- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 September 2014 15:27
- Hits: 2183
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'แดงหน่อยๆ'
ความกังวลต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ในการประชุมสัปดาห์หน้าวันที่ 16 – 17 ก.ย. ยังคงเป็นปัจจัยกดดันให้ดัชนีย่อตัวลง โดยภาวะตลาดส่วนใหญ่เป็นการซื้อเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง – เล็ก ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,580.87 จุด (-1.26 จุด) vol 6.6 หมื่นลบ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) การคาดหมายการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลชุดใหม่ สร้างสัญญาณบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 57 และ 58 ให้ฟื้นตัวขึ้น
(+) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
(-) ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ได้ให้คำมั่นว่า เขาจะไม่ลังเลที่จะจัดการกับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรียและอิรัก
(-) สหภาพยุโรปประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันศุกร์ที่ 12 กันยายน ทั้งในอุตสาหกรรมพลังงานและการเงิน
(-) สศค. เสนอการปฏิรูปโครงสร้างภาษีใหม่ โดยเรื่องการลดหย่อนภาษีการลงทุน LTF ซึ่งจะหมดสิทธิประโยชน์ในปี 59 ก็จะไม่มีการเสนอต่ออายุ
(-) Fund Flow ต่างชาติไหลออกเป็นวันที่ 2 มูลค่า 2 ร้อยล้านบาท รวม 2 วันมี Net Sell มูลค่า 4 ร้อยล้านบาท
(+/-) ตลาดหลักทรัพย์ เตรียมหารือโบรกเกอร์ นำมาตรการหยุดการซื้อขายทันทีในระยะเวลาหนึ่ง หวังคุมการซื้อขายหุ้นที่มีความถี่สูงและราคาร้อนแรงผิดปกติ หวังเพื่อเตือนสติรายย่อยให้หยุดคิด
(+/-) ความกังวลเกี่ยวกับการแยกตัวของสกอตแลนด์ลดลงหลังผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่าผู้ไม่สนับสนุนการแยกตัวของสกอตแลนด์มีจำนวนมากกว่า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* ติดตามความคืบหน้าการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกในบางจังหวัด และการดำเนินแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ การแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 12 กันยายน
* การประชุมกนง.และ FOMC ในสัปดาห์หน้า ติดตามประเด็นแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐว่าจะมีการส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
กลยุทธ์การลงทุน “จำกัดพอร์ท คุมความเสี่ยง”
ประเมินแนวโน้มดัชนีผันผวนต่อ โดยมีแรงกดดันจากประเด็นการเมืองในต่างประเทศทั้งในยูเครน ที่ทางยุโรปดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรอบสอง และในอิรักหลังสหรัฐต้องการดำเนินการจัดการกับกลุ่ม IS ขณะที่ในประเทศการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจจะช่วยเพิ่มความมั่นใจด้านการลงทุนมากขึ้น เรายังคงเน้นหุ้นที่ได้รับผลดีจากนโยบายภาครัฐ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่สะท้อนปัจจัยเชิงบวกโดยตรง อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมของตลาดยังผันผวน จึงแนะนำการถือครองหุ้นและควบคุมความเสี่ยงอย่างรัดกุม
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
INTUCH ราคาปิด 70.50 บาท ราคาพื้นฐาน 106 บาท
* คาดกำไรปี 2014 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากส่วนแบ่งรายได้และกำไรของบ.ลูก เช่น ADVANC
THCOM ที่ขยายตัวขึ้นโดดเด่น
* ระยะกลาง-ยาว ยังโดดเด่นทั้งจาก ADVANC (พัฒนาการผู้ใช้ 3G 2.1GHz. มากสุดในอุตสาหกรรม) และ THCOM (กำไรแกร่ง)
* โดดเด่นด้านเงินปันผล คาด div yield ปี 2014 ที่ 7.6%
TICON ราคาปิด 17.90 บาท ราคาพื้นฐาน 21 บาท
* ปี 2014 ตั้งเป้ารายได้ค่าเช่าโต 15 – 20% จากยอดเข่าพื้นที่โรงงาน 1.2 แสนตร.ม. และยอดเช่าคลังสินค้า 3 แสนตร.ม. มีรายได้เพิ่มจากการทำ Solar roof
* เล็งตั้งกอง REIT ช่วง Q4/14 มูลค่า 5,200 ล้านบาท
* รับผลดีญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตรถยนต์มาไทย และกลุ่มโมเดิร์นเทรดออกไปต่างจังหวัดมากขึ้น
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ