- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 12 September 2014 15:05
- Hits: 2025
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังผันผวนแต่คาดว่ายังมีลุ้นไต่ขึ้นได้อีก จึงเน้นขายช่วงบวก!!
กลยุทธ์ : ถึงแม้ว่าเมื่อวานนี้ SET จะยังแกว่งผันผวนและย้อนกลับลงปิดลบ แต่ก็ถือว่ามีลักษณะแกว่งทรงตัวได้ดี ทำให้ FSS คาดว่าดัชนีจะสามารถทรงตัวต่อเนื่องได้ และยังมีสิทธิไต่ระดับกลับขึ้นไปได้อีกครั้งในสัปดาห์หน้า เพื่อลุ้นโอกาสขยับขึ้นหา 1600 จุด(+/-) ได้ตามคาด ดังนั้นจึงยังแนะนำให้รอทยอยขายทำกำไรในช่วงบวกได้เช่นเดิม แต่ยิ่งเข้าใกล้หรือสูงกว่า 1600 จุดยิ่งต้องระวังการกลับไปปรับตัวลงในระดับ 100-200 จุดไว้ด้วย จึงควรเทรดดิ้งให้น้อยลงเพื่อลดความเสี่ยง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : CPF, KKP, TPIPL(short)
แนวโน้ม : เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาเคลื่อนไหวเป็นลบอีกครั้ง หลังนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง เนื่องจาก ปธน.สหรัฐออกแถลงการณ์ว่าจะจัดการกับกลุ่ม IS ในซีเรีย และ EU เตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่กับรัสเซียตั้งแต่วันนี้(12 ก.ย.) รวมทั้งยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการรายสัปดาห์ที่สูงกว่าคาดด้วย อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายดัชนีดาวโจนส์ยังสามารถไต่ระดับกลับมาปิดลบเพียงเล็กน้อยได้ ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดทำการไม่ได้เป็นลบมากนัก และมีหลายแห่งที่ยังสามารถแกว่งตัวด้านบวกได้อยู่ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้แม้ว่าจะยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบ แต่ก็ถือว่าอยู่ในลักษณะทรงตัวได้ดี แสดงถึงแรงซื้อที่ยังมีอยู่พอควร ทำให้ FSS คาดว่า SET จะปรับตัวลงในกรอบที่ยังไม่ลึกมากนัก และมีลุ้นโอกาสไต่ระดับกลับขึ้นไปหาระดับดัชนีเป้าหมายแถว 1600 จุด(+/-) ได้อีก โดยอาจจะมีแรงซื้อเก็งกำไรเพื่อรอลุ้นผลประชุมเฟดในวันที่ 16-17 ก.ย. นี้เข้ามาหนุนได้บ้าง
แนวรับ 1579-1577 , 1572-1570 จุด แนวต้าน 1585-1587 , 1590-1592 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคดต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$97.3 ล้าน อินโดนีเชีย US$50.8 ล้าน ไต้หวัน US$52.4 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$6.7 ล้าน ไทย US$5.4 ล้าน และเวียดนาม US$1.6 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย Flow น่าจะไหลออกต่อแต่เบาบาง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) กฏเกณฑ์ของโรงไฟฟ้าใหม่จะเข้มขึ้นแต่หุ้นยังน่าสนใจ เมื่อเร็วๆนี้กพช.ได้วางหลักเกณฑ์การรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มใหม่ ให้ส่วนต่างไฟฟ้าตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่แท้จริง ( Feed in tariff) ในอัตรา 5.66 บาท/หน่วย ระยะเวลา 25 ปี จากเดิมที่กำหนด adder 6.50 บาท/หน่วย ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชน 800 เมกะวัตต์ให้ยกเลิก และเปลี่ยนเป็นผลิตไฟฟ้าในหน่วยงานราชการและสหกรณ์ชุมชนแทน กำหนด Feed in tariff 5.66 บาท/หน่วยเช่นกัน บริษัทก่อสร้างโรงไฟฟ้ายังได้ประโยชน์เช่นเดิมเช่น GUNKUL, DEMCO, SOLAR แต่มีเพียง GUNKUL ที่ราคาหุ้นยังมี upside
(-) กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีไม่น่าสนใจ ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลงต่ำสุดในรอบ 16 เดือน น้ำมันดิบเบรนท์และดูไบต่ำสุดในรอบ 17 เดือน จากเศรษฐกิจที่อ่อนแอในยุโรปและจีน ราคาน้ำมันดิบใน 3Q14 ที่ลดลงถึง 14% QTD ทำให้เราคาดว่ากลุ่มโรงกลั่นจะมีผลขาดทุนจากสต็อกประมาณ US$12/บาร์เรล เทียบกับ 2Q14 ที่มีกำไร US$4-5/บาร์เรล PTTEP จะอ่อนไหวที่สุดกับราคาน้ำมัน โดยทุกๆ US$10/บาร์เรลที่เปลี่ยนไป จะทำให้ EPS เปลี่ยนไป 15% รองลงมาคือ PTT (12%), PTTGC (11%), BCP (3%), TOP (3%), ESSO (2%) เราคิดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีไม่น่าสนใจระยะนี้ นอกจากผลประกอบการ 3Q14 ที่แย่ หุ้นหลายตัวก็เต็มหรือใกล้เต็มมูลค่าแล้ว สำหรับ Sector ขนาดใหญ่ กลุ่มแบงก์และที่อยู่อาศัยน่าสนใจกว่า
(+) TMB วานนี้ Moody’s ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือสู่ระดับ Baa2/Prime-2 จาก Baa3/Prime-3 คงแนวโน้ม ‘มีเสถียรภาพ’ อันดับเครดิตที่ Baa2 เท่า BAY แต่น้อยกว่าแบงก์ใหญ่ที่อยู่ที่ Baa1 อยู่ 1 ขั้น การเพิ่มเครดิตช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของตราสารหนี้ที่ออกใหม่ลดลง 0.25% แต่ยังไม่เห็นผลในหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ TMB กำลังขายอยู่ในขณะนี้ แม้ข่าวนี้จะเป็นบวกแต่ราคาหุ้นแพงกว่าพื้นฐานปี 2015 ที่ 2.90 บาท ในแง่พื้นฐานจึงแนะนำขาย แต่หากนักลงทุนจะเก็งกำไรเรื่อง M&A ราคาไม่ควรเกิน 3.08-3.38 บาท
(+) AP ทำเซอร์ไพรส์โดยการจ่ายปันผลทั้งที่ปกติจะจ่ายปีละ 1 ครั้ง โดยจ่ายเป็นหุ้นในอัตรา 10:1 และเงินสด 0.02 บาท/หุ้น (XD 20 ต.ค.) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขาย เราคาดว่าบริษัทจะจ่ายอีก 0.27 บาท/หุ้นสำหรับกำไรในปีนี้ รวมเป็นปันผลทั้งหมด 0.39 บาท/หุ้น คิดเป็น yield 5.2% สูงที่สุดในกลุ่ม ขณะที่ PE ปี 2015 ต่ำเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มที่ 8.9 เท่า ยอด Presales 8M14 ทำได้ 62% ของเป้าทั้งปี น่าจะทำตามเป้าได้ แนะนำซื้อ เป้าหมายปี 2015 ที่ 8.45 บาท และ dilute เป็น 7.70 บาทหลังจ่ายหุ้นปันผล
(0) TISCO เป็นธนาคารแรกที่รายงานสินเชื่อเดือน ส.ค. ซึ่งยังลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 อีก 1.2% M-M ทำให้งวด 8M14 หดตัว 5.9% YTD จากการชะลอของยอดขายรถยนต์ ส่วนเงินฝากลงแรงต่ออีก 2.1% M-M สะท้อนว่ายังไม่มีแผนจะปล่อยสินเชื่อในอัตราเร่งในระยะนี้ แต่เน้นการบริหารส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยแทน ระยะสั้นไม่มีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น แนะนำซื้อเพราะ downside ของธุรกิจต่ำมาก เป้าหมายปี 2015 ที่ 57 บาท
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดในกรอบแคบท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนโดยได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวว่าจะจัดการกับกลุ่ม IS ในซีเรีย
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบวานนี้โดยตลาดกังวลต่อการกระทำของสหรัฐฯต่อกลุ่ม IS นอกจากนี้ประเด็นเรื่องการแยกตัวของสก็อตแลนด์ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดัน
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมมีทั้งบวกและลบจากบรรยากาศการลงทุนที่ไร้ปัจจัยหนุน โดย นักลงทุนจับตาดูตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนที่จะประกาศในช่วงสุดสัปดาห์
ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าลงต่อเนื่องอีกเล็กน้อย ล่าสุดปรับตัวในกรอบ 32.13-32.30 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. พุ่งขึ้น 1.16 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 92.83 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังชาติตะวันตกจะมีการโจมตีซีเรียซึ่งอาจทำให้เกิดการเผชิญหน้ากับรัสเซียมากขึ้นและส่งผลต่ออุปทานของน้ำมันโลก
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ร่วงลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันอีก 6.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,239.00 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ยังแข็งค่ารวมถึงความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ลดลง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
12 ก.ย. - ไทย: รัฐบาลแถลงนโยบายต่อสนช.
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ส.ค.)
13 ก.ย. - จีน: Industrial Production, ยอดค้าปลีก (ส.ค.)
15 ก.ย. - สหรัฐ: Industrial Production (ส.ค.)
15-22 ก.ย. - ไทย: ธนาคารรายงานสินเชื่อ (ส.ค.)
16-17 ก.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
17 ก.ย. - ไทย: กนง.ประชุม, ยอดขายรถ (ส.ค.)
18 ก.ย. - ไทย: RWI เริ่มเทรด (ราคา IPO 1.60 บาท)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ส.ค.)
22 ก.ย. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ส.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.)
23 ก.ย. - จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ก.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ก.ย.)
24 ก.ย. - ไทย: ดุลการค้า (ส.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852