- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 June 2018 16:22
- Hits: 1764
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Stay in Domestic and Defensive Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ตามคาดโดยช่วงเช้ามีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานหนุนให้ดัชนีปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุด อย่างไรก็ตามระหว่างวันยังมีแรงขายออกมาและทำให้ดีชนีย้อนลงมาปิดลบราว 5 จุด ณ สิ้นวันจากประเด็นการค้าที่ยังไม่แน่นอน แรงขายยังมาจากฝั่งนักลงทุนต่างชาติและบัญชีบล. 1.7 พันลบ.และ 1.2 พันลบ. ตามลำดับ ส่วนสถาบันในประเทศและรายย่อยเป็นฝ่ายซื้อต่อเนื่อง
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways Down จากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่สดใสนัก โดยระยะนี้ยังมีโอกาสก่อนตัวลงทดสอบระดับใกล้เคียง 1,600 จุด เนื่องจากประเด็นกดดันยังคงเป็นเรื่องของสงครามการค้า ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่คาดว่ายัง Overhang ดัชนีไปอีกพักใหญ่และกดดันให้กระแสเงินทุนยังอยู่ในทิศทางไหลออก เราจึงยังเน้นพักเงินในหุ้น Domestic และ Defensive
กลยุทธ์ : ยังพักเงินในหุ้น Domestic และ Defensive
หุ้นเด่นเดือนมิ.ย. : BGRIM, GLOBAL, MTC, PCSGH, TVO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$168ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$342ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$51ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$171ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคจากความกังวลต่อประเด็นสงครามการค้าของสหรัฐโดยเฉพาะกับจีน
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> EPG <<
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 12 บาท
ปีนี้ EPP (บรรจุภัณฑ์พลาสติก) จะดีขึ้นเพราะการแข่งตัดราคาลดลง Aeroflex (ฉนวนยาง) จะได้แรงหนุนจากโครงสร้างพื้นฐาน และ Aeroklas (ชิ้นส่วนรถยนต์) จะมีการออกสินค้าใหม่เพิ่ม อีกทั้ง ในระยะสั้นทั้ง 3 ธุรกิจจะได้ประโยชน์จากเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าด้วย
คาดกำไรปี 2019 (เม.ย. 18 – มี.ค. 19) ที่ 1,251 ลบ. +26% Y-Y และคาด +17% Y-Y ทำจุดสูงสุดใหม่ในปี 2020 ที่ 1,460 ลบ.
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ได้แรงหนุนจากทั้งมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ และรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ลดลงมากกว่าคาด อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับกรอบบนเดิมของ Brent แถว US$80/บาร์เรล ถือว่าเหลือ Upside อีกไม่มาก ประกอบกับบรรยากาศการลงทุนเช้านี้ไม่สดใส แรงบวกใน PTTEP และกลุ่มพลังงานตัวอื่นๆ จึงอาจน้อยกว่าเมื่อวาน
(+) กลุ่มขายสินค้าไอที ด้วยยอดนำเข้าสินค้าไอทีที่เร่งตัวขึ้นใน เม.ย.-พ.ค. 18 ที่เฉลี่ยเดือนละ 25% Y-Y ซึ่งมากกว่า 1Q18 ที่เพิ่มขึ้น 13% Y-Y ทำให้เรายังมั่นใจว่ากำไรสุทธิ 2Q18 ของผู้ขายสินค้าไอทีทั้ง SYNEX SIS COM7 และ IT จะออกมาโตสวย Y-Y ไม่แพ้ 1Q18 แรงหนุนหลักมาจากกำลังซื้อที่ฟื้น กระแสเกมมิ่ง การเร่งออกสินค้ารุ่นใหม่ของผู้ผลิต และการรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล เราคาดว่าแนวโน้มนี้จะคงอยู่ในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก หุ้นในกลุ่มนี้จึงมีโอกาสกลับมา Outperform ตลาด เราเลือก SYNEX และ IT เป็น Top Pick เพราะมี Valuation เทียบการเติบโตและดูน่าสนใจสุดในกลุ่ม
(0) CPF มีข่าวว่าจะร่วมมือกับ GUNKUL ทำ CPF Solar rooftop ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยจะติดตั้งบนหลังคาขนาด 40 mw ใน 34 โรงงานของ CPF มูลค่าโครงการ 1.4 พันลบ. จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 53 ล้านหน่วยต่อปีถือเป็นข่าวบวกต่อ CPF เพราะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการใช้พลังงาน เบื้องต้นลักษณะจะเป็น GUNKUL เป็นผู้ลงทุน และจะทำการขายไฟแบบมีส่วนลดให้กับ CPF ซึ่งคาดว่าจะเป็นโครงการระยะยาว ทั้งนี้เราอยู่ระหว่างรอข้อมูลที่ละเอียดกว่านี้จากทางบริษัทเพิ่มเติม ส่วนในเชิงของธุรกิจหลักเรายังมองฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q18 จากราคาหมูที่ดีขึ้น แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 28 บาท
(+) ผู้รับเหมาซื้อซองรถไฟเชื่อม 3 สนามบินต่อเนื่อง ภายหลังเปิดขายซองรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 2.2 แสนลบ. ตั้งแต่ 18-27 มิ.ย. 2018 มีเอกชนซื้อซองแล้ว 13 ราย โดยรฟม.กำหนดขายซองถึง 9 ก.ค. 2018 และรู้ผล 13 พ.ย. 2018 เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ เบื้องต้นเราจึงคาดว่าจะเห็นความร่วมมือกันระหว่างกลุ่ม BSR (BTS, STEC, RATCH) กับเอกชนอีก 1 ราย และ CK กับบริษัทลูกอย่าง BEM
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
28 มิ.ย.- สหรัฐฯ: 1Q18 GDP ขั้นสุดท้าย ตลาดคาดลดลงเหลือ 2.2% จาก 2.9%
29 มิ.ย.- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.)
- สหรัฐฯ: PCE Price Index (พ.ค.)
30 มิ.ย.- จีน: PMI ภาคการผลิต (มิ.ย.)
5-6 ก.ค.- สหรัฐฯ: เริ่มเก็บภาษีนำเข้าจากจีน 818 รายการ 3.4 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
12 ก.ค.- ไทย: สนช.นัดลงมติเลือก กกต. ชุดใหม่
(-) ตลาดสหรัฐปรับตัวลงหลังจากประเด็นสงครามทางการค้ายังคงถูกหยิบมาพูดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ หุ้นในกลุ่มการเงินและเทคโนโลยีเองก็ยังคงฉุดตลาดหุ้นสหรัฐ
(+) ภาพรวมตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นจากหุ้นในกลุ่มพลังงานงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
(-) ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง หลังจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจเรื่องผลกระทบจากสงครามทางการค้าที่อาจจะกระทบต่อ Supply Chain ในเอเชีย
() แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้น และยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 33.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นอีก 2.23 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 72.76 ดอลลาร์/บาเรลล์ หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับลดลงมากกว่าคาด รวมไปถึงคำขู่จากสหรัฐว่าจะคว่ำบาตรประเทศที่ซื้อขายน้ำมันกับอิหร่าน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 3.80 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,256.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO10564