- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 September 2014 15:44
- Hits: 2246
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : SMA5วัน 1,579 / 10วัน 1,574
Technical : แนวรับ : 1,576/1,566 แนวต้าน : 1,591 / 1,601
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTGC แนวรับ 62.5 / 62 แนวต้าน 65 / 66.25
หุ้นเด่นรายวัน : MODERN DSGT TOG
วันพฤหัสบดีตลาดหุ้นไทยปิดลบต่อ ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,580.87 จุด ลดลง 1.26 จุด(-0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 66,576.12 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติพลิกขายสุทธิอีก 174.96 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,553-1,601 ความกังวลต่อการแกว่งตัวหรือปรับตัวลงของดัชนีต่างประเทศสำคัญๆ จากการคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับเปลี่ยนนโยบายดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า (17 ก.ย.) ส่งผลให้ตลาดอาจแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานราคา ในขณะที่ SET50 ทดสอบSMA25วันพร้อมกลับตัวขึ้นปิดเหนือSMA5วัน 1,055 เป็นสัญญาณเชิงบวก ไม่สร้างจุดต่ำกว่ามีโอกาสกลับตัวทดสอบจุดสูงเดิม แนวรับต่อไป 1,050/1,046 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,940-19,190 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,000-19,250
กลยุทธ์ ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญติดต่อกันเป็นสัญญาณบวก การปรับตัวหรือปรับฐานดัชนีเกิดขึ้นในระยะสั้นในช่วงที่ตลาดขาดปัจจัยบวก กลุ่มอาหาร TUF CPF KTIS กลุ่มธนาคารปริมาณการซื้อขายเพิ่มโดดเด่นในKBANKและมีโอกาสทดสอบ 226/223ซื้อเล่นรอบ LHBANKซื้อเก็งกำไร1.77-1.76 กลุ่มสื่อสาร ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณชี้นำ TRUE ADVANC INTUCH กลุ่มพลังงาน ซื้อเก็งกำไรPTTEP PTTGC กลุ่มอสังหาฯ PF BLAND ANAN RML หุ้นรายหลักทรัพย์ TCJ IRC AOT ระยะกลาง ถือ / รอขายบางส่วน 1,601
หุ้นแนะนำพิเศษ
PTTGC (ปิด 62.75 ซื้อเป้าหมาย 84 บาท) เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง โดยคาดว่ากำไรสุทธิของ PTTGC จะทยอยดีขึ้นตั้งแต่ 3Q57 โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญคือ 1)ธุรกิจปิโตรฯสายโอเลฟินด์เติบโตต่อเนื่องตามปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นเพราะไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงเหมือน1H57 ขณะที่ราคาขายยังทรงตัวในระดับสูงโดยปัจจุบัน HDPE มีส่วนต่างเมื่อเทียบกับ Naphtha ที่ 733$/ton เพิ่มขึ้น 18.6% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยใน 2Q57 และ 2) ไม่มีรายการพิเศษจากการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์จำนวนมากเหมือน 2Q57 ส่วนทั้งปียังคงประมาณการณ์กำไรสุทธิในปีนี้ตามเดิมที่ 34,400 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 3.5%yoy
หุ้นเด่นรายวัน
MODERN (ราคา 10.20 ซื้อเก็งกำไร) เชื่อกำไรปีนี้เติบโตสูงสุด หลังขายหุ้น MFEC 60 ล้านหุ้น บันทึกกำไรเข้า Q2/57 พร้อมคาดรายได้ปีนี้แตะ 4.6 พันล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อก 3.1 พันล้านบาท พร้อมรุกต่างประเทศ (ที่มา : ข่าวหุ้น)
DSGT (ราคาปิด 8.40 ซื้อเก็งกำไร) คาดไตรมาส 4 ยอดขายพุ่ง รับช่วงไฮซีซั่น ลั่นรายได้ทั้งปีโต 2 หลัก เล็งขยายธุรกิจในเวียดนาม กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ผ่านดีลเลอร์ ทุ่มงบ 800 ล้านขยายกำลังการผลิตเพิ่ม (ที่มา : ข่าวหุ้น)
TOG (ราคาปิด 6.25 ซื้อเก็งกำไร) เตรียมศึกษาทำธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงานเพิ่มกำไรสุทธิสูงขึ้นในอนาคต ส่วนปีนี้บริษัทเพิ่มเป้ารายได้เป็น 1,900 ล้านบาท หรือโต 17% จากเป้าเดิมคาดโต 9% หลังอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าลง และการขายโปรดักต์ที่มีมาร์จิ้นสูงมีออเดอร์เพิ่มขึ้น (ที่มา : ข่าวหุ้น+ทันหุ้น)
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* TMI มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค. - 12 ก.ย. 57
*ADAM/ SLC / IFEC / AJD มีผลบังคับใช้ 13 ส.ค.-19 ก.ย.57
* TH มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค.-26 ก.ย. 57
* AJP/ SOLAR / SUPER /VIH มีผลบังคับใช้ 25 ส.ค.-3 ต.ค.57
* ACD / DIMET / EMC / EVER / GENCO / SST / TAKUNI มีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. - 10 ต.ค. 57
* BKD / CSS / SUPER-W1 / TFI มีผลบังคับใช้ 8 ก.ย. - 17 ต.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 19.71 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 19.71 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกแถลงการณ์แผนการโจมตีกับกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ 11,000 ราย สู่ระดับ 315,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 300,000 ราย ขณะเดียวกันนักลงทุนบางส่วนยังเลือกชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการประชุมของเฟดในช่วงสัปดาห์หน้า ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 19.71 จุด หรือ -0.12% ปิดที่ 17,049.00 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 5.29 จุด หรือ +0.12% ปิดที่ 4,591.81 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.76 จุด หรือ +0.09%ปิดที่ 1,997.45 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกลับมาวิตกกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบตึงตัวอีกครั้งหลังจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งออกแถลงการณ์แผนการโจมตีกับกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS)ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.83 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ ปิดที่ 98.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant : ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์