- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 06 July 2018 18:04
- Hits: 11174
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Short term rebound ควรจำกัดการเล่นรอบ
เมื่อวาน หุ้นกลาง-เล็ก ลงแรงหลายตัว คาดว่าแรงขายตัดขาดทุนหุ้นกลางเล็ก น่าจะเบาลงในวันนี้ และ คาดจะมีรีบาวด์สั้น แต่การฟื้นตัวคงต้องอาศัยระยะเวลา และ รอให้ผลการดำเนินงาน 2Q18 พิสูจน์ความน่าสนใจ ในการกลับเข้าลงทุน อีกครั้ง
ขณะที่หุ้นรายตัวและดัชนีฯ เมื่อวานลงวันเดียว แทบจะเอาคืน ที่ขึ้นมาตลอด 3 วันทำการ หุ้นบางตัวลงไปทำนิวโลว์ ด้วยภาวะการลงทุนในตลาดแบบนี้ เราแนะนำ Wait and see ต่อไปก่อน รอให้แรงขายต่างชาติเบาลงก่อน ซึ่งต้องรอให้ เลยหลังวันที่ 6 ก.ค. ไปแล้วและไม่มีมาตรการตอบโต้การค้าเพิ่มเติมอีก หรือ มีข่าวในเชิงทางลงของปัญหาการค้า เช่น WTO เบรกสหรัฐฯ, สภาสูงสหรัฐฯบรรลุข้อ กม. ยับยั้ง อำนาจ ปธน.เรื่องการออก กม.การค้า หรือ ปธน.ทรัมป ยอมถอยเอง ซึ่งทางลง ทั้งหมดนี้ เราไม่สามารถคาดผลลัพท์ได้เลยว่า Timing อยู่ช่วงไหน...
กลยุทธ์ จึงยังเน้น การรอความชัดเจน หรือ ยอมซื้อแพง เมื่อปัญหาการค้าโลกคลี่คลาย ส่วนหุ้นแนะนำไปก่อนหน้านี้ (ดูในตารางด้านหลัง) ส่วนใหญ่ ถ่วงน้ำหนักไปกับกลุ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศ เช่น อสังหาฯ และ หุ้นที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับ ต่างชาติ ยังเชื่อว่าโดยรวมให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด แนะถือต่อไปได้ แต่การจะเพิ่มหุ้นนั้น เราจะค่อยๆ ดูไปที่ละน้อยๆ
What to watch :
(+/-) การเรียกเก็บภาษีบนสินค้าหลายร้อยรายการ ระหว่าง จีน-สหรัฐฯ ล๊อตแรกวงเงินราว US$3.5 หมื่นล้าน จะมีผล 6 ก.ค.นี้ / ต้องตามดูต่อไปว่าจะมี รายชื่อสินค้าเพิ่มเติมอีกหรือไม่หลังจากวันที่ 6 ก.ค.นี้ไป ทั้งนี้วงเงินที่ตั้งกันไว้ในตอนแรก อยู่ที่ US$5 หมื่นล้าน ซึ่งถ้าไม่มีสินค้าถูกเก็บภาษี ตอบโต้ กันเพิ่ม เชื่อว่า ตลาดหุ้นส่วนใหญ่จะปรับขึ้น รับข่าวเชิงบวก นี้ แต่เรายังไม่วางใจ แนะนำ ยอมซื้อแพงสำหรับ "หุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก" เมื่อ Trade tension คลี่คลายลงจริง
หุ้นแนะนำ
พักเงินไว้ในกอง IFF อย่าง DIF หรือ JASIF เพื่อรอดูพัฒนาการ "Trade tension"
รายงานวันนี้
GRAMMY : A wobbly, unsteady ride
เรามองว่าเรตติ้งของช่อง ONE ยังไม่เสถียรมีการปรับตัวขึ้นลงตามความนิยมของรายการบนช่อง ประกอบกับความนิยมละครของคู่แข่ง อย่างไรก็ตามการลงคอนเทนต์ใหม่ๆ ยังต้องใช้เวลาหนุนตัวเรตติ้งให้ปรับขึ้นไป และมาพร้อมกับต้นทุน สำหรับช่อง GMM25 เรตติ้งยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากเน้นกลุ่มผู้ชมวัยรุ่น ซึ่งมีพฤติกรรมในการรับชมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากกว่า ทำให้เรามองว่าการเจรจาค่าโฆษณาค่อนข้างยาก อย่างไรก็ตามเรามองว่ากำไรใน 2Q18 น่าจะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ QoQ จากปัจจัยด้านฤดูกาลของธุรกิจสื่อ เรายังคงคำแนะนำ ถือ
DDD : Another victim of the Magic Skin case
เรามองว่า DDD เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากประเด็น Magic Skin อย่างไรก็ตามลูกค้าในประเทศเริ่มกลับมาฟืนตัวตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. แต่เรามองว่าลูกค้าในประเทศจีนจะใช้เวลาในการฟื้นตัวยาวกว่านั้น เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 2018 ลง 8% สะท้อนผลกระทบดังกล่าว และปรับราคาเป้าหมายจาก 103 บาทเป็น 63 บาท เรามองว่าตลาดตอบรับกับประเด็นดังกล่าวมากเกินไป และเรายังคาดกำไรปีนี้เติบโต 51% เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ
TU : Improved core earnings despite a one-off provision in 2Q18
เราปรับประมาณการณ์กำไรปี 2018 ลง 29% เหลือ 3.92 พันล้านบาท จากคาดจะเกิดผลพิลกขาดทุนใน 2Q18 ราว 540 ล้านบาท (ซึ่งเป็นกรณีแย่สุด) จากคดีที่ Walmart และผู้ประกอบการอีก 64 ราย ฟองTri-U and และ Bumble Bee Foods, StarKist & Co รวมไปถึง 54 ผู้ค้ารายใหญ่ ในข้อหา กำหนดราคาไม่สอดคล้องกลไลตลาด (ฮั้วราคา) โดยเราคาดว่า บริษัทฯ จะทำการตั้งสำรองไปเลยใน 2Q18 ราว 1.6 พันล้านบาท ส่วนกำไรหลัก เราคาด ที่ 1.11 พันล้านบาท -17% y-y แต่ +768% q-q โดยกำไรที่โต q-q แรง เป็นผลจาก อัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับขึ้น บวกกับ ฤดูกาลขายที่ดี ส่วนแนวโน้ม 3Q 18 คาดว่ากำไรสุทธิจะกลับปกติ และกำไรหลัก มีแนวโน้มจะดีกว่า 2Q18 จากอัตรากำไรขั้นต้น จากคาดราคา ทูน่าจะยืนที่ US$1.5-2 พัน ต่อ ตัน ขณะที่ราคาขายมีโอกาสจะปรับขึ้นในยุโรป และธุรกิจกุ้ง น่าจะดีขึ้นจาก การส่งออกไปตลาดใหม่อย่าง จีน เกาหลีใต้ และ ออสเตรเลีย เราคง คำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 22.5 บ. (Target price maintain)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO10913