- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 22 June 2018 18:35
- Hits: 2076
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ยังผันผวนแรง ทยอยสะสมลุ้น window dressing สัปดาห์หน้า
KGI คาด SET วันศุกร์ผันผวนแรง...น่าจะลงก่อนมีแรงสู้กลับ ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยคงมุมมองว่าดัชนีฯ แถว 1,640 สะท้อนค่าพีอีเรโช 12 เดือนข้างหน้าที่เพียง 14.0 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาที่อยู่สูงกว่า 16.0 เท่า และน่าจะรับรู้ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกไปมากแล้ว อย่างไรก็ดีค่าเงินบาทที่อยู่ในเชิงอ่อนค่า ผนวกกับความกังวลต่อผลกระทบของสงครามการค้าต่อเศรษฐกิจโลก จะส่งผลให้ฟันด์โฟลว์อยู่ในฝั่งขายต่อไปในช่วงสั้น เมื่อวานนี้โบรกฯ ต่างชาติแห่งหนึ่งปรับลดมุมมองต่อตลาดหุ้น EMs ส่งผลให้มีแรงขายกระจายในภูมิภาคแรงกว่าเราประเมิน นอกจากนี้นักลงทุนส่วนหนึ่งน่าจะชะลอกิจกรรมเพื่อติดตามผลประชุม OPEC ช่วงค่ำวันนี้เวลาประเทศไทย ล่าสุดสำนักข่าว CNBC รายงานว่าทีมเจรจาการค้าของสหรัฐฯ เริ่มเสียงแตก...ส่วนหนึ่งต้องการเจรจากับจีนใหม่เพื่อเลี่ยงสงครามการค้า เรามองว่าข่าวนี้อาจพลิกให้หุ้นโลกฟื้นตัวได้ในระยะถัดไปหากมีการเจรจาเกิดขึ้นจริง ด้านปัจจัยภายในประเทศ ตัวเลขส่งออก/นำเข้า พ.ค. ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง และสะท้อนโมเมนตัมที่ดีของ GDP ในไตรมาส 2/2561
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็บหุ้น พื้นฐานดี Valuation ไม่แพง
เราประเมินในภาวะตลาดผันผวนจากแรงขายนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน (รอบนี้คาดจากความกังวลเรื่องสงครามการค้า ซึ่งอาจกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้นบางกลุ่มเท่านั้น เช่น หุ้นกลุ่มที่พึ่งพิงเศรษฐกิจต่างประเทศเป็นหลัก, หุ้นขนส่งระหว่างประเทศ เป็นต้น) จะทำให้หุ้นขนาดใหญ่มีแรงขายมากกว่าปกติ ขณะที่หุ้นขนาดกลาง – เล็ก (ที่พื้นฐานไม่เปลี่ยน) และมี Valuation ไม่แพง คาดว่าจะ Outperform ตลาดฯ ... อย่างไรก็ดีจากภาวะตลาดที่ Oversold อาจทำให้มีแรงเก็งกำไรรีบาวด์ในหุ้นขนาดใหญ่ (SET50 หรือ SET100 ที่มีเครื่องมืออนุพันธ์ ซึ่งอาจมีผลจากการซื้อคืนปิดสถานะชอร์ตด้วยอีกแรง แต่ควรเน้นหุ้นที่พื้นฐานดีไม่เปลี่ยน และยังมี Upside เช่น BANPU*, IVL*, SGP* เป็นต้น) แต่สำหรับ “กลยุทธ์การเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ลุ้นรีบาวด์” เราไม่แนะนำสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย
i) หุ้นพื้นฐานดี Valuation ไม่แพง: สำหรับหุ้นกลุ่มนี้ “เน้นสะสมเมื่อราคาย่อตัวตามภาวะตลาดฯ” เราแบ่งหุ้นออกเป็น 3 กลุ่ม i) ธีม EEC + เลือกตั้ง เลือก CK* (แนวรับ 25 บาท และ 24.6 บาท) และ AMATA* (แนวรับ 19.4 บาท และ 19.0 บาท) ii) กลุ่มยานยนต์ เลือก AH (แนวรับ 36.5 บาท และ 35.5 บาท) และ ASAP (แนวรับ 5.9 บาท / แนวต้าน 6.35 บาท, Stop loss 5.85 บาท) iii) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ เลือก BBL* (แนวรับ 193 บาท และ 191 บาท)
ii) หุ้นขนาดกลาง – ขนาดเล็กที่เราแนะนำไปก่อนหน้า เรายังคงประเมินหุ้นขนาดกลาง – เล็กที่พื้นฐานดี ราคาไม่แพงมาก ยังมี Upside จากราคาเหมาะสม จะยังปลอดภัยจากแรงขายต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน มีโอกาส Outperform ตลาดฯได้ แนะนำ “ถือ / ซื้อสะสม” COM7* (แนวรับ 17.4 บาท / แนวต้าน 18.4 บาท, Stop loss 17.2 บาท), PLANB* (แนวรับ 6.15 บาท / แนวต้าน 6.6 บาท (Stop loss 6.0 บาท)
หุ้นมีข่าว
(+) PTTEP* ยึดแหล่งบงกชเบ็ดเสร็จ (โพสต์ทูเดย์) ปตท.สผ. ทุ่ม 2.4 หมื่นล้าน ซื้อหุ้นในแหล่งบงกชจากเชลล์เสร็จสมบูรณ์ เสริมความมั่นคงพลังงาน นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า การเข้าซื้อหุ้นในแหล่งบงกชจากบริษัทในเครือเชลล์สัดส่วน 22.2222% ซึ่งได้ ลงนามในสัญญาการโอนสิทธิสัมปทานเมื่อเดือน ม.ค. 2561 มีผลสมบูรณ์แล้ว โดยได้รับการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2561 และทุกฝ่ายได้ ลงนามในสัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติมแล้วเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2561 ส่งผลให้ ปตท.สผ. มีสัดส่วนการลงทุนในแหล่งบงกชเพิ่มขึ้นเป็น 66.6667% ด้วยมูลค่าก่อนภาษีประมาณ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.4 หมื่นล้านบาท
(0) อนันต์ทุ่มซื้อหุ้น LH* (โพสต์ทูเดย์) "อนันต์" ทุ่ม 1.4 หมื่นล้าน ซื้อหุ้น LH* ในกระดานอีก 10% หวังลงทุนระยะยาว บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH*) แจ้งว่า บริษัทได้รับหนังสือแจ้งความประสงค์ที่จะทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วนจากนายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เพื่อซื้อหุ้นของบริษัทที่ราคาหุ้นละ 11.80 บาท 1,195 ล้านหุ้น หรือ 10% ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท รวมมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท พร้อมกับหนังสือยืนยันสนับสนุนการเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB*)
(-) "พาณิชย์"ถกกลุ่มยานยนต์-ชิ้นส่วน วางแผนชี้แจงสหรัฐฯสกัดถูกขึ้นภาษี (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) "พาณิชย์" ถกเอกชนกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน ติวเข้มข้อมูลชี้แจงสหรัฐฯ หลังเปิดไต่สวนขึ้นภาษีนำเข้า ยันส่งออกไทยไม่กระทบอุตสาหกรรมภายใน ไม่ได้เป็นภัยคุกคาม มีแต่ช่วยสนับสนุนการเติบโต คาดสหรัฐฯ สรุปผลการพิจารณา มี.ค.62 และส่งให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดสิน เผยเครื่องซักผ้าและแผงโซลาร์ ที่เจอมาตรการก่อนหน้า ได้รับผลกระทบ แล้ว ยอดส่งออกลดลง แต่เหล็กและ อะลูมิเนียม ยังขอยกเว้นภาษีได้
(+) BEM*-ฟูจิตะร่วมซื้อซองรถไฟ3สนามบิน เอกชนไทย-ไทยแห่ชิงดำส่อแข่งเดือด (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) "BEM*" และ ฟูจิตะ คอร์ปอเรชั่น ซื้อซองประมูล รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เปิดขาย 4 วัน มีเอกชนรวม 10 รายสนใจ ซึ่งมีทั้งผู้รับเหมารายใหญ่ของไทยและต่างประเทศ, ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS-BEM รวมถึงซีพีและบริษัทลูกของ ปตท.
(+) KBANK* อนุมัติเงินกู้เอสเอ็มอีผ่านมือถือสูงสุด 1 ล้าน (โพสต์ทูเดย์) กสิกรปล่อยกู้เอสเอ็มอีผ่านมือถือเป็นรายแรก คลิกปุ๊บ รับเงินสูงสุด 1 ล้าน ภายใน 1 นาที ตั้งเป้าปล่อยกู้ปีนี้ 3,000 ล้าน นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยนำปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) มาสร้างโมเดลอัจฉริยะวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ทั้งพฤติกรรมด้านการเงินและความต้องการ เพื่อนำเสนอสินเชื่อให้ลูกค้าเอสเอ็มอีผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นธนาคารแรก โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 1 ล้านบาท และไม่ใช้หลักประกัน ไม่ต้องยื่นเอกสาร เพียงใช้เวลา 1 นาที สามารถรับเงินทันที โดยปีนี้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีผ่าน มือถือ 3,000 ล้านบาท
(+) ไอทีคึกคักกำลังซื้อฟื้น อี-สปอร์ตบูมนำภาพรวมโต จับตาสินค้ามือถือเกมจุดพลุปลายปี (โพสต์ทูเดย์) คอมมาร์ตชี้พฤติกรรม ผู้บริโภคเปลี่ยน เมินสินค้าราคาถูกเน้นคุณค่าราคาเหมาะสม ค่ายมือถือเปิดตัวรุ่นใหม่ คาดเงินสะพัดงาน 3,000 ล้าน นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บริษัท เออาร์ไอพี ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า ภาพรวมกลุ่มสินค้าไอทีครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มว่าการเติบโตจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังซื้อสินค้าไอทีครึ่งปีแรกมีสัญญาณที่ดี และคาดว่าจะดีขึ้นตามลำดับในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีปัจจัยบวกจากการตัดสินใจซื้อสินค้าไม่ได้พิจารณาด้านราคาถูก แต่มองว่าสินค้าที่มีมูลค่าและราคาที่เหมาะสมมากกว่า และในช่วงครึ่งปีหลังค่ายมือถือต่างๆ เปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆ ลงสู่ตลาด
(-) TOA หั่นรายได้ซ่อมบ้านไม่ฟื้น (โพสต์ทูเดย์) TOA ลดเป้ารายได้เติบโตไม่ถึง 10% หลังตลาดซ่อมบ้านเก่า ไม่ฟื้นตามที่คาด ปรับราคาสินค้าขึ้นแล้ว 5% ครอบคลุมต้นทุนผลิตครึ่งหนึ่ง นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) หรือ TOA เปิดเผยว่า บริษัทได้ลดเป้ารายได้ปีนี้เป็นจะเติบโตน้อยกว่า 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 1.57 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 10% หลังเห็นตลาดซ่อมบ้านเก่าสำหรับผู้บริโภคทั่วไปไม่สามารถเติบโตอย่างที่คาดไว้ ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจยังทรงตัว ส่วนหนึ่งเพราะรายได้และกำลังซื้อของเกษตรกรไม่ได้ฟื้นตัวทั่วถึง เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรที่ดีขึ้นมีเพียงข้าวกับมันสำปะหลังเท่านั้น ส่วนราคายางพารากับอ้อยยังไม่ดี
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
COM7* (เป้า Consensus 21.07 บาท) ประเมินแนวรับ 17.4 บาท / แนวต้าน 18.4 บาท (Stop loss 17.2 บาท)
AH (เป้า Consensus 43 บาท) ประเมินแนวรับ 36.5 บาท และ 35.5 บาท / แนวต้าน 38.5 บาท (Stop loss 35.5 บาท)
ASAP (เป้า Consensus 10.09 บาท) ประเมินแนวรับ 5.9 บาท / แนวต้าน 6.35 บาท (Stop loss 5.85 บาท)
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 7.95 บาท) ประเมินแนวรับ 6.15 บาท / แนวต้าน 6.6 บาท (Stop loss 6.0 บาท)
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มโรงพยาบาล (น้ำหนักการลงทุนเท่ากับตลาด) เรายังคงมั่นใจว่าการลงทุนของโรงพยาบาลต่างๆ ที่เราดูแลอยู่จะชะลอลงในอีกสองสามปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับอัตราการทำกำไรของกลุ่มโรงพยาบาล ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ เราคาดว่าผลประกอบการจะมีแนวโน้มสดใสมากขึ้นใน 2H61 เรายังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ Neutral ในช่วง low season โดยยังคงเลือก BCH เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม นอกจากนี้ เรายังคาดว่าผลประกอบการของ BDMS จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY ใน 2Q61
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยต้าน 1640 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1640 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1640-1665 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1640 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1640-1615 จุด
แนวรับวันนี้: 1629/1618 แนวต้านวันนี้: 1640/1654
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
OO10376