป้า 9 ตัดขาดทุน 7.7)

แนวรับ 1634 / แนวต้าน : 1650-1660 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

ประเด็นการลงทุน

  ทรัมป์ยังเดินหน้าขู่เก็บภาษีรถยนต์นำเข้าจาก EU – ทรัมป์กล่าวในระหว่างการแถลงการในการประชุม NAFTA โดยระบุว่า สหรัฐฯยังคงมีแผนที่จะเก็บภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU)

  กลุ่มค้าปลีก – ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 คาดไม่โดดเด่นหลังยอดขายสาขาเดิม (SSSG)  ยังไม่ดีนัก ขณะที่ปีนี้ภาครัฐยืนยันไม่มีโครงการช็อปช่วยชาติ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างเป็นปัจจัยบวกต่อ COM7, HMPRO, ROBINS การลงทุนในกลุ่มนี้จึงเน้นทยอยสะสม

IFRS9 – มีความเป็นไปได้ที่การพิจารณาเรื่องเลื่อนใช้ IFRS9 อาจล่าช้า หากทางกกบ.ตัดสินใจรอผลการศึกษาเรื่องดังกล่าว (แล้วเสร็จธ.ค.61) จากทางม.หอการค้า ซึ่งอาจกลายเป็นปัจจัยลบช่วงสั้น แต่หากมีการเลื่อนใช้ เราคาดเป็นปัจจยหนุนตลาดทดสอบ 1650-1660 จุด

หุ้นโรงแรมและอาหาร – การยกเลิกใช้ไขมันทรานส์ใน 180 วัน ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับสูตรอาหาร เป็นจัยจัยลบทางจิตวิทยาล่าสุดต่อหุ้นกลุ่มโรงแรม ซึ่งส่วนใหญ่มีธุรกิจอาหารแบบ QSR  การลงทุนกลุ่มนี้เน้นทยอยสะสมเมื่ออ่อนตัว

  ประเด็นติดตาม: 16 ก.ค. – GDP จีน ไตรมาส 2/61, 17 ก.ค. – กกบ.ประชุมพิจารณาเลื่อนบังคับใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9, 19 ก.ค. – FED Beige Book

 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)