- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 July 2018 17:53
- Hits: 1559
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“Selective Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ย่อแล้วดีด” ต้าน 1649/1655จุด รับ 1632/1628จุด สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ อัตรา 10% จำนวน 6,000 รายการ กดดันจิตวิทยาการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงโลก ทิศทางค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่าลงมาในช่วงก่อนหน้า ทำให้เราเริ่มเห็นสัญญาณบวก Fund Flows ในเอเชีย โดยวานนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดเอเชีย 99.5 ล้านเหรียญ ซื้อสุทธิครั้งแรกในรอบ 8 วัน สะท้อนการปรับสถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเริ่มเข้าสู่เฟสท้ายๆ เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดเอเชีย วันนี้แนะ Theme “Selective Play” : BH, BCH, SAPPE
Nomura : Key Factors
(-) US: รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 10% ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าจำนวน 6,000 รายการ
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +0.35% สู่ $74.11/bbl / BRT +1.01% สู่ $78.86/bbl
(+) Asia: ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดเอเชีย 99.5 ล้านเหรียญ ครั้งแรกในรอบ 8 วัน
(+) TH: ททท.ปรับเป้ารายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2019 เติบโต 12%
(+) TH: รองนายกฯสมคิด เดินทางเยือนญี่ปุ่น ชักชวนนักลงทุนมาลงทุนใน EEC
(*) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-1,393บ.,Long Future +10,702สัญญา,ขายBond -2,730ลบ.
Nomura Daily Top Picks: BH, BCH, SAPPE
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “ย่อแล้วดีด” ต้าน 1649/1655จุด รับ 1632/1628จุด รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 10% ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าจำนวน 6,000 รายการ หลังจากสหรัฐและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้า ทำให้นโยบายการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศเพิ่มความรุนแรงอีกครั้ง กดดันจิตวิทยาการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงโลก แต่อย่างไรก็ดี ทิศทางค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่าลงมาในช่วงก่อนหน้า ทำให้เราเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากทิศทาง Fund Flows ในเอเชีย โดยวานนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดเอเชีย 5ตลาด 99.5ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการซื้อสุทธิครั้งแรกในรอบ 8วัน สะท้อนการปรับสถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเริ่มเข้าสู่เฟสท้ายๆ เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดเอเชีย นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +1.01% สู่ระดับ 78.86 เหรียญ/บาร์เรล ตอบรับแนวโน้ม Supply น้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง จากการคว่ำบาตรอิหร่านโดยสหรัฐฯ และกำลังการผลิตที่ลดลงในลิเบีย คาดหนุนกลุ่มพลังงานนำตลาดฟื้นได้ ส่วนปัจจัยในประเทศ ททท.ปรับเป้ารายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2019 เติบโต 12% จากแนวโน้มตลาดต่างประเทศที่ฟื้นตัว คาดกระตุ้นเม็ดเงินใช้จ่ายในประเทศเด่น ผสานรองนายกฯสมคิด เดินทางเยือนญี่ปุ่น เพื่อชักชวนนักลงทุนในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์และอากาศยาน การแพทย์ เครื่องจักร ลงทุนใน EEC กระตุ้นเม็ดเงินลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ผสาน Thailand Future Fund 4.5หมื่นลบ คาดเข้าเทรดวันแรก 1 ตค 2018 เป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นไทยเพิ่มเติม
Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5 %
Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play KBANK, BBL, ROBINS, CPALL, TOA, AMATA, WHA, CK, STEC, PYLON, BH, AOT, ERW และ ปิโตรเคมี(IVL, IRPC) วันนี้เน้น “Selective Play”
ราคาน้ำมันดิบ BRENT อยู่ในแนวโน้มแกว่งขึ้น PTT, PTTGC, PTTEP นำตลาด
ททท ปรับเป้ารายได้การท่องเที่ยวปี 2019 ขึ้นจาก 10% เป็น 12% บวกต่อ AOT, ERW(วานนี้มี Big Lot ที่ราคา 7 บาท)
Thailand Future Fund 4.5หมื่นล้านบาท กำลังจะเข้าเทรด 1 ตค หนุนแผนลงทุนรัฐฯ เน้น STEC, CK, PYLON, SEAFCO
กลุ่มรพ เริ่มได้ประโยชนืจากช่วง Seasonal แนะนำ BCH, BH, BDMS เด่น
Spread PTA-0.67*PX ทำจุดสูงสุดใหม่ใน 6 ปี ที่ 216.9เหรียญฯ บวกต่อ IVL(TP66)
การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีและสาย สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เริ่มแล้ว และ ครม เตรียมพิจารณา รถไฟทางคู่ 8เส้นทาง 4 แสนล้านบาท 31 กค นี้ บวกต่อ STEC, BTS, PYLON
BRI Play : ภาครัฐย้ำ EEC จะเป็น Engine growth สำคัญผลักดันไทยไปสู่ Valued driven economy และจะเร่งโครงการเร่งด่วน EEC 6.8 แสนลบ.ให้จบทัน 1Q19F โดยวันนี้จะมีการขายซอง TOR Hispeed เชื่อมโยง 3 สนามบิน หนุน BANK(BBL, KBANK),รับเหมา(CK, STEC PYLON, SEAFCO), นิคม(AMATA, WHA) และกลุ่มทุน PTT-BTS-STEC-RATCH
ICT : กสทช แบ่งคลื่น 4G เพื่อให้เหมาะในการประมูล บวกต่อ ADVANC DTAC
Portfolio Top Picks JULY 2018 แนะนำ AMATA, BBL, CPALL, IVL, STEC, ROBINS, ERW
Investment Theme:
2Q18 Theme Domestic : Scent of Election & Domestic Confidence
Best Picks 2Q18 : CPALL, ROBINS, GLOBAL, KBANK, TMB, TOA, AMATA, IVL, IRPC, BH, MONO
1) Consumer & Farm Income Related : CPALL, ROBINS, GLOBAL, MONO, JUBILE, SNC
2) Investment Related : KBANK, BBL, TMB, TOA, SCC, GLOBAL, HMPRO, STEC, CK, PYLON
3) Property : GOLD, LH, AP, SIRI, SC, BLAND
4) Tourism Internal & External Support : BH, BDMS, AOT, ERW, BTS
5) Global Play : IVL, IRPC and eye on PTL, AJ
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
BH (TP18F 225*): Support 170/168 Resistant 178/182
Theme: Domestic Play
Earnings Outlook: ชื่อเสียงของรพ.ที่จะดึงดูดทั้งผู้ป่วยและแพทย์มือดี ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่รักษาความสามารถในการแข่งขันระยะยาว และยังมีราคาถูกกว่าการรักษาในต่างประเทศ โดยแนวโน้ม 2Q18F คาดกำไรราว 980 ล้านบาท (+2%y-y -9%q-q) จากผู้ป่วยไทยที่ยังเพิ่มขึ้น ชดเชยช่วง Low season ของกลุ่มตะวันออกกลาง และคาดกลับมาเติบโต y-y และ q-q ใน 3Q18F จาก High season
Valuation: แม้การเติบโตปีนี้จะอ่อนแอกว่ากลุ่ม แต่ราคาหุ้นถือว่าตอบรับไปมากแล้ว Laggard กลุ่มมาก โดย YTD กลุ่ม 8% vs BH -8% มองเป็นจุดทยอยซื้อที่ดีอีกครั้ง และมี Valuation Discount มี PER 18F อยู่ที่ 31x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 36x upside เปิดกว้าง 29% ในขณะที่พื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นรพ.พรีเมียร์ที่เน้นรักษาโรครุนแรง มี GPM, EBITDA margin สูงสุดในกลุ่ม รพ.
Catalyst: เข้าสู่ช่วงฤดูฝนเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มร.พ. + คาด 3Q18F เป็นไตรมาสดีสุดของปี และเป็นกลุ่มที่เหมาะสมยามตลาดยังผันผวน
BCH (TP18F 17.7*): Support 15.8/15.5 Resistant 16.5/16.8
Theme: Domestic Play
Earnings Outlook: คาดกำไรสุทธิ 2Q18F ที่ 223 ล้านบาท +29%y-y +4%q-q เติบโตดีสุดในกลุ่มฯ เนื่องจากรายได้เติบโตดี จากอานิสงส์ของสภาพอากาศและเกิดโรคระบาด กอปรกับการขยายพื้นที่ให้บริการศูนย์รักษาเบาหวานที่เท้าของ รพ.WMC มีผลตอบรับดีจากลูกค้าต่างชาติ ส่งผลต่อ Intensity ค่ารักษาโรคยากเพิ่มขึ้น และคาดว่า Gross margin และ EBITDA margin ดีขึ้น y-y และ q-q เป็น 32.8% และ 26% ตามลำดับ
Valuation: ราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับ 38 เท่า สูงกว่ากลุ่มที่ 36 แต่ยังเหมาะสมจากอัตราการเติบโตที่สูง 18%CAGR 18F-20F
Catalyst: คาดกำไรสุทธิ 2Q18F เติบโตดีสุดในกลุ่มฯ + เข้าสู่ช่วงฤดูฝนเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มร.พ.
SAPPE (TP18F 30.5*): Support 25.0/24.2 Resistant 27.25/28.0
Theme: Summer Play
Earnings Outlook: เข้าสู่ High Season ใน 2Q18F หนุนกำไรปกติ 2018F/2019F เติบโต +7.1%y-y / +12.5%y-y จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ และการขยายช่องทางจำหน่ายในต่างประเทศ และยังมี Upside Risk จากการเติบโตของธุรกิจน้ำมะพร้าว All-CoCo (ถือหุ้น 40%)
Valuation: ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2019F ที่ 30.5 บาท PER Target ที่ 20x ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีของบริษัท โดยปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PER19F 17 เท่า upside เปิดกว้าง 18%
Catalyst: เข้าสู่ High Season ใน 2Q18F + ผลการดำเนินงานแข็งแรงสุดในกลุ่มเครื่องดื่มโดยเป็นบริษัทเดียวที่กำไร 1Q18 เติบโตทั้ง y-y และ q-q
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
OO11081