- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 09 July 2018 17:04
- Hits: 1893
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“Healthcare Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway Up” ต้าน 1624/1632จุด รับ 1608/1600จุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตดี เน้นย้ำพื้นฐานเศรษฐกิจโลกแข็งแรง ขณะที่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยของแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวที่ FED ใช้หาสัญญาณเงินเฟ้อ ปรับตัวลงจากเดือนก่อน หนุน FED ยังคงขึ้นดอกเบี้ยค่อยเป็นค่อยไป บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงโลกฟื้นตัวขึ้น ผสานค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่องสู่ 93.97จุด กระตุ้นค่าเงินเอเชียแข็งค่าเด่น เพิ่ม Sentiment บวกต่อการลงทุนในเอเชียและไทย วันนี้แนะ Theme “Healthcare Play” : BH, BDMS, BCH
Nomura : Key Factors
(+) US: ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดที่ 213,000 ตำแหน่ง
(+) US: ดุลการค้าสหรัฐฯเดือนพค. -43.1 bn ขาดดุลน้อยลงจากเดือนก่อนที่ -46.2 bn
(+) US: ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวที่ FED หาสัญญาณเงินเฟ้อ +0.2% ลดลงจากเดือนก่อนที่ +0.3% หนุน FED ยังคงขึ้นดอกเบี้ยค่อยเป็นค่อยไป
(+) Currency: ค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 93.97 จุด
(+) TH: รองนายกฯสมคิด มอง GDP ไทย ปี2018 น่าจะเติบโตมากกว่า 4.5% ได้
(*) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.18% สู่ $73.80/bbl / BRT -0.36% สู่ $77.11/bbl
(-) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-1,706ลบ.,Short Future -2,316สัญญา,ขายBond -593ลบ.
Nomura Daily Top Picks: BH, BDMS, BCH
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway Up” ต้าน 1624/1632จุด รับ 1608/1600จุด การใช้นโยบายภาษีและหว่างสหรัฐฯกับจีนเริ่มขึ้นแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสหรัฐเริ่มบังคับใช้กำแพง ภาษี 25% กับสินค้าจีน Lot แรกมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งทางการจีนคาดว่า การใช้นโยบายภาษี 25% บนสินค้านำเข้าราว 5หมื่นล้านดอลลาร์จะกระทบ GDP ราว 0.2% ขณะที่ Nomura คาดกระทบราว 0.1% ถือว่าผลกระทบรวมยังค่อนข้างจำกัด และความเสี่ยงนี้น่าจะผ่อนคลายลง หลังตลาดมีการปรับฐานล่วงหน้าไปมาก ประกอบกับ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ประกาศให้เอกชนสามารถยื่นขอยกเว้นภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บเพิ่มกับสินค้านำเข้าจากจีนภายในเวลา 90 วัน จนถึงวันที่ 9 ต.ค. 2018 ถือเป็นปัจจัยลดผลกระทบของมาตรการการดังกล่าว ประกอบกับตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวที่ FED ใช้จับตาภาวะเงินเฟ้อ รายงานที่ระดับ +0.2% ลดลงจากเดือนก่อนที่ +0.3% คาดจะส่งผลให้ FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงโลก โดยล่าสุดทิศทางค่าเงินดอลล่าร์ยังอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 93.97 จุด หลังติดแนวต้าน 95.5จุด หนุนให้ค่าเงินเอเชียและค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเช้านี้ เฉลี่ย 0.1% เป็น Sentiment บวกต่อการลงทุนในเอเชียและไทย โดยไทยได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากภาพพื้นฐานเศรษฐกิจภายในที่แข็งแรง ทั้งภาคการส่งออก การท่องเที่ยว และการบริโภค ส่งผลให้รองนายกฯสมคิด มอง GDP ไทย ปี2018 น่าจะเติบโตมากกว่า 4.5% ได้ กระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5 %
Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play KBANK, BBL, ROBINS, GLOBAL, CPALL, TOA, AMATA, WHA, CK, STEC, PYLON, BH, AOT, ERW และ ปิโตรเคมี(IVL, IRPC) วันนี้เน้น “Healthcare Play”
กลุ่มรพ เริ่มได้ประโยชนืจากช่วง Seasonal แนะนำ BCH, BH, BDMS เด่น
Trading แนะนำเก็งกำไรหุ้น High PER ที่ลงแรงตาม BEAUTY ให้เน้น RS, DDD
การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีและสาย สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เริ่มแล้ว และ ครม เตรียมพิจารณา รถไฟทางคู่ 8เส้นทาง 4 แสนล้านบาท 31 กค นี้ บวกต่อ STEC, BTS, PYLON
ราคาน้ำมันดิบ BRENT อยู่ในแนวโน้มแกว่งขึ้น PTT, PTTGC, PTTEP นำตลาด
BRI Play : ภาครัฐย้ำ EEC จะเป็น Engine growth สำคัญผลักดันไทยไปสู่ Valued driven economy และจะเร่งโครงการเร่งด่วน EEC 6.8 แสนลบ.ให้จบทัน 1Q19F โดยวันนี้จะมีการขายซอง TOR Hispeed เชื่อมโยง 3 สนามบิน หนุน BANK(BBL, KBANK),รับเหมา(CK, STEC PYLON, SEAFCO), นิคม(AMATA, WHA) และกลุ่มทุน PTT-BTS-STEC-RATCH
ICT : กสทช แบ่งคลื่น 4G เพื่อให้เหมาะในการประมูล บวกต่อ ADVANC DTAC
Portfolio Top Picks JULY 2018 แนะนำ AMATA, BBL, CPALL, IVL, STEC, ROBINS, ERW
Investment Theme:
2Q18 Theme Domestic : Scent of Election & Domestic Confidence
Best Picks 2Q18 : CPALL, ROBINS, GLOBAL, KBANK, TMB, TOA, AMATA, IVL, IRPC, BH, MONO
1) Consumer & Farm Income Related : CPALL, ROBINS, GLOBAL, MONO, JUBILE, SNC
2) Investment Related : KBANK, BBL, TMB, TOA, SCC, GLOBAL, HMPRO, STEC, CK, PYLON
3) Property : GOLD, LH, AP, SIRI, SC, BLAND
4) Tourism Internal & External Support : BH, BDMS, AOT, ERW, BTS
5) Global Play : IVL, IRPC and eye on PTL, AJ
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
BH (TP18F 225*): Support 166/164 Resistant 173/176.5
Theme: Domestic Play
Earnings Outlook: ชื่อเสียงของรพ.ที่จะดึงดูดทั้งผู้ป่วยและแพทย์มือดี ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่รักษาความสามารถในการแข่งขันระยะยาว และยังมีราคาถูกกว่าการรักษาในต่างประเทศ โดยแนวโน้ม 2Q18F คาดกำไรราว 980 ล้านบาท (+2%y-y -9%q-q) จากผู้ป่วยไทยที่ยังเพิ่มขึ้น ชดเชยช่วง Low season ของกลุ่มตะวันออกกลาง และคาดกลับมาเติบโต y-y และ q-q ใน 3Q18F จาก High season
Valuation: แม้การเติบโตปีนี้จะอ่อนแอกว่ากลุ่ม แต่ราคาหุ้นถือว่าตอบรับไปมากแล้ว Laggard กลุ่มมาก โดย YTD กลุ่ม 7% vs BH -10% มองเป็นจุดทยอยซื้อที่ดีอีกครั้ง และมี Valuation Discount มี PER 18F อยู่ที่ 30x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 36x upside เปิดกว้าง 32% ในขณะที่พื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นรพ.พรีเมียร์ที่เน้นรักษาโรครุนแรง มี GPM, EBITDA margin สูงสุดในกลุ่ม รพ.
Catalyst: เข้าสู่ช่วงฤดูฝนเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มร.พ. + คาด 3Q18F เป็นไตรมาสดีสุดของปี และเป็นกลุ่มที่เหมาะสมยามตลาดยังผันผวน
BDMS (TP18F 29*): Support 25.0/24.5 Resistant 26.5/27.25
Theme: Domestic play
Earnings Outlook: คาดกำไรปี 18F-20F +17% CAGR (2018 +21% y-y) จากแนวโน้มผู้ใช้บริการ OPD และ IPD เพิ่มขึ้น หนุนทั้งรายได้และอัตรากำไร และระยะสั้นคาด 2Q18F Norm profit +25% y-y จากจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มและภาระดอกเบี้ยจ่ายลด
Valuation: เป็น Defensive play ที่ดี ในภาวะที่ตลาดผันผวน โดยมี PER 18F 41x มี Premium กว่ากลุ่มฯจากเครือข่ายรพ.ครอบคลุมและแบรนด์แข็งแกร่ง ดึงดูดทั้งผู้ใช้บริการและแพทย์มือดี
Catalyst: Momentum กำไรดี โดย 2Q18F ดี และคาดเป็นจุด Peak ต่อใน 3Q18F + เป็น Big cap ในตลาดที่กำไรยังเติบโตในระดับที่สูงมาก
BCH (TP18F 17.7*): Support 15.9/15.4 Resistant 16.4/16.8
Theme: Domestic Play
Earnings Outlook: คาดกำไรสุทธิ 2Q18F ที่ 223 ล้านบาท +29%y-y +4%q-q เติบโตดีสุดในกลุ่มฯ เนื่องจากรายได้เติบโตดี จากอานิสงส์ของสภาพอากาศและเกิดโรคระบาด กอปรกับการขยายพื้นที่ให้บริการศูนย์รักษาเบาหวานที่เท้าของ รพ.WMC มีผลตอบรับดีจากลูกค้าต่างชาติ ส่งผลต่อ Intensity ค่ารักษาโรคยากเพิ่มขึ้น และคาดว่า Gross margin และ EBITDA margin ดีขึ้น y-y และ q-q เป็น 32.8% และ 26% ตามลำดับ
Valuation: ราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับ 37 เท่า สูงกว่ากลุ่มที่ 36 แต่ยังเหมาะสมจากอัตราการเติบโตที่สูง 18%CAGR 18F-20F
Catalyst: คาดกำไรสุทธิ 2Q18F เติบโตดีสุดในกลุ่มฯ + เข้าสู่ช่วงฤดูฝนเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มร.พ.
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
Assistant Strategist : Sirapada Punyavansiri
OO10964