- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 09 July 2018 16:26
- Hits: 1392
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดเกิด Technical rebound นำโดยแรงซื้อในกลุ่ม Domestic อย่างกลุ่มธนาคาร SCB, KBANK, BBL กลุ่ม ICT เช่น TRUE, ADVANC กลุ่มก่อสร้าง STEC กลุ่มค้าปลีกอย่าง BJC, CPALL และมีแรงซื้อคืนใน BEAUTY ภายหลังผู้บริหารแจ้งตลาดเตรียมซื้อหุ้นคืน สิ้นวัน SET กลับมาปิดที่ 1,614.5 จุด (+13.3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 6.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.5 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 1,706 ล้านบาท และเปิดสถานะ Short SET50 index future ที่ 2,316 สัญญา
Investment theme
สงครามการค้าโลกเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ สัปดาห์นี้จับตาการ Preview ผลประกอบการ : เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐแถลงขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า 25% ในสินค้า 818 รายการรวมมูลค่า 3.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ นำโดย Pumps, Turbine ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรในอุตสาหกรรมหนักต่างๆ ในขณะที่จีนก็ตอบโต้กลับด้วยการขึ้นภาษีในวงเงินเท่ากันในสินค้าเกษตรเช่นถั่วเหลือง,อุตสาหกรรมการบิน, ผักผลไม้และอื่นๆ และในวันที่ 24 ก.ค.และ 31ก.ค.นี้ สหรัฐจะมีการทำประชาพิจารณ์เพื่อขึ้นภาษีอีก 284 รายการ วงเงิน 1.6 หมื่นล้านเหรียญ (รวม 5.0 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) โดยนักวิเคราะห์คาดผลกระทบต่อ GDP โลกจะกระทบประมาณ 0.4% ในปี 2019 ผ่านการค้าโลกที่ลดลงประมาณ 4.0% โดยเบื้องต้นเราประเมินว่าหากไม่สามารถหาทางออกได้ ในระยะยาวจะส่งผลให้เงินเฟ้อในประเทศมหาอำนาจดังกล่าวและประเทศอื่นๆสูงขึ้นผลักดันจาก Cost push inflation แต่ GDP หดตัวซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและถือเป็นความเสี่ยงต่อนโยบายการเงินโลก ในขณะที่เรายังคงแนะเลี่ยงการลงทุนในหุ้นที่ได้รับปัจจัยกระทบจากต่างประเทศเช่นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
Investment Theme: สัปดาห์นี้เราประเมินกรอบ SET บริเวณ 1,630 จุด +/- โดยมองว่าตลาดได้ Price in ประเด็นดอกเบี้ยสหรัฐผ่าน Dotplot และสงครามการค้าไปแล้วส่วนหนึ่ง (บนวงเงิน 3.4-5.0 หมื่นล้าน) ในขณะที่ดอลลาร์เริ่มกลับมาชะลอการแข็งค่า ถือเป็น Sentiment บวกอ่อนๆต่อการลงทุน โดยแนะจับตาการ Preview ผลประกอบการ 2Q18 นำโดยกลุ่มธนาคาร เราคาดกำไร 4.0 หมื่นล้านบาท (+4%YoY, -11%QoQ) และกลุ่มอื่นๆ พร้อมคงคำแนะนำ ทยอยสะสมกลุ่ม Domestic อย่างก่อสร้าง (CK, STEC) กลุ่มธนาคาร BBL กลุ่มค้าปลีก BJC กลุ่มอสังหา GOLD
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา – ธนาคารกลางอินเดียปรับขึ้น Repo rate ครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ 6.25% / รัฐมนตรีอิหร่านเผย Trump บิดเบือนราคาน้ำมันโลก /นาย Davis รมว.ฝ่ายกิจการอังกฤษประกาศลาออกจากตำแหน่ง คาดเป็นผลจาก Brexit / Dollar index กลับมาอ่อนค่าที่ 93.9 เหรียญ / ค่าการกลั่นกลับมายืนในระดับ 5.50 เหรียญ
Stock pick : N/A
Trading idea – แนะเก็งกำไร STEC (ราคาเป้าหมาย 25.0 บาท) / GOLD (คาดกำไรทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องใน 2 ปีข้างหน้า) / ทยอยสะสม BCP ปัจจุบัน Downside จำกัด ปันผล 5.6% คาดค่าการกลั่นเริ่มมี Downside จำกัดคาดหวังการปรับตัวขึ้นใน 3Q แนะซื้อราคาเป้าหมาย 44.0 บาท / เก็งกำไร CPF คาดงบ 2Q พลิกเป็นกำไร / ชะลอการลงทุน TASCO
Technical View
ไม่หลุด 1585 ยังคาดหวังการ Rebound ระยะสั้น-กลาง : ดัชนีแกว่งผันผวนตลอดวัน โดยในช่วงเช้า ปรับตัวลงแรงทดสอบบริเวณ Low 11585 ก่อนจะมีแรงซื้อกลับจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก ธนาคารและสื่อสาร ทำให้ภาพระยะสั้นถึงกลางคาดหวังการ Rebound ทดสอบแนวต้าน 1630 และ 1645 แต่เนื่องจากแนวโน้มหลักยังเป็นขาลง จึงแนะนำให้เพียง Trading เล่น Rebound และพิจารณาแรงขายตามแนวต้านเป็นขั้นๆ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น : Trading ในกรอบ 1600-1630 หาก Rebound ยังมองเป็นจังหวะขาย และหากหลุด 1600 แนะนำ Stop Loss 2) ไม่มีหุ้น : เล่น Rebound ในกรอบ 1600-1630 เน้นขึ้นขาย-ลงซื้อ และเล่นจบในวัน
แนวรับ : 1600, 1610 แนวต้าน : 1630, 1645
Keep an eye on...
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาปัญหา Trade war / 10 ก.ค. จีนรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ และ 13 ก.ค.รายงานตัวเลขการค้า
ปัจจัยในประเทศ: สัปดาห์หน้าติดตามการรายงานผลประกอบการ 2Q61 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์
หุ้นเทคนิค:
BDMS (B 25.00-25.50, Tp 27.00// 29.00, Cut 24.70)
IVL (B 53.00, Tp 57.50, Cut 51.50)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO10957