- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 27 June 2018 07:56
- Hits: 1515
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Stay in Domestic and Defensive Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index รีบาวด์ได้ในช่วงครึ่งเช้าตามคาด ก่อนที่ช่วงบ่ายจะมีแรงขายออกมาในหุ้นขนาดใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารและค้าปลีก กดดันให้ดัชนีย้อนลงมาปิดลบกว่า 12 จุด ณ สิ้นวัน โดยยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับประเด็นสงครามการค้า นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นเร่งตัวขึ้นเป็น 2.6 พันลบ. ส่วนสถาบันในประเทศและรายย่อยซื้อสุทธิ 740 ลบ. และ 3.4 พันลบ.ตามลำดับ
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะอ่อนตัวลงและระยะนี้มีโอกาสเห็นการทดสอบระดับ 1,600 จุดจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบหลังล่าสุดมีข่าวว่าสหรัฐฯเตรียมออกมาตรการจำกัดการลงทุนต่อทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งทำให้ความกังวลเรื่องสงครามการค้าตึงเครียดมากขึ้น เราคาดว่าประเด็นดังกล่าวจะยังยืดเยื้อไปอีกพักใหญ่และกดดันให้ดัชนีรีบาวด์ได้จำกัด จึงยังเน้นพักเงินในหุ้น Domestic และ Defensive น่าจะสามารถเคลื่อนไหวได้แข็งแรงกว่าตลาด
กลยุทธ์ : พักเงินในหุ้น Domestic และ Defensive
หุ้นเด่นเดือนมิ.ย. : BGRIM, GLOBAL, MTC, PCSGH, TVO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$553 ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$328 ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$78ล้าน ขณะที่ เม็ดเงินไหลเข้าเวียดนามประเทศเดียวต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อีก US$3ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค จากความกังวลสงคราวการค้าที่ขยายวงกว้าง การค้าที่ขยายวงกว้าง
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> CPF <<
แนะนำซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ราคาเป้าหมาย 28 บาท
ได้ประโยชน์จากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน เพราะหลังจากจีนขึ้นภาษีนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ ก็หันมานำเข้าหมูจากเวียดนามมากขึ้น ทำให้ราคาขยับขึ้นจาก 29,000 ด่อง/ก.ก. ในปลาย 1Q18 เป็น 40,000 ด่อง/ก.ก. ซึ่งเป็นระดับสูงกว่าต้นทุนเลี้ยงที่ 34,000 ด่อง/ก.ก.
เงินบาทที่อ่อนยิ่งเป็นบวกต่อกำไรของ CPF โดยคาดว่าจะเห็นกำไรฟื้นใน 2Q18 และเร่งมากขึ้นใน 2H18 เพราะเป็น High Season ของการส่งออก ราคาหุ้นจึงน่าจะ Bottom out ไปแล้วในปลาย ก.พ. 18
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) สัปดาห์แห่งการปรับพอร์ตหุ้นเข้าออก SET50/SET100 โดยหุ้นที่เข้า SET50 คือ BGRIM DELTA GLOW KTC RATCH TOA ส่วนหุ้นที่ออกคือ BCP KCE PSH SAWAD TPIPP WHA และหุ้นที่เข้า SET100 คือ BLA ERW PRM RS THANI TTW ส่วนหุ้นที่ออกคือ ANAN BA BEC BIG JMART JWD MC MONO THCOM TTA UNIQ
(0) หุ้นที่คาดถูกทำ Window Dressing หลังจากเราได้วิเคราะห์ถึงโอกาสเกิด Window Dressing ไปแล้ววานนี้ว่ามีโอกาสที่จะเกิดราว 60% เราคาดว่าหุ้นที่ราคาเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับราคาปิด 1Q18 มีโอกาสที่จะมีแรงซื้อเข้ามาพยุงในระยะสั้น ซึ่งได้แก่ AOT BANPU CPALL CPF HMPRO IVL PSH TISCO และ TMB
(0) กลุ่มธนาคาร รายงานสินเชื่อเดือน พ.ค. +0.6% M-M KKP และ BAY นำการเติบโตของสินเชื่อที่ราว 2% M-M จากการเติบโตของสินเชื่อกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ขณะที่สินเชื่อ SME ยังเห็นการชะลอตัว ขณะที่สินเชื่อรายย่อยมีการเติบโตเล็กน้อยจากกลุ่มบัตรเครดิต เช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อบุคคล รวม 5M18 สินเชื่อ +1.4% YTD โดยที่ KKP มีการเติบโตของสินเชื่อสูง 9.6% เนื่องจากมีการเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าในการเติบโตของสินเชื่อเช่นการให้สินเชื่อแก่ผู้พัฒนาอสังหาฯที่มีความเสี่ยงต่ำลง กลุ่มธนาคารเราแนะนำ Neutral โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q18 จะชะลอ Q-Q เพราะการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียม ส่วน Y-Y อาจเห็นการเติบโตเล็กน้อยจากการตั้งสำรองฯที่ลดลง แนะนำ TISCO เป็น Top Pick เพราะคาดผลกระทบต่อรายได้ค่าธรรมเนียมน้อยที่สุด และคาดกำไร 2Q18 จะเห็นการเติบโตทั้ง Q-Q, Y-Y
(+) กลุ่มสื่อสาร เงื่อนไขการประมูลทีผ่อนคลายขึ้นสำหรับคลื่น 1800 MHz เป็นบวกกับ DTAC ในแง่การใช้เม็ดเงินลงทุนที่ต่ำลงในการประมูล ขณะที่การนำคลื่น 900 MHz กลับมาประมูลถือเป็นบวกอย่างมีนัยยะเพราะเป็นคลื่นที่ DTAC ต้องการและมีประโยชน์ในแง่การทำให้ Coverage อย่างไรก็ตามราคาประมูลคลื่น 900 MHz ที่สูงจะกดดันผลการดำเนินงานในระยะสั้น แต่เป็นบวกระยะยาวต่อความสามารถในการแข่งขัน เรายังอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการของ DTAC ซึ่งมองว่ายังไม่จำเป็นต้องรีบเข้าลงทุน โดยถ้าเป็นกลุ่มนี้ เรายังชอบ ADVANC (ราคาเหมาะสม 220 บาท) และ INTUCH (ราคาเหมาะสม 67.50 บาท) มากที่สุด
(+) กลุ่มสินค้าไอทีมีแนวโน้มโตต่อเนื่อง ยอดนำเข้าสินค้าไอทีงวด พ.ค. 18 เพิ่มขึ้นอีกถึง 29% Y-Y อยู่ที่ 24,793 ลบ. สูงสุดในรอบกว่า 6 ปี ทั้งที่เป็นช่วง Low Season ทำให้ยอด 5M18 เพิ่มขึ้น 18% Y-Y อยู่ที่ 1.17 แสนลบ. โดยได้แรงหนุนจากการออกสินค้ารุ่นใหม่ของทั้งสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ และการขายตัวเร็วของตลาดเกมมิ่ง ตัวเลขเชิงมหภาคที่ออกมาเป็นบวก ผนวกกับการจัดงาน Commart ที่เพิ่งจบไป 21-24 พ.ค. 18 ทำให้เราคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q18 ของผู้ค้าสินค้าไอทีในตลาดทั้ง COM7 IT และ SYNEX จะออกมาดีตาม เราแนะนำซื้อสะสม IT (ราคาเป้าหมาย 6.90 บาท) และ SYNEX (ราคาเป้าหมาย 20 บาท) จาก Valuation เมื่อเทียบกับการเติบโตที่น่าสนใจกว่า COM7
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
26 มิ.ย.- สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
28 มิ.ย.- สหรัฐฯ: 1Q18 GDP ขั้นสุดท้าย ตลาดคาดลดลงเหลือ 2.2% จาก 2.9%
29 มิ.ย.- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.)
6 ก.ค.- สหรัฐฯเริ่มเก็บภาษีนำเข้าจากจีน 818 รายการ 3.4 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
(-) ตลาดสหรัฐปรับตัวลง หลังจากสหรัฐมีแผนจะจำกัดการลงทุนในสินค้าประเภทเทคโนโลยี เช่น Robotics, New-energy vehicles และ Aerospace
(-) นอกเหนือจากประเด็นเรื่องสงครามทางการค้า ตลาดยุโรปยังถูกกดดันจากปัญหาการเมืองในอิตาลีที่ดูเหมือนจะมีความกังวลกลับมาอีกครั้ง
(-) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวลง หลังจากทั้งยุโรปและจีน เตรียมพร้อมที่จะตอบโต้สหรัฐ นอกจากนี้ ค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นยังกดดันตลาดหุ้นญีปุ่น
() ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก ล่าสุด ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 32.90 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 0.50 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 68.08 ดอลลาร์/บาเรลล์
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 1.80 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,268.90 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB : FINNANSIA SYRUS SECURITIES LINE : @fnsyrus
OO10459