- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 06 July 2018 17:18
- Hits: 3322
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Stay in Domestic and Defensive Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงแรงกว่าที่เราคาดมากโดยปิดลบถึงราว 28 จุดและลงมาทดสอบระดับ 1,600 จุดอีกครั้ง แรงขายค่อนข้างกระจายไปทุกกลุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานและปิโตรฯ โดยแรงขายหลักๆยังมาจากฝั่งรักลงทุนต่างชาติราว 1.3 พันลบ.ซึ่งถือว่าบางตาลงจากช่วง 3 วันก่อนหน้า ขณะที่รายย่อยเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ 1.8 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index ยังมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways Down จากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่สดใสนัก โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงซึ่งยังกดดันกลุ่มพลังงานต่อ ขณะที่ทรัมป์ยืนยันว่าจะเดินหน้าเก็บภาษีวงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 11.01 น.วันนี้ตามเวลาไทย ซึ่งจีนจะตอบโต้อย่างทันที ส่วนอีก 1.6 หมื่นดอลลาร์คาดว่าจะเก็บในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ทำให้กระแสเงินทุนคาดว่ายังคงไหลออก เราจึงยังมองว่าหุ้นในหุ้นกลุ่ม Domestic และ Defensive ที่จ่ายปันผลสูงน่าจะเคลื่อนไหวได้แข็งแรงและปลอดภัยกว่าตลาด
กลยุทธ์ : ยังเน้นพักเงินในหุ้น Domestic และ Defensive ที่จ่ายปันผลสูง
หุ้นเด่นเดือนก.ค. : BANPU, CPF, EPG, PTTEP, TISCO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$326ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$202ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$41ล้าน ไม่มีประเทศใดที่มีเม็ดเงินไหลเข้า แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคแต่น่าจะชะลอลงหลังสหรัฐส่งสัญญาณการยุติเรียกเก็บภาษีรถยนต์จากยุโรป แต่การตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงต้องจับตาอยู่
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> INTUCH <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 67.50 บาท
เป็นหุ้นที่น่าสนใจในช่วงตลาดขาลง เพราะ Defensive ทั้งตัวธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับต่างประเทศ และในเชิง Valuation ที่ Discount จาก NAV ของ ADVANC ถึง 25% รวมถึงยังมีค่าเบต้าต่ำแค่ 0.67 เท่า และมีปันผลสูงเฉลี่ย 5-6% ต่อปี
ราคาหุ้นเกิดสัญญาณ Golden Cross ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันและ 10 วัน ถือเป็นโมเมนตัมเชิงบวกสำหรับการปรับตัวขึ้นต่อในทางเทคนิค
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) TU คาดกำไรสุทธิ 2Q18 จะอยู่ที่ 1,047 ลบ. (+20.5% Q-Q, -25.8% Y-Y) ภาพรวมธุรกิจหลักใน 2Q18 เริ่มดูดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจปลาทูน่าที่ราคาเริ่มปรับขึ้นและทรงตัวได้ ทำให้คาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัว Q-Q แต่ในแง่ Y-Y อาจจะยังปรับลงเพราะราคาปลาทูน่าที่ลดลงและเงินบาทแข็งค่า แต่ไตรมาสนี้อาจมีการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพิเศษก้อนใหญ่ เกิดจากการยอมความกับลูกค้า 65 รายในสหรัฐฯ ราว US$30 – US$50 ล้าน ซึ่งกรณี Worst Case หากมากถึง US$50 ล้าน อาจทำให้ 2Q18 พลิกเป็นขาดทุน แต่ถือเป็น One Time และคาดบริษัทจะยังรักษานโยบายปันผลงวด 1H18 ไม่ต่ำกว่าปีก่อนในอัตรา 0.32 บาท/หุ้น คิดเป็น Yield 2.2% และคาดกำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่องใน 3Q18 ที่เป็น High Season ของธุรกิจ แต่จากผลงาน 1H18 ที่ไม่สดใส เราจึงปรับลดกำไรปีนี้ลง 16.7% เหลือ 4,790 ลบ. (-20.4% Y-Y) และปรับลดราคาเป้าหมายปีนี้เป็น 17 บาท จากเดิม 21 บาท แนะนำทยอยซื้อ
(+) AP ยอด Presales 2Q18 อยู่ที่ 7.25 พันลบ. (-28% Q-Q, -36% Y-Y) แบ่งเป็นแนวราบ : คอนโด = 65 : 35 ซึ่งคาดว่าเป็นจุดต่ำสุดของปี เนื่องจากมีการเปิดแนวราบเพียง 3 โครงการ มูลค่า 3.1 พันลบ. หรือ 5% ของแผนเปิดตัวทั้งปี สำหรับยอดขาย 1H18 คิดเป็น 51.5% ของเป้าทั้งปีที่ 3.35 หมื่นลบ. ขณะที่การเปิดตัวจะเร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจนใน 2H18 รวมมูลค่าสูงถึง 5.4 หมื่นลบ. (มากกว่า 5 เท่าของ 1H18) ทำให้เรามองว่ามี Upside ต่อเป้า Presales ของบริษัทราว 20-25% และมีโอกาสที่เราจะปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น คงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 9.70 บาท
(0) SC ยอด Presales 2Q18 ชะลอตัวตามที่เราคาด ที่ 3,573 ลบ. (-2%Q-Q, -12% Y-Y) เนื่องจากเลื่อนเปิดโครงการใหม่ออกไป 4 แห่ง มูลค่า 4.5 พันลบ. โดยแบ่งเป็นแนวราบ : คอนโด = 82 : 18 ซึ่งถือว่าน่าพอใจ หากเทียบกับการเปิดแนวราบเพียง 1 แห่ง มูลค่า 260 ลบ. สำหรับยอดขาย 1H18 คิดเป็น 43% ของเป้าทั้งปีที่ 1.7 หมื่นลบ. และจะเร่งตัวขึ้นใน 2H18 จากมูลค่าการเปิดโครงการใหม่ถึง 1.6 หมื่นลบ. มากกว่า 6 เท่าของ 1H18 ซึ่งส่วนใหญ่เปิดใน 3Q18 ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PE2018 เพียง 7.4x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 9x คงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 4.80 บาท พร้อมคาดอัตราเงินปันผลราว 5% ต่อปี
(-) ASAP ราคาหุ้นร่วงลงแรงเมื่อวานนี้ ไม่มีข่าวลบอะไรต่อตัวบริษัท ผู้บริหารยืนยันการทำธุรกิจยังเป็นไปตามปกติ เราคาดว่าแนวโน้มกำไร 2Q18 น่าจะเพิ่มขึ้น Q-Q มาอยู่ที่ราว 38-40 ลบ. (+8-14%Q-Q, +12-18%Y-Y) เนื่องจาก 1.จำนวนรถเช่าที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะรถในกลุ่มโลจิสติกส์ และรถเช่าระยะสั้นตามแหล่งท่องเที่ยว 2. จำนวนการขายรถมือสองจากการหมดอายุสัญญาเช่าและราคาขายที่ดีขึ้น ส่วน ASAP Auto Park จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ก.ค. นี้ (ตอนนี้ได้เปิดอย่างไม่เป็นทางการแล้ว) ซึ่งน่าจะทำให้กำไร 2H18 จะแข็งแกร่งขึ้น ในเบื้องต้นยังคงคาดการณ์กำไรปี 2018 ที่ 204 ลบ. +35%Y-Y คงคำแนะนำ ซื้อ คงราคาเหมาะสมที่ 8 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
6 ก.ค.- สหรัฐ: เริ่มเก็บภาษีนำเข้าจากจีน 818 รายการ US$3.4 หมื่นล้าน และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (มิ.ย.)
10 ก.ค.- จีน: อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.)
11 ก.ค.- ไทย: TISCO ผลประกอบการ 2Q18
12 ก.ค.- ไทย: สนช.นัดลงมติเลือก กกต. ชุดใหม่
(+) ตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นหลังจากรายงานของ FED ในเดือนมิ.ย. ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ แม้ว่าจะมีความกังวลในเรื่องสงครามทางการค้าอยู่บ้างก็ตาม
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังสหรัฐอาจยกเลิกมาตราการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากทางยุโรป
(+) ตลาดเอเชียปรับตัวขึ้นหลังจากตลาดเริ่มเข้าสู่ช่วง Oversold ทำให้เริ่มมีบางกองทุนที่เริ่มกลับเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามมาตราการขึ้นภาษีระหว่างสหรัฐและจีนที่จะเริ่มเก็บในวันนี้
() ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวอยู่ที่บริเวณ 33.10-33.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปรับตัวลง 1.20 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 72.94ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวขึ้น สวนทางกับที่ตลาดคาด นอกจากนี้ การเจรจาเรื่องสนธิสัญญาระหว่างอิหร่าน ยุโรป รัสเซีย และจีน มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จึงทำให้ตลาดคลายความกังวลลง
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 5.30 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1258.80ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO10905