- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 02 July 2018 17:16
- Hits: 2102
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ฟื้นตัวกรอบจำกัด ข่าวสารต่างประเทศดีขึ้นเล็กน้อย
KGI คาด SET Index วันจันทร์ (วันทำการแรกของไตรมาส 3/2561) ปรับขึ้นกรอบจำกัด... คาดว่าแรงขายจากต่างชาติจะชะลอตามสัญญาณที่ดีขึ้นหลายประการ เช่น i) ค่าเงินหยวนของจีนและค่าเงินในเอเชียส่วนใหญ่รวมทั้งค่าเงินบาทแข็งขึ้นเช้านี้ และดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ อ่อนลงผนวกบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย สะท้อนความกลัวในตลาดการเงินโลกที่ลดลง ii) ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสข่าวเกี่ยวกับสงครามการค้า/การลงทุนเป็นบวก หลังเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าสหรัฐฯ จะไม่ออกมาตรการคุมการลงทุนของ บ.ต่างประเทศเพิ่มเติม และก็ยังไม่มีการประกาศใดๆ ออกมาเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจีนในส่วน 1.4 หมื่นล้านเหรียญฯ (เพิ่มเติมจากที่จะเก็บภาษีจีนแน่นอนแล้ว 3.6 หมื่นล้านเหรียญฯ) ขณะที่ฝั่งประเทศจีนดูอ่อนลงในเชิงเจรจาการค้าด้วย เมื่อวานทางการจีนประกาศลดภาษีศุลกากรสินค้าอุปโภคบริโภค (จาก 15.7% สู่ 6.9%) รถยนต์ (จาก 20-25% สู่ 15%) และชิ้นส่วนยานยนต์ (จาก 8-25% สู่ 6.0%) น่าจะทำให้แรงเสียดทานกับสหรัฐฯ ลดลงอีก ด้านปัจจัยภายใน ตัวเลขเศรษฐกิจไทย พ.ค. ที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ ชี้ถึงการเติบโตในวงกว้างของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน น่าจะยืนยันภาพจีดีพีไตรมาส 2/2561 ที่แข็งแกร่ง (อ่านเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทย เช้าวันนี้)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
Wait&See รอนิ่งๆ ค่อยซื้อ / รับเสี่ยงได้ เก็งกำไรหุ้นพลังงาน
ภาวะตลาดฯที่ผันผวนมากกว่าคาด สำหรับหุ้นที่เราแนะนำก่อนหน้าแล้วหลุดจุด Stop loss, Trailing stop หรือหลุดแนวรับสำคัญ นักลงทุนที่รับเสี่ยงได้ "น้อย" อาจพิจารณาขายตัดขาดทุน, ขายล๊อกกำไร ขึ้นมาก่อน (แต่ถ้ารับเสี่ยงได้ "มาก" อาจถือต่อ) แต่สำหรับตัวที่ยังไม่หลุดแนวรับสำคัญ เช่น BBL*, BANPU*, SGP*, PLANB* อาจถือต่อ (เราประเมินในเชิงพื้นฐานหุ้นกลุ่มที่เราเลือกมา ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกน้อย) และทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยแต่ต้องการที่พักเงินอาจพิจารณา Infrastructure fund / REIT ที่ปันผลสูง >7% ต่อปี เช่น WHART, DIF, CPNREIT เป็นต้น
i) หุ้น PBV < 1.5 เท่า & Piotroski F-score: เรา Screen หุ้นใน SET โดยใช้เกณฑ์ PBV ที่ต่ำกว่า 1.5 เท่า และข้อมูลจากงบการเงินล่าสุดคำนวณคะแนน Piotroski F-Score (โมเดลนี้จะวิเคราะห์ 3 มุมมองด้วยกันคือ Profitability, Leverage, และ Operating โดยจะมีคะแนนเต็ม 9 คะแนน) เพื่อหาหุ้นพื้นฐานดี และเราประเมินในมุมด้านปัจจัยพื้นฐานเข้าประกอบแล้ว ได้ดังนี้ BANPU* (PBV1.22x / F-score 7 คะแนน), TICON (PBV 1.2x / F-score 8 คะแนน), EGCO* (PBV 1.18x / F-score 8 คะแนน), SAT (PBV 1.37x / F-score 9 คะแนน), QH* (PBV 1.29x / F-score 6 คะแนน) สำหรับหุ้นกลุ่มนี้นักลงทุนอาจพิจารณา Wait&See รอ SET index เริ่มพักฐานได้ จึงเริ่มทยอยสะสม (เราประเมินแนวรับ SET index 1580 จุด และ 1560 จุด ตามลำดับ)
ii) หุ้นกลุ่มพลังงาน: (สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง) แนะนำ "เก็งกำไร" จากประเด็นน้ำมัน WTI ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 74.15 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่ราคาถ่านหินยังยืนสูงเกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน และราคาแก็ส LPG ล่าสุด (สัญญาส่งมอบเดือน ส.ค.) 581 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบปี เลือก BANPU* (แนวรับ 19.2 บาท / แนวต้าน 20.2 บาท / Stop loss 18.9 บาท), SGP* (แนวรับ 9.15 บาท / แนวต้าน 9.75 บาท / Stop loss 9.1 บาท), PTTEP* (แนวรับ 138 บาท / แนวต้าน 143.5 บาท / Stop loss 134 บาท)
หุ้นมีข่าว
(+) เบรกออกกฎหมายคุมค้าปลีก ผลศึกษาทีดีอาร์ไอชี้ชัดธุรกิจไม่ได้ผูกขาด (ไทยรัฐ) "พาณิชย์" ชูผลการศึกษาของทีดีอาร์ไอว่ารัฐไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายควบคุมค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ตามที่ สนช.เสนอ เผยการเติบโตไม่ใช่การผูกขาด แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่สอดคล้องพฤติกรรมผู้บริโภค ส่วนการดูแลร้านโชห่วยใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าได้
(+) IVL* ซื้อกิจการเช็ก-สโลวัก จ่อบุ๊กรายได้พันล.ดอลลาร์ (ทันหุ้น) IVL* เดินหน้าลงทุนไม่หยุด ล่าสุดเข้าซื้อธุรกิจผลิตสิ่งทอสำหรับยางในรถยนต์ในสาธารณรัฐเช็กและสโลวัก คาดแล้วเสร็จในครึ่งปีหลัง 2561 ดันกำลังการผลิต HVA เพิ่ม 57,000 ตันต่อปี และมีรายได้มากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562
(+) PTTOR เตรียมยื่นไฟลิ่งพ.ย.นี้ 'เทวินทร์’ ย้ำเข้าเทรดใน SET ไตรมาส 2 ปี 62 (ข่าวหุ้น) "เทวินทร์" ยัน PTTOR พร้อมเทรดใน SET ไตรมาส 2/2562 หลังคาดรับโอนกิจการจาก PTT* แล้วเสร็จ 1 ก.ค.นี้ และยื่นไฟลิ่งขายหุ้นภายใน พ.ย. 2561 พร้อมปัดตอบปัญหา GGC ทำวัตถุดิบคงคลังสูญหายมูลค่ากว่า 2,100 ล้านบาท
(-) GGC วัตถุดิบคงคลังหายเร่งตามคืนมูลค่า 2.1 พันล. (ทันหุ้น) GGC งานเข้า! หลังตรวจพบวัตถุดิบคงคลังขาดหายมูลค่า 2,100 ล้านบาท พร้อมเร่งตามคืน เชื่อไม่กระทบการดำเนินงาน และแผนการลงทุน ขณะที่ จิรวัฒน์ นุริตานนท์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ มีผลวันที่ 29 มิ.ย.
(+) SGP* ประกาศทุ่มงบ 1,400 ล้าน ตั้งบริษัทร่วมทุน รุกธุรกิจค้าก๊าซฯในบังกลาเทศ (ข่าวหุ้น) SGP* ทุ่มงบ 1.4 พันล้านบาท ตั้งบริษัทร่วมทุนรุกธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมในบังกลาเทศ มั่นใจช่วยผลักดันยอดขายเติบโตในอนาคต ชี้งบไตรมาส 2 แกร่ง รับอานิสงส์ราคาก๊าซ LPG พุ่ง-เงินบาทอ่อนค่า
(-) สหรัฐบีบไทยเปิดตลาดหมูแลก'จีเอสพี' (กรุงเทพธุรกิจ) "พาณิชย์" นำทีมเยือน สหรัฐร่วมฟังประชาพิจารณา ขู่ตัดสิทธิ จีเอสพีไทยแลกเปิดตลาดนำเข้าเนื้อหมู ปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดง หวั่นสูญรายได้ กว่า 1.7 หมื่นล้าน
(+) เปิดแผน'สหพัฒน์' 'เจ้าสัวบุณยสิทธิ์'สั่งลุยบิ๊กดาต้าดันรายได้โต 2% (ฐานเศรษฐกิจ) เปิดแผน "สหพัฒน์" เดินหน้าลงทุน ดันรายได้เติบโต 1-2% หลังทรงตัวมาเกือบ 3 ปี เผยแผนเตรียมรับผู้บริโภคยุคใหม่ นำบิ๊กดาต้าช่วยพัฒนาสินค้า หนุนร้านค้าธงฟ้าหวังใช้เป็นฐานกระจายสินค้า พร้อม MOU 4 ธุรกิจใหม่ทั้งนิตยสารแจกฟรี ร้านค้าแบรนด์เนมมือ 2 ตัวแทนจำหน่ายดาวเฮือง กรุ๊ป และแฟรนไชส์โรงเรียนอินเตอร์ฯจากอังกฤษ
(+) 'NPP' ปูพรมร้าน A&W เดินหน้าขยาย 100 สาขา เจาะกลุ่ม MRT ปั๊มยอด (ทันหุ้น) NPP ปล่อยหมัดเด็ดครึ่งปีหลัง ส่งแบรนด์ร้านอาหาร A&W เจาะกลุ่มผู้ใช้บริการ MRT สถานีบริการน้ำมัน และห้างสรรพสินค้า บอส "ศุภจักร ไตรรัตโนภาส" เดินหน้าขยาย 100 สาขาหวังสร้างผลงานเติบโตในอนาคต
(+) LOXLEY ลุ้นได้ค่าโง่เพิ่ม ศาลตัดสินเร็วสุด 3 เดือน (ข่าวหุ้น) ล็อกซเล่ย์ มีโอกาสได้เงินชดเชยเพิ่ม ศาลปกครองสูงสุดรับอุทธรณ์ตั้งแต่ 29 มิ.ย.61 หลังศาลปกครองกลางตัดสินให้สำนักงานสลากฯ จ่าย 1.4 พันล้านบาท แต่ถ้าส่งศาลสูงฯ มีสิทธิ์พลิกเป็น 6 พันล้านบาท พิจารณาเร็วสุด 3 เดือน ไม่เกิน 1 ปี
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
BBL* (เป้าพื้นฐาน 240 บาท) ประเมินแนวรับ 193.5 บาท / แนวต้าน 200 บาท (Stop loss 190 บาท)
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 7.95 บาท) ประเมินแนวรับ 6.0 บาท / แนวต้าน 6.4 บาท (Stop loss 6.0 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
PTTEP* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 142 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 2Q61 = 3.8 พันล้านบาท (-50% YoY และ -72% QoQ) ผลจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน (1Q61 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ฐานสูง) หากพิจารณาโดยตัดส่วนของรายการพิเศษออกไป EBIT 2Q61 จะโต +25% QoQ จากราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น +9% QoQ ด้วย Upside จากราคาเป้าหมายพื้นฐานที่จำกัด จึงแนะนำเพียง "ถือ"
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้ำหนักการลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มกำไรของกลุ่มฯในไตรมาสนี้จะอ่อนแอลงจาก รายได้ค่าธรรมเนียมที่คาดจะลดลง และการที่มีสัดส่วนของสินเชื่อที่มีอัตราผลตอบแทนต่ำเพิ่มเข้ามา ในภาพรวมคาด i) KBANK*, TISCO*, KTB* คาดจะมีการตัด LLP เพื่อชดเชยรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง ii) กลุ่มที่คาดกำไรจะลดลงแบบมีนัยสำคัญ ได้แก่ SCB* (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น และไม่มีการลด LLP), KKP* (คาดมีผลขาดทุนจากการลงทุน) โดยสรุปเลือก KBANK* และ TISCO* เป็นหุ้นเด่นในเชิงพื้นฐาน
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ต้าน 1599 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1599 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1599-1630 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1599 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1599-1580 จุด
แนวรับวันนี้: 1590/1580 แนวต้านวันนี้: 1599/1627
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
OO10662